WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCอดลย โชตนสากรณ copyพาณิชย์ เผยปีนี้ส่งออกข้าวแล้ว 6.79 ล้านตัน เร่งกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลังหวังแตะ 11 ล้านตันตามเป้า

     พาณิชย์เผย ล่าสุดยอดส่งออกข้าวทั้งปีอยู่ที่ 6.79 ล้านตัน มูลค่า 1.08 แสนลบ. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1.82% และ 9.85 % ตามลำดับ แจงส่งออกครึ่งปีหลังไปได้สวยหลังเดินหน้ากระตุ้นตลาดต่อเนื่อง  

    นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยตามข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 8 สิงหาคม 2561 มีปริมาณส่งออก 6.79 ล้านตัน มูลค่า 3,425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 108,741 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีปริมาณส่งออก 6.66 ล้านตัน มูลค่า 2,871 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 98,995 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.82 และร้อยละ 9.85 ตามลำดับ โดยชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้าวขาว (ร้อยละ 51) รองลงมาได้แก่ ข้าวนึ่ง (ร้อยละ 25) และข้าวหอมมะลิไทย (ร้อยละ 16)

      ทั้งนี้ ในทุกตลาดสำคัญพบว่าปริมาณการส่งออกข้าวไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย ( ร้อยละ 695.70) มาเลเซีย ( ร้อยละ 53.07) และฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 25.37) รวมทั้งกลุ่มประเทศนำเข้าสำคัญในตลาดแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ ( ร้อยละ 12.01 ) แองโกลา (ร้อยละ 7.04) เป็นต้น อย่างไรก็ดี สำหรับตลาดหลักข้าวหอมมะลิไทยพบว่ามีปริมาณการส่งออกลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อาทิ ฮ่องกง (ร้อยละ 14.64) และจีน (ร้อยละ 35.89) เนื่องจากราคาข้าวหอมมะลิไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา

     สำหรับ ภาพรวมการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลังยังตั้งเป้าส่งออกที่ 11 ล้านตัน คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีตามความต้องการข้าวในตลาดหลักที่มีอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดเอเชียและแอฟริกา โดยในตลาดจีนคาดว่าจะสามารถตกลงราคาส่งมอบข้าวงวดที่ 6 ปริมาณ 100,000 ตัน กับบริษัท COFCO Corporation ตามสัญญาซื้อขายข้าว G to G ปริมาณ 1 ล้านตัน ภายใต้ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย - จีน

       นอกจากนี้ ไทยจะเร่งการเจรจาซื้อขายข้าว 1 ล้านตันที่สองภายใต้ MOU ดังกล่าว โดยในวันที่ 26 สิงหาคม 2561 คณะทำงานฝ่ายไทยและจีนจะเริ่มการเจรจาและคาดว่าจะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ภายในปีหน้า ซึ่งจะทำให้มีตลาดรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับสัญญาณข่าวดีว่าฟิลิปปินส์อาจจะเปิดประมูลนำเข้าข้าวก่อนช่วงเวลาที่กำหนดในครึ่งปีหลังปริมาณ 500,000 ตัน เพื่อเพิ่มสต็อกข้าวในประเทศ โดยจะเปิดประมูลแบบ G to G ปริมาณ 250,000 ตัน จากไทยและเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลไทยจะเข้าร่วมประมูลดังกล่าวอย่างแน่นอน และอีกปริมาณ 250,000 ตัน เป็นการเปิดประมูลแบบทั่วไปจากเอกชน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

 

ปลื้ม 8 เดือนส่งออกข้าวทะลัก ผุดแอปฯ'โชห่วย-ไฮบริด'อุ้มร้านธงฟ้า

     ไทยโพสต์ * กรมการค้าต่างประเทศปลื้มข้าวไทยขายดี อวดยอดส่งออกตั้งแต่ต้นปีถึง 8 ส.ค. ถึง 6.79 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.82% ด้าน ‘พาณิชย์’คิกออฟเปิดตัวแอปพลิเคชัน ‘โชห่วย-ไฮบริด’ อุ้มร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ 3 หมื่นแห่งเป็นเอาท์เล็ต คาดดันเงินหมุนเวียนในระบบไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท

