- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Tuesday, 27 August 2019 16:57
- Hits: 1729
คต. ร่วมมืออาเซียนถกความมั่นคงด้านอาหารในอนาคต
กรมการค้าต่างประเทศเผยผลการประชุม AFSRB ครั้งที่ 39 อาเซียนเดินหน้าร่วมมือเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ความท้าทายและความมั่นคงทางอาหารของโลกในอนาคต
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Reserve Board : AFSRB) ครั้งที่ 39 ณ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2562 โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมรวม 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน เมียนมา กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ และมีผู้แทนจากองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียน+3 (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve : APTERR) และคณะกรรมการดำเนินงานระบบข้อมูลสารสนเทศความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Information System Project : AFSIS) ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์และแนวโน้มของแต่ละประเทศสมาชิก ของอาเซียนและของโลกเกี่ยวกับการผลิต การบริโภค การค้า และปริมาณสต็อกสินค้าอาหารหลักของอาเซียน 4 ชนิด คือ ข้าว ข้าวโพด น้ำตาล และถั่วเหลือง รวมทั้งใช้เวทีนี้หารือแนวทางสนับสนุนความร่วมมือของกลุ่มสมาชิกอาเซียนในการสร้างความสมดุลด้านอาหารเพื่อรับมือต่อสถานการณ์ความท้าทายและความมั่นคงด้านอาหารของโลกในอนาคต
ในการประชุม AFSRB ปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมา โดยได้เชิญหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างความมั่นคงทางอาหารโดยใช้ที่ดินและทรัพยากรจากผืนป่า(ASEAN-Swiss Partnership on Forestry and Climate Chance : ASFCC) มาให้คำแนะนำในประเด็นที่ประเทศสมาชิก AFSRB ต้องให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและความมั่นคงทางสภาพแวดล้อม เนื่องจากเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของโลกต่อไป รวมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการที่ดินอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้การปลูกพืชมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยกระจายความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนหารือเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนากรอบความร่วมมือ AFSRB ในอนาคต
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบและชื่นชมการดำเนินการของ APTERR ในการให้ความช่วยเหลือบริจาคข้าวในปี 2562 ปริมาณรวม 4,160 ตัน ให้กับผู้ประสบอุทกภัยทั้งในประเทศ สปป. ลาว เมียนมา และ ฟิลิปปินส์ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จของความร่วมมือทางด้านอาหารในภูมิภาคอาเซียน
นายอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการดังกล่าวจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2523 ถือเป็นหนึ่งในกรอบความร่วมมือความมั่นคงด้านอาหารระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างหลักประกันความมั่นคงด้านอาหารและเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อสร้างความเข้มแข็งในภูมิภาคมาตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปี โดยประเทศไทยในฐานะฝ่ายเลขานุการถาวร AFSRB เป็นผู้ผลักดันและขับเคลื่อนกลไกกรอบความร่วมมือให้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่ความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาคอาเซียนที่มีทรัพยากรอาหารอุดมสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต สำหรับการประชุม AFSRB ครั้งถัดไปจะจัดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม โดยระหว่างนี้ประเทศสมาชิกจะต้องร่วมมือกันทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันความร่วมมือให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
Click Donate Support Web