- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 28 July 2018 22:39
- Hits: 7605
พาณิชย์ เผยยอดส่งออกข้าวม.ค.-20 ก.ค. 61 โต 1.49% ชูสหรัฐฯ ตลาดหลัก เล็งจัดโรดโชว์ขยายตลาดข้าวไทยในตปท.เพิ่ม
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม -20 กรกฎาคม 2561 ไทยส่งออกข้าวปริมาณรวม 6.15 ล้านตัน มูลค่าการส่งออก 3,141 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีปริมาณ 6.06 ล้านตัน มูลค่า 2,597 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 1.49% และ 20.95% ตามลำดับ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นตลาดที่นำเข้าข้าวหอมมะลิไทยเป็นอันดับหนึ่งมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม - มิถุนายน) ของปี 2561 ไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไปยังสหรัฐฯ 2.24 แสนตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.82% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนการตลาดเพื่อผลักดันและขยายช่องทางการตลาดของสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย โดยจะจัดกิจกรรมโรดโชว์ขยายตลาดข้าวไทยและส่งเสริมประชาสัมพันธ์ข้าวไทยเชิงรุกไปในประเทศต่างๆ อาทิ จัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนเจรจาขยายตลาดข้าวและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญ (Goodwill Mission) ได้แก่ สิงคโปร์ (สิงหาคม 2561) และออสเตรเลีย (กันยายน 2561) เป็นต้น รวมถึงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ China - ASEAN Expo 2018 (กันยายน 2561) เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) เชื่อมโยงตลาดและขยายส่วนแบ่งการตลาดข้าวไทย เพื่อรองรับผลผลิตข้าวที่จะออกสู่ตลาด ตลอดจนจัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของข้าวไทยที่สามารถต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดต่อไป
รัฐบาล จี้อตก.-อคส.เร่งรัดคดีโครงการจำนำข้าวส่ง อสส.ภายในปี 61 ก่อนหมดอายุความ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักนายกรัฐมนตรี(สลน.) ได้มีหนังสือความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีเกี่ยวกับการดำเนินโครงการจำนำข้าวเปลือก ซึ่งมีทั้งคดีความอาญา และคดีความแพ่ง ซึ่งใกล้จะหมดอายุความ และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อฟ้องร้องคดีนั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) และกระทรวงพาณิชย์ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จทุกคดีโดยเร็ว แล้วส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดอย่างช้าสุด ภายในเดือนธันวาคม 2561 เพื่อดำเนินการฟ้องร้องคดีให้ทันภายในกำหนดอายุความ เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของรัฐและเป็นการป้องกันความเสียหาย ใดๆ อันอาจเกิดขึ้นจากการที่ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการฟ้องร้องคดีต่าง ๆ
ในส่วนของคดีความอื่น ๆ นอกเหนือจากส่วนแรก ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่เป็นเจ้าของเรื่องตรวจสอบและเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การดำเนินการฟ้องร้องคดีทันภายกำหนดอายุความของคดีนั้นๆ
อินโฟเควสท์