     นายอดุลย์ โชตินิสา กรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่าง ประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-8 ส.ค.2561 มีปริมาณ 6.79 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.82% มูลค่า 3.42 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.85% โดยเป็นการส่งออกที่ขยาย ตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด เช่น อิน โดนีเซียเพิ่มมากถึง 695.70% มาเลเซียเพิ่ม 53.07% ฟิลิป ปินส์เพิ่ม 25.37% แอฟริกา ใต้เพิ่ม 12.01% แองโกลาเพิ่ม 7.04% เป็นต้น แต่ตลาดข้าวหอมมะลิปรับตัว ลดลง เช่น ฮ่องกงลด 14.64% จีนลด 35.89% เนื่องจากราคาข้าวหอมมะลิไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา

      "มั่นใจว่าการส่งออกข้าวไทยจะยังคงขยายตัวได้เพิ่มขึ้น เพราะมีความต้องการซื้อข้าวไทยจากตลาดหลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเอเชียและแอฟริกา และกำลังเจรจาส่งมอบข้าวให้กับจีนในงวด 1 แสนตันที่ 6 ตามสัญญาขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) รวมทั้งจะเร่งผลักดันจีนให้บรรลุผลการซื้อข้าวจีทูจี 1 ล้านตันที่ 2 ซึ่งหากตกลงกันได้ ก็จะทำให้มีตลาดรองรับข้าว ไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจน ถึงปีหน้า" นายอดุลย์กล่าว

      ขณะเดียวกันจะเข้าร่วมประมูลขายข้าวให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่จะเปิดประมูลข้าวอีก 5 แสนตัน เป็นแบบจีทูจี 2.5 แสนตัน และประมูลซื้อจากเอกชน 2.5 แสนตัน โดยมั่นใจว่าไทยจะชนะการประมูลขายข้าวได้แน่ และยังมีการเจรจาทำ MOU ซื้อขายข้าวจีทูจีกับรัฐบาลอิรัก ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดข้าวไทย ทำให้มั่นใจว่าปีนี้การส่งออก 11 ล้านตันจะทำได้แน่นอน

       สำหรับ การทำตลาดข้าวไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ กรมจะจัดคณะผู้แทนการค้าออกไปขยายตลาดข้าวที่สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวคุณภาพดี เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวกล้อง ข้าว สีชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นข้าวที่มีโอ กาสในการส่งออกสูงมาก ส่วนสถานการณ์การส่งออกข้าวหอมมะลินั้นมั่นใจว่าจะยังส่งออกได้เพิ่มขึ้น เพราะตลาดยังมีความต้องการค่อนข้างสูง

     นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน 'ยกระดับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐสู่การเป็นโชห่วยไฮบริด'ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน "โชห่วย-ไฮบริด" อย่างเป็นทาง การ เพื่อผลักดันให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจำนวน 3 หมื่นแห่ง เป็นเอาท์เล็ตในการจำหน่ายสิน ค้าชุมชน สินค้าโอท็อป สินค้าจากผู้ผลิต MOC Biz Club และเอสเอ็มอีผ่านช่องทางออนไลน์ เพียงแค่เจ้าของร้านค้ามีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต และดาวน์โหลดพร้อมติดตั้งแอปพลิเคชัน ‘Shohuayhybrid’ (โชห่วย-ไฮบริด) ก็สามารถเปิดจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ได้เลย

        "คาดว่า การผลักดันให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเป็นร้านโชห่วยไฮบริด และการเพิ่มช่อง ทางการจำหน่ายให้กับสินค้าชุม ชน จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐ กิจฐานรากได้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบไม่ต่ำกว่าปีละ 1 พันล้านบาท"นายสนธิรัตน์กล่าว.

