WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

01 CFABAFสงออกอญมณ7

ส่งออกอัญมณี 7 เดือนพุ่ง 29.29% ได้แรงหนุนส่งทองคำเก็งกำไร คาดเทรดวอร์ดันยอดไปสหรัฐฯ เพิ่ม

       สถาบันอัญมณีฯ เผยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ 7 เดือนพุ่ง 9,025 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 29.29% ได้แรงหนุนจากการส่งออกทองคำเพิ่มแรงถึง 72.67% จากการส่งออกไปเก็งกำไรส่วนต่างราคา แถมคนแห่ซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย ด้านตลาดอาเซียนมาแรง โต 106% ตามด้วยอินเดีย 91% ระบุสหรัฐฯ ขึ้นภาษีเครื่องประดับจีน สินค้าไทยมีโอกาสชิงตลาด แต่ต้องระวังปัจจัยเสี่ยง ทั้งสงครามการค้า ฮ่องกงป่วน บาทแข็ง

       นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วง 7 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 9,025.29 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.29% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 283,685.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.56% หากหักทองคำ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนออก การส่งออกมีมูลค่า 4,433.09 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.59% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 139,514.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.12%

      ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกในช่วง 7 เดือนของปี 2562 เพิ่มขึ้น มาจากการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นถึง 72.67% โดยเป็นการส่งออกเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา จากราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนก.ค.2562 ราคาอยู่ที่ 1,412.98 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และยังมีความวิตกต่อข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป (อียู) และอิหร่าน ทำให้เกิดแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยตลาดส่งออกทองคำ 3 อันดับแรกของไทย คือ สวิตเซอร์แลนด์ มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 56% รองลงมา คือ สิงคโปร์ และกัมพูชา

     ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญหลายรายการ มีการส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น พลอยสี เพิ่ม 20.41% พลอยก้อน เพิ่ม 262.48% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่ม 11.70% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่ม 14.67% เครื่องประดับเทียม เพิ่ม 4.18% เศษหรือของที่ไม่ได้ทำด้วยโลหะมีค่า เพิ่ม 185.17% ส่วนเครื่องประดับแท้ ลด 10.53% เครื่องประดับเงิน ลด 19.75% เครื่องประดับทอง ลด 6.24% เพชร ลด 6.48% เพชรก้อน ลด 22.45% เพชรเจียระไน ลด 5.32%

     สำหรับ ตลาดส่งออก พบว่า อาเซียนเติบโตแรงสุด 106.28% เป็นผลจากการส่งออกไปสิงคโปร์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 82% ได้เพิ่มขึ้นถึง 178% และยังส่งออกไปเวียดนามเพิ่ม 69.26% รองลงมา คือ อินเดีย เพิ่ม 91.01% จากการส่งออกวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบได้เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดที่ยังขยายตัวติดลบ เช่น ฮ่องกง ลบ 6.66% สหภาพยุโรป ลด 10.51% สหรัฐฯ ลบ 5.59% กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ลบ 2% ญี่ปุ่น ลด 7.55% จีน ลบ 10.48% ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ลบ 25.01% รัสเซียและเครือรัฐเอกราช ลบ 76.95%

      “การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในช่วง 7 เดือน ถ้าไม่รวมทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะได้รับผลดีจากแรงซื้อของอาเซียนและอินเดีย แต่ตลาดหลักอื่นๆ ทั้งฮ่องกง สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่เข้มข้นมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ทำให้คนระวังการใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย และยังได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า ที่ใช้ช่วง 7 เดือนแข็งขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐ ทำให้ไทยสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขัน”นางดวงกมลกล่าว

       นางดวงกมล กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีปัจจัยบวกมาจากกลุ่มผู้มีกำลังซื้อที่ยังต้องการบริโภคสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย และคำสั่งซื้อสินค้าสำหรับจำหน่ายในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ในช่วงปลายปี และน่าจะได้รับผลดีจากสงครามการค้า หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก และหนึ่งในนั้นมีสินค้าในกลุ่มเครื่องประดับรวมอยู่ด้วย จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งสินค้าเข้าไปทดแทนสินค้าจากจีนในตลาดสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น

     อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาความไม่แน่นอนของสงครามการค้า ปัญหาความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน การประท้วงในฮ่องกง ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของคู่ค้าของไทย รวมถึงเงินบาทที่ยังคงอยู่ในทิศทางแข็งค่า โดยผู้ส่งออกต้องปรับกลยุทธ์ให้ทันท่วงที เน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้า และเจาะกลุ่มเฉพาะให้มากขึ้น เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มสาวโสด กลุ่มคนรักสัตว์ เป็นต้น และอย่าลืมบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!