WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaDBBCทตพาณชย

'จุรินทร์'มอบนโยบาย 'ทูตพาณิชย์' เป็นนักการตลาดกิตติมศักดิ์ช่วยเอกชนค้าขาย

     'จุรินทร์'มอบนโยบายทูตพาณิชย์ ทำตัวเป็นนักการตลาดกิตติมศักดิ์ลุยเปิดตลาด และช่วยนำเอกชนขยายตลาดส่งออก หวังดันส่งออกปีนี้เข้าเป้า 3% และปีหน้า 3.5% ด้านทูตพาณิชย์รับลูก กางแผนขยายตลาดเร่งด่วน ทั้งตลาดหลัก ตลาดใหม่ และตลาดฟื้นฟู

       นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายเพื่อเชื่อมโยงการปฏิบัติงานของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ 58 แห่งทั่วโลก พาณิชย์จังหวัด และทูตเกษตร พร้อมทั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมว่า การจัดประชุมครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อทำแผนเร่งรัดผลักดันการส่งออกของไทยในปี 2562 ให้มีการขยายตัวได้ 3% และปี 2563 เพิ่มขึ้น 3.5% ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้มีการขับเคลื่อนการส่งออก และหาโอกาสส่งออกจากการปรับเปลี่ยนทิศทางการค้าจากความขัดแย้งจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

         โดยในการประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของรัฐบาลนี้ ที่มีการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งจะมีการทำงานร่วมกันภายใต้ยุทธศาสตร์การตลาดนำการผลิต โดยทูตพาณิชย์ต้องช่วยดูแลและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า ต้องช่วยเจรจาผ่อนผันกรณีที่ไทยยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับกฎระเบียบใหม่ได้ทัน ส่วนทูตเกษตร ต้องช่วยดูแลเรื่องมาตรฐาน เงื่อนไข ข้อกำหนดเกี่ยวกับสินค้าเกษตรที่ต่างประเทศกำหนด และเร่งรัดการเจรจาเพื่อปลดล็อก หรืออย่างน้อย ขอยืดเวลาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าเกษตรไทย

        สำหรับ บทบาทของทูตพาณิชย์ ต้องทำงานอย่างมืออาชีพ ปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วน และคิดกลยุทธ์ใหม่ ตามอำนาจหน้าที่ เพราะการทำกลยุทธ์แบบเดิม ทำให้ผลลัพธ์เหมือนเดิมเป็นเรื่องยาก เพราะปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยน ไม่ต้องเลิกของเก่าที่ดีอยู่แล้ว แต่เพิ่มสิ่งใหม่ที่ดีขึ้น และต้องการให้ทูตพาณิชย์ปรับตัวเป็นผู้นำทัพเสริมเอกชนให้สามารถส่งออกเพิ่มได้ และปรับเป็นพนักงานขายกิตติมศักดิ์เพื่อให้ผ่านสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะการขายสินค้าในนามรัฐต่อรัฐ (G2G) และรัฐบาลกับเอกชน (G2C) ให้มากขึ้น โดยให้ทำแผนปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงระยะ 3–6 เดือน

       นางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจอลิส สหรัฐฯ ในฐานะตัวแทนทูตพาณิชย์ที่นำเสนอแผนการขยายตลาดหลัก กล่าวว่า ปัญหาสงครามการค้าไม่ส่งผลกระทบกับการส่งออกสินค้าไทยมากนัก แต่จะเป็นประโยชน์ เพราะเป็นการขึ้นภาษีสินค้าอุปโภคเป็นหลัก ซึ่งไทยมีศักยภาพการผลิตอยู่แล้ว เช่น เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับเทียม ของตบแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และล่าสุดมีผู้นำเข้าหลายรายที่สนใจจะสั่งซื้อสินค้าจากไทย

      ส่วนแผนการเจาะตลาดสหรัฐฯ มีสินค้าเป้าหมาย คือ ข้าวหอมมะลิ อาหารแปรรูปจากอาหารทะเล ผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา แอนิเมชันและดิจิทัลคอนเทนท์ เน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และเร่งขยายตลาดออนไลน์ , ตลาดจีน จะเร่งเจาะตลาดเมืองรอง และผลักดันสินค้าข้าว ผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย , ตลาดญี่ปุ่น มีสินค้าเป้าหมาย คือ ข้าว อาหารแปรรูป ผลไม้ และสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยแผนเร่งด่วน จะส่งเสริมข้าวไรซ์เบอร์รี่ กล้วยหอมทอง และจะจัดบูธอาหารไทยในช่วงที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก , ตลาดสหภาพยุโรป มีสินค้าเป้าหมาย ข้าว ยางพารา ผักและผลไม้ มีแผนเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ANUGA 2019 และผลักดันขายผักและผลไม้ออนไลน์ , ตลาดอาเซียน มีสินค้าเป้าหมาย คือ ข้าว อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์จากแป้ง ผัก ผลไม้ ยางพารา จะเน้นการขยายตลาดโดยร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า การจัดงานแสดงสินค้าไทย และจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ

    น.ส.สุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ อินเดีย ผู้นำเสนอแผนตลาดใหม่ กล่าวว่า สินค้าที่มีโอกาสในตลาดอินเดีย คือ ยางพารา มีแผนจะเปิดเจรจาขยายตลาดยาง โดยเฉพาะน้ำยางที่จะนำไปทำถนน รวมเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยาง ที่มีความต้องการนำไปใช้ในโรงแรม โรงเรียนและออฟฟิศ ส่วนน้ำมันปาล์ม พบว่ามีความต้องการนำเข้าไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และไม่ใช่อาหาร โดยมีแผนที่จะจัดคณะไปเจรจาธุรกิจ และร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ และเอกชนต่อเอกชน เพื่อเพิ่มโอกาสส่งออก ขณะที่ผลไม้ มีโอกาสทั้งมังคุด ลำไย เงาะ มะม่วง และมะขามหวาน

     นายปณต บุณยะโหตระ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้นำเสนอแผนตลาดฟื้นฟู กล่าวว่า จะเดินหน้าฟื้นฟูตลาดข้าวในอิรัก โดยขณะนี้กำลังประสานเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอิรักอยู่ ได้รับการตอบรับที่ดี มีเป้าหมายที่จะผลักดันการส่งออกข้าวประมาณ 8 แสนตัน ส่วนสินค้าที่มีโอกาสขยายตลาดในตะวันออกกลาง ยังคงเป็นสินค้ากลุ่มอาหารฮาลาล วัสดุก่อสร้าง และเครื่องปรับอากาศ และยังมีแผนใช้โอมานเป็นประตูส่งสินค้าไทยเจาะเข้าสู่ตลาดกาตาร์ด้วย

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!