พาณิชย์ เผย H1/61 ส่งออกข้าวแล้ว 6.79 ล้านตัน H2/61 แนวโน้มดีสอดรับเป้า 11 ล้านตัน

      นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยตามข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-8 ส.ค.61 มีปริมาณส่งออก 6.79 ล้านตัน มูลค่า 3,425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 108,741 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 60 ที่มีปริมาณส่งออก 6.66 ล้านตัน มูลค่า 2,871 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 98,995 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.82 และร้อยละ 9.85 ตามลำดับ โดยชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้าวขาว (ร้อยละ 51) รองลงมาได้แก่ ข้าวนึ่ง (ร้อยละ 25) และข้าวหอมมะลิไทย (ร้อยละ 16)

      ทั้งนี้ ทุกตลาดสำคัญพบว่ามีปริมาณการส่งออกข้าวไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย (ร้อยละ 695.70) มาเลเซีย (ร้อยละ 53.07) และฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 25.37) รวมทั้งกลุ่มประเทศนำเข้าสำคัญในตลาดแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ (ร้อยละ 12.01 ) แองโกลา (ร้อยละ 7.04) เป็นต้น ขณะที่ตลาดหลักข้าวหอมมะลิไทยพบว่ามีปริมาณการส่งออกลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อาทิ ฮ่องกง (ร้อยละ 14.64) และจีน (ร้อยละ 35.89) เนื่องจากราคาข้าวหอมมะลิไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา

      สำหรับ ภาพรวมการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีตามความต้องการข้าวในตลาดหลักที่มีอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดเอเชียและแอฟริกา โดยในตลาดจีนคาดว่าจะสามารถตกลงราคาส่งมอบข้าวงวดที่ 6 ปริมาณ 100,000 ตัน กับบริษัท COFCO Corporation ตามสัญญาซื้อขายข้าว G to G ปริมาณ 1 ล้านตัน ภายใต้ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย-จีน

        นอกจากนี้ ไทยจะเร่งการเจรจาซื้อขายข้าว 1 ล้านตันที่สองภายใต้ MOU ดังกล่าว โดยในวันที่ 26 ส.ค.61 คณะทำงานฝ่ายไทยและจีนจะเริ่มการเจรจาและคาดว่าจะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ภายในปีหน้า ซึ่งจะทำให้มีตลาดรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับสัญญาณข่าวดีว่าฟิลิปปินส์อาจจะเปิดประมูลนำเข้าข้าวก่อนช่วงเวลาที่กำหนดในครึ่งปีหลังปริมาณ 500,000 ตัน เพื่อเพิ่มสต็อกข้าวในประเทศ โดยจะเปิดประมูลแบบ G to G ปริมาณ 250,000 ตัน จากไทยและเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลไทยจะเข้าร่วมประมูลดังกล่าวอย่างแน่นอน และอีกปริมาณ 250,000 ตัน เป็นการเปิดประมูลแบบทั่วไปจากเอกชน

      อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 3 ส.ค.-2 ก.ย.61 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่สำรวจแหล่งเพาะปลูกข้าวใน 16 จังหวัด เพื่อคาดการณ์ผลผลิตข้าวปีการเพาะปลูก 2561/62 รอบที่ 1 ภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยมีภาคเอกชน (สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมโรงสีข้าวไทย) และภาคเกษตรกรเข้าร่วมด้วย ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวหอมมะลิไทยจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและเกษตรกรชาวนาบางพื้นที่หันมาปลูกข้าวหอมมะลิแทนข้าวเหนียวที่มีราคาลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวหอมมะลิเพียงพอทั้งต่อการบริโภคภายในประเทศและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาก็จะปรับตัวอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ดีขึ้นด้วย

               นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง 61 กรมการค้าต่างประเทศได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดคณะฯ เดินทางไปเยือนตลาดข้าวสำคัญในสิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย และเข้าร่วมงานแสดงสินค้า China-ASEAN Expo ครั้งที่ 15 (ก.ย.61) รวมทั้งการรับคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง (พ.ย.61) รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ยังจัดโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อการส่งออกเพื่อรองรับผลผลิตข้าวที่จะออกสู่ตลาดในปริมาณมากในช่วงปลายปี โดยมีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นเจ้าภาพ

