- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 02 September 2019 09:58
- Hits: 3471
ธุรกิจไทยเข้าสู่ยุค 4.0 ใช้บริการออนไลน์พุ่ง ทั้งยื่นจดทะเบียน ขอข้อมูล ตรวจสอบนิติบุคคล ส่งงบ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยธุรกิจไทยปรับตัวเข้าสู่ยุค 4.0 ได้เร็ว หลังพบสถิติการใช้บริการออนไลน์ที่ครอบคลุมทั้งด้านการจดทะเบียนธุรกิจ ขอข้อมูลธุรกิจ ตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล และส่งงบการเงิน มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เตรียมเดินหน้าพัฒนาต่อยอด ตอบโจทย์การใช้งานสะดวก ง่าย คล่องตัว ประหยัดค่าใช้จ่ายต่อไป
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สถิติผู้เข้ามาใช้บริการของกรมฯ ผ่านช่องทางออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าภาคธุรกิจไทยมีความพร้อมที่จะเข้าสู่โลกการค้ายุค 4.0 และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมาช่วยลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ สามารถทำให้ธุรกิจมีแต้มต่อและแข่งขันได้ดีขึ้น
สำหรับ บริการแรกที่มีความสำคัญกับการประกอบธุรกิจ คือ การจองชื่อนิติบุคคลออนไลน์ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกก่อนเข้าสู่การจัดตั้งธุรกิจ โดยกรมฯ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 ม.ค.2556 มีผู้ใช้บริการแล้ว 171,238 คำขอ ปัจจุบันได้รวมขั้นตอนนี้เข้ากับระบบจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจออนไลน์ หรือ e-Registration (สามารถใช้งานผ่าน Smart Phone ได้) ช่วยลดขั้นตอนการจัดตั้งธุรกิจให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และอนาคตจะยกระดับให้สามารถยืนยันตัวตนผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยไม่ต้องเดินทางมายังกรมฯ รวมถึงปรับรูปแบบการกรอกข้อมูลให้ง่ายขึ้น เพิ่มช่องทางให้ผู้แทนรับจดทะเบียนสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนแทนได้ โดยจากสถิติการใช้บริการผ่านระบบ e-Registration ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 พบว่า มีธุรกิจให้การตอบรับเข้ามาจดทะเบียนมากถึง 21,859 คำขอ
ส่วนด้านข้อมูลธุรกิจ มีบริการที่สามารถเข้าใช้งานผ่านหลายช่องทาง ได้แก่ e-Service บริการออกหนังสือรับรอง รับรองสำเนาเอกสารทางทะเบียน และตรวจค้นเอกสาร เริ่มให้บริการตั้งแต่ 16 ม.ค.2549 ผ่าน 3 ช่องทาง คือ walk-in , EMS และ Delivery และล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2561 ได้เปิดให้บริการ DBD e-Certificate File เป็นการขอรับบริการข้อมูลในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ มีผู้เข้าใช้บริการผ่านระบบ e-Service ทั้งหมด 2,006,015 ราย และยังร่วมมือกับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรให้บริการ e-Certificate การขอหนังสือรับรองและรับรองสำเนาเอกสารผ่านทางธนาคาร จำนวน 9 แห่ง 3,967 สาขา มีผู้ใช้บริการแล้ว 1,103,404 ราย
นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีบริการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลด้วยตนเองผ่าน 2 ช่องทาง คือ DBD Datawarehouse+ เข้าใช้งานผ่าน www.dbd.go.th เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 26 ก.พ.2556 มีผู้ใช้บริการแล้ว 41,176,087 ครั้ง และแอปพลิเคชั่น DBD e-Service เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2557 ครอบคลุมบริการประเภทต่างๆ เช่น ข้อมูลนิติบุคคล งบการเงิน และร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ เป็นต้น มีผู้ใช้บริการแล้ว 16,581,278 ครั้ง และกำลังพัฒนาข้อมูลให้รองรับผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความละเอียดของข้อมูลในเชิงลึกแต่ละรายพื้นที่ , วิเคราะห์ความเหมาะสม และสามารถพยากรณ์โอกาสการเติบโตของธุรกิจในแต่ละพื้นที่ได้ ซึ่งจะส่งเสริมให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้อย่างถูกทิศทางและปรับตัวได้รวดเร็ว
ขณะที่บริการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ DBD e-Filing เริ่มให้บริการเมื่อ 16 ม.ค.2558 และเป็นเรื่องน่ายินดีที่นิติบุคคลได้หันมาใช้ DBD e-Filing แทนการนำส่งในรูปแบบกระดาษเกือบ 100% โดยการนำส่งงบการเงินประจำปี 2561 มีผู้ใช้ระบบนี้มากถึง 507,992 ราย คิดเป็น 93% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด 545,807 ราย
“กรมฯ รู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอขอบคุณภาคเอกชนและประชาชนผู้ใช้บริการของกรมฯ ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้การตอบรับและตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งกรมฯ จะเดินหน้าพัฒนาต่อยอดงานให้บริการให้มีความสะดวก ง่าย คล่องตัว ประหยัดค่าใช้จ่าย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป”นายวุฒิไกรกล่าว
Click Donate Support Web