- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 15 September 2014 09:51
- Hits: 2710
นโยบาย'โจโก วิโดโด'เพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าไทย
แนวหน้า : นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่นายโจโก วิโดโด เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย จะเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยไปยังอินโดนีเซียเพิ่มมากขึ้น ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจโก วิโดโด ที่จะเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยจะสร้างถนนเพิ่ม 2,000 กิโลเมตร ท่าเรือใหม่ 10 แห่ง สนามบินใหม่ 10 แห่ง สร้างย่านการค้าใหม่ 500 แห่ง ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ประปา รวมถึงพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างประเทศที่ยังไม่ได้มาตรฐานสากล ลดการอุดหนุนราคาน้ำมัน และเร่งแก้ไขกฎระเบียบด้านการค้าการลงทุนของอินโดนีเซีย รวมถึงขั้นตอน กระบวนการติดต่อราชการที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ให้โปร่งใสและเอื้อต่อการลงทุน
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นตลาดที่น่าสนใจ ด้วยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน มีอัตราการเติบโตสูง มีประชากรมากที่สุด 248 ล้านคน และมีทรัพยากรที่สำคัญ เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ดีบุก นิกเกิล ทองคำ เงิน เหล็ก มีทรัพยากรทางน้ำและทางการเกษตร ที่มีความหลากหลาย ปัจจุบันอินโดนีเซียอยู่ระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ การแปรรูปสินค้าเกษตร และประมง เหมืองแร่ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
ส่วนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ อินโดนีเซียเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ เนื่องจากมีความพร้อมด้านแรงงาน มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ และความต้องการบริโภคภายในประเทศที่สูงขึ้น ซึ่งล่าสุดโตโยต้าเพิ่งเปิดโรงงานแห่งที่ 4 ที่เมืองคาราวัง ในฝั่งตะวันตกของชวา
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมต้นน้ำและกลางน้ำของอินโดนีเซีย ยังไม่เข้มแข็งนัก จึงถือเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ เนื่องจากจีนได้ย้ายฐานการผลิตมายังไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และญี่ปุ่นเน้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการวิจับและพัฒนาหรือ R&D ของภูมิภาค เพื่อเป็นฐานการผลิตเจาะตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) ที่มีความต้องการด้านยานยนต์สูง ซึ่งจะช่วยให้ไทยสามารถรักษาความเป็นหมายเลข 1 ของอาเซียนด้านยานยนต์เอาไว้ได้
“นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจโก วิโดโด จะช่วยสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ พลาสติก เครื่องจักรกลการเกษตร น้ำตาลทราย เครื่องปรับอากาศ ด้านการลงทุน ไทยควรใช้อินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตสินค้าต้นทุนต่ำ”นางอัมพวัน กล่าว