               สำหรับ แผนการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในส่วนของผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย APi มีโครงการจัดการประกวดรางวัลสินค้าเกษตรนวัตกรรม (Agri Plus Award 2019) ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากการประกวดรางวัล "ข้าว...ก้าวใหม่" (Rice Plus Award 2018) โดยในปี 2562 จะเป็นการประกวดรางวัลสินค้านวัตกรรมจากผลผลิตทางการเกษตรหลากหลายชนิดของไทย และจะบูรณาการร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ในการสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรนวัตกรรม รวมทั้ง บูรณาการร่วมกับห้าง Modern Trade เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย โดยมีหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต/ คาเฟ่ อเมซอน/ Ecotopia ณ สยามดิสคัฟเวอรี/ เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล และเลมอน ฟาร์ม เป็นต้น

               อินโฟเควสท์

ส่งออกข้าว 11 ล้านตันเอกชนฟันธงทั้งปีทำเงิน 1.77 แสนล้าน

            แนวหน้า : ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ปรับประมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านตัน มีมูลค่าประมาณ 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 177,000 ล้านบาท จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 9.5 ล้านตัน มีมูลค่าประมาณ 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 137,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในปีนี้ข้าวขาวจะมีการส่งออกเติบโตขึ้น 5.7% ข้าวนึ่ง 2.7% ข้าวหอมมะลิ 1.8% ข้าวหอมไทย 0.4% และ ข้าวเหนียว 0.4%

               ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาภาวะการส่งออกข้าวจะยังคงมีแนวโน้มที่ดี ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดเอเชียและแอฟริกามีความต้องการนำเข้าอย่างต่อเนื่องทั้งข้าวขาวและข้าวนึ่ง ซึ่งคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ความต้องการนำเข้าจากตลาดหลักจะยังคงมี

               5.มีการพยากรณ์อากาศถึงปรากฏการณ์ เอลนิโญ่ อาจส่งอย่างต่อเนื่อง

     สาเหตุที่มีการคาดการณ์ว่าปลายปี 2561 จะมีการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ 1.คู่ค้าของไทยยังมีความต้องการนำเข้าข้าวที่เพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยอุปทานข้าวในประเทศที่ลดลง เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย 2.ค่าเงินบาท มีทิศทางอ่อนค่าลง 3.รัฐบาลยังมีสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีกับประเทศจีน 4.รัฐได้ระบายสต๊อกข้าวออกหมดแล้วทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะปกติเอลนิโญ่ อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวของประเทศ ผลกระทบต่อผลผลิตข้าวของประเทศ ผู้ผลิต อาทิ จีน อินเดีย

    แต่ยังมีปัจจัยด้านลบ ที่จะทำให้ ปริมาณการส่งออกไม่ถึงเป้า อาทิ ข้าวหอมมะลิที่มีจำนวนจำกัดทำให้ราคาสินค้าค่อนข้างสูง สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขนส่ง อาจมีผลให้ชะลอการส่งมอบสินค้าได้

      สำหรับ สถานการณ์การส่งออกข้าวไทยในช่วง 7 เดือน (มกราคมกรกฎาคม 2561) ไทยส่งออกข้าว ไปแล้ว 6.23 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก อินเดียส่งออกไปแล้วในช่วงเดียวกัน ของปี 7.05 ล้านตันส่วนอันดับ 3 คือ เวียดนาม 4.33 ล้านตัน อันดับ 4 ปากีสถาน 1.83 ล้านตัน และอันดับ 5 สหรัฐ 1.74 ล้านตัน

      อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้หากการส่งออกข้าวสามารถทำได้ต่อเดือนที่ประมาณ 900,000 ตัน จะทำให้ทั้งปีการส่งออกข้าวไทยจะอยู่ที่ 11 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 สมาคมฯคาดว่าการส่งออกข้าวของไทยจะมีปริมาณการส่งออกไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน

        ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่าการส่งออกโลกปี 2561 และ 2562 ประเทศไทยอาจเพิ่มปริมาณการส่งออก 4.8% และต้องจับตามองการส่งออกของประเทศพม่าที่ผวนกลับมาติดอันดับ 5 อีกครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!