- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 05 September 2019 10:09
- Hits: 3454
พาณิชย์ เผยมี 100 ราย แจ้งถูกรพ.โขกค่ายา-ค่ารักษาแพง เร่งประสานขอหลักฐาน ก่อนฟัน
กรมการค้าภายในเปิด 'ศูนย์รับแจ้งความคดียา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์'อย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ป่วย 100 รายโทรแจ้ง ถูกคิดค่ายาและค่ารักษาเกินจริง เผยได้ประสานขอหลักฐาน ก่อนจัดการตามกฎหมาย ล่าสุดมี 10 กรณีอยู่ระหว่างการพิจารณาฟ้องไม่ฟ้อง พร้อมเปิด 10 รายชื่อยาคนใช้มากสุดในโรงพยาบาลเอกชน ยันได้แก้ปัญหาด้วยการให้เขียนใบสั่งยา และให้นำใบสั่งยาไปซื้อยาที่ร้านขายยาแล้ว
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เปิดศูนย์ 'รับแจ้งความคดียา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์' อย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อให้ประชาชนร้องเรียนกรณีโรงพยาบาลเอกชนคิดค่ายาและค่ารักษาพยาบาลไม่เป็นธรรม หลังจากที่โรงพยาบาลเอกชนกว่า 300 แห่งได้ส่งราคาซื้อขายยามายังกรมฯ ทั้งหมดแล้ว โดยล่าสุด มีประชาชนร้องเรียนและสอบถามผ่านสายด่วน 1569 ประมาณ 100 ราย ส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่ถูกโรงพยาบาลเอกชนคิดค่ายาและค่ารักษาพยาบาลที่แพงเกินจริง
“นับตั้งแต่เดือนส.ค. มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาร้องเรียนกับกรมฯ มากขึ้น หลังจากที่กรมฯ ได้เข้าไปแก้ไขปัญหายาและค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนที่มีราคาแพง ซึ่งเมื่อรับเรื่องร้องเรียนแล้ว เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้นำหลักฐานมาส่งให้ที่ศูนย์ หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ และส่งดำเนินคดีแทนประชาชนด้วย”
ทั้งนี้ ในภาพรวม มีประชาชนที่มายื่นหลักฐานเกี่ยวกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากโรงพยาบาลเอกชนแล้วกว่า 10 เรื่อง โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะฟ้องไม่ฟ้องประมาณ 8 เรื่อง
สำหรับ โรงพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้ส่งข้อมูลต้นทุนราคายาให้กรมฯ จำนวน 48 โรงพยาบาลนั้น โรงพยาบาลได้ทยอยเข้ามาชี้แจงกับกรมฯ อย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องของการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน รวมถึงมีโรงพยาบาลแจ้งเลิกกิจการไป 1 ราย ซึ่งเป็นปัญหาทางธุรกิจ มีเปิดกิจการใหม่ 2 ราย และมี 1 รายที่เปลี่ยนจากกิจการโรงพยาบาลแล้วลดขนาดมาเป็นคลินิก เป็นต้น
นายประโยชน์กล่าวว่า กรมฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลรายการยาต่างๆ พบว่า มียาจำนวน 10 รายการที่ประชาชนใช้บริการจากโรงพยาบาลเอกชนมาก โดยอันดับ 1 ได้แก่ ยาพาราเซตามอล ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการแก้ไข้ แก้ปวดหัว , อันดับ 2 ยาแอสไพริน เป็นยาแก้ปวดหัว , อันดับ 3 ยาไอบูโพรเฟน เป็นยาแก้ปวด , อันดับ 4 ยาอ็อกซิซิลลิน เป็นยารักษาโรคที่มีสาเหตุการติดเชื้อมาจากแบคทีเรีย เช่น การติดเชื้อเกี่ยวกับทางเดินหายใจ , อันดับ 5 ยาโรอิโทรมัยซิน เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียการรักษาไวรัสหวัด , อันดับ 6 ยาเพนิซิลลิน เป็นยาปฏิชีวนะที่รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย , อันดับ 7 ยาไซเมทิโคน เป็นยาบรรเทาอาการท้องอืด , อันดับ 8 ยาคาร์วีดิลอล เป็นยาลดความดันโลหิต , อันดับ 9 ยาไดออสเม็กไทต์ เป็นยารักษาอาการท้องเสีย เฉียบพลันและรุนแรง และอันดับ 10 ยาเมเฟนามิค เป็นยาเกี่ยวกับแก้ปวดประจำเดือน
“ประชาชนที่เข้าไปรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับการเป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน เป็นหวัด หรือไม่ก็เป็นเรื่องของการติดเชื้อทางเดินหายใจ ท้องอืด ท้องเสีย และเป็นความดัน ซึ่งตัวยาส่วนใหญ่ หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป จึงเป็นสาเหตุให้กระทรวงพาณิชย์ต้องการให้โรงพยาบาลเอกชนออกใบสั่งยาและใบแจ้งราคายากับผู้ป่วยล่วงหน้า เพื่อเป็นทางเลือกให้สามารถนำใบสั่งยาไปซื้อจากร้านขายยาทั่วไปได้”นายประโยชน์กล่าว
Click Donate Support Web