WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

พาณิชย์ เปิดทางเอกชนขอขึ้นราคาสินค้า แต่ต้องแจงเหตุผลชัดเจน พร้อมเชิญทูตพาณิชย์ ประชุม ต.ค.นี้ กำหนดเป้าส่งออกปี 58

     พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันหาแนวทางดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงนี้นั้น มีข้อสรุปร่วมกันที่จะช่วยกันดูแลราคาสินค้า แต่หากจะปรับราคาเพิ่มขึ้นก็ต้องมีเหตุผลชัดเจนและตอบได้ว่ามีต้นทุนเพิ่มจากส่วนใด และขึ้นเท่าใดถึงจะรับได้ ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภค แต่ในภาพรวมผู้ประกอบการยังให้ความร่วมมือตรึงราคาสินค้า เพราะต้นทุนยังไม่เพิ่ม หรือหากจะปรับราคาพลังงานก็ยังต้องมีการประเมินต้นทุนในภาพรวมก่อน

    "การขอปรับขึ้นราคา ถ้าเอกชนแบกรับต้นทุนไม่ไหวจริง ก็เสนอโครงสร้างต้นทุนเข้ามาได้ โดยการปรับราคาจะต้องมีเหตุผลชัดเจน เช่น น้ำมันขึ้นราคาแล้วมาอ้างขอปรับราคาสินค้า คงไม่ใช่เหตุผลนี้ ต่อไปนี้ภาครัฐและเอกชนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ถ้าเอกชนมีปัญหาอะไรก็เสนอมาให้รัฐแก้ไข หากแก้ไขในระดับกระทรวงฯไม่ได้ ก็จะเสนอครม.ให้พิจารณาแก้ไข พล.อ.ฉัตรชัย

    ส่วนการมอบนโยบายการทำงานให้กับกรมการค้าภายใน ได้ย้ำให้เน้นการสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ดูแลราคาสินค้าให้เป็นไปตามกลไกตลาด และป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค

    นอกจากนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ยังกล่าวว่า จะดึงภาคเอกชนมาร่วมทำงานกับกระทรวงพาณิชย์ โดยในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ในเดือนต.ค.57 จะให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมประชุมด้วย เพื่อร่วมกันประเมินแนวโน้มและทิศทางการค้าโลก แนวโน้มการส่งออกในปี 58 ว่าจะมีมาตรการในการผลักดันการส่งออกอย่างไร                  

     ส่วนกรณีที่สหภาพยุโรป(EU) จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) สินค้าไทยในวันที่ 1 ม.ค.58 นั้น อยากให้เอกชนปรับตัวมากกว่าการยึดติดว่าจะต้องได้รับการช่วยเหลือตลอดไป เพราะสุดท้ายแล้วการได้ GSP ก็ต้องหมดไปอยู่ดี เมื่อเศรษฐกิจของไทยมีการพัฒนาขยายตัวเพิ่มขึ้น

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

รมว.พาณิชย์เปิดทางเอกชนขอปรับราคาสินค้าได้ แต่ต้องแจงเหตุผลชัดเจน

    พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันหาแนวทางดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงนี้นั้น มีข้อสรุปร่วมกันที่จะช่วยกันดูแลราคาสินค้า แต่หากจะปรับราคาเพิ่มขึ้นก็ต้องมีเหตุผลชัดเจนและตอบได้ว่ามีต้นทุนเพิ่มจากส่วนใด และขึ้นเท่าใดถึงจะรับได้ ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภค แต่ในภาพรวมผู้ประกอบการยังให้ความร่วมมือตรึงราคาสินค้า เพราะต้นทุนยังไม่เพิ่ม หรือหากจะปรับราคาพลังงานก็ยังต้องมีการประเมินต้นทุนในภาพรวมก่อน

   "การขอปรับขึ้นราคา ถ้าเอกชนแบกรับต้นทุนไม่ไหวจริง ก็เสนอโครงสร้างต้นทุนเข้ามาได้ โดยการปรับราคาจะต้องมีเหตุผลชัดเจน เช่น น้ำมันขึ้นราคาแล้วมาอ้างขอปรับราคาสินค้า คงไม่ใช่เหตุผลนี้ ต่อไปนี้ภาครัฐและเอกชนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ถ้าเอกชนมีปัญหาอะไรก็เสนอมาให้รัฐแก้ไข หากแก้ไขในระดับกระทรวงฯไม่ได้ ก็จะเสนอครม.ให้พิจารณาแก้ไข พล.อ.ฉัตรชัย

     ส่วนการมอบนโยบายการทำงานให้กับกรมการค้าภายใน ได้ย้ำให้เน้นการสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ดูแลราคาสินค้าให้เป็นไปตามกลไกตลาด และป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบผู้บริโภค

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!