รมว.พาณิชย์ เผย เร่งจ่ายเงินคืนให้เกษตรกร คาดแล้วเสร็จภายในเร็วๆ นี้ พร้อมรับฟังปัญหาทุก 2 สัปดาห์ เพื่อร่วมแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ วอนขอเวลาผลักดันราคาข้าว ด้าน รมว.เกษตรฯ เน้นตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางมาพบปะเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อชี้แจงนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรในด้านต่างๆ โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกร จำนวนกว่า 600 คน ต้อนรับ ณ วัดดักคะนน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท
ทั้งนี้ จ.ชัยนาท มีสภาพภูมิศาสตร์เป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำไหลผ่าน 2 สาย คือ แม่น้ำเจ้าพระยาและเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน้อยที่ ต.ชัยนาท บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบรมธาตุ เป็นแหล่งน้ำในด้านการเกษตรอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่เหมาะในการเกษตร ประชากรจึงประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่วนพืชเศรษฐกิจของ จ.ชัยนาท คือ ข้าว เนื่องจากร้อยละ 70 ของพื้นที่นั้น เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าว และสามารถปลูกได้ทั้งข้าวนาปีและนาปรัง การปลูกข้าวนาปี อาศัยฝนตามธรรมชาติและน้ำชลประทาน ส่วนนาปรังเกษตรกรจะอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำชลประทาน ชนิดข้าวที่นิยมปลูก ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวปทุมธานี และข้าวหอมจังหวัด พันธุ์ข้าวเปลือกที่ใช้ในการเพาะปลูก ได้แก่ พันธุ์ กข. 41, กข. 47 และ กข. 31
นายปีติพงศ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตพร้อมกับเพิ่มมูลค่าของผลผลิตเน้นสินค้าเกษตรอินทรี ให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองมากยิ่งขึ้นจนสามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสม เช่น การทำปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เพื่อลดค่าปุ๋ยที่มีราคาค่อนข้างสูงตามท้องตลาด ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มกำไรให้เกษตรกร ตามรอยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง
ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า มาตรการแรก ที่ทางรัฐบาลจะคืนความสุขให้กับพี่น้องเกษตรกร คือ เรื่องของโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา จะเร่งทำการแจกจ่ายเงินคืนให้กับพี่น้องเกษตรกรภายในระยะเวลาที่สั้น คาดว่าจะสามารถทยอยจ่ายได้แล้วเสร็จภายในเร็วๆ นี้ และจากนี้ไปจะดูแลให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสม โดยจะมีการรับฟังปัญหาหรือข้อเสนอแนะของเกษตรกรในพื้นที่ทุกๆ 2 สัปดาห์ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สำหรับเรื่องการบริหารจัดการน้ำเพื่อเกษตรนั้น ข้อมูลจากกรมชลประทานขณะนี้ ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า คาดว่าตั้งแต่เดือน ม.ค. เป็นต้นไป กรมชลประทานจะออกมาตรการขอความร่วมมือเกษตรกรให้บริหารจัดการน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้เกษตรกรเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการสั่งการให้ทางจังหวัดพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการจัดการกับผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อการระบายน้ำที่ดีในอนาคตและสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรได้มากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ขอเวลาในการผลักดันราคาข้าว และไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหน เร็วหรือช้า แต่อยากขอให้พี่น้องเกษตรกร รอสักนิดตนจะทำเต็มที่อย่างแน่นอน เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องชาวเกษตรกร พร้อมกล่าวชื่นชมเกษตรกร จ.ชัยนาท ที่ปลูกข้าวออกมาได้มาตรฐาน มีคุณภาพสูง สามารถออกจำหน่ายแก่ตลาดโลกได้ไม่น้อยหน้าประเทศใดๆ ในโลก.