- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 23 July 2018 22:11
- Hits: 2038
พาณิชย์ เผยยอดนิติบุคคลตั้งใหม่มิ.ย. 6,514 ราย ธุรกิจก่อสร้างยังครองแชมป์ หลังศก.ในปท.ขยายตัวมากขึ้น
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือนมิ.ย.61 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ 6,514 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.61 จำนวน 5,865 ราย เพิ่มขึ้น 649 ราย คิดเป็น 11% และเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.60 จำนวน 6,525 ราย ลดลง 11 ราย คิดเป็น 0.2% โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 595 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 394 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร 195 ราย คิด 3%
มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือนมิ.ย.61 มีจำนวนทั้งสิ้น 24,589 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.61 จำนวน 21,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,499 ล้านบาท คิดเป็น 17% และเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.60 จำนวน 40,916 ล้านบาท ลดลง 16,327 ล้านบาท คิดเป็น 40%
ขณะที่ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนมิ.ย.61 มีจำนวน 1,392 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.61 จำนวน 1,014 ราย เพิ่มขึ้น 378 ราย คิดเป็น 37% และเมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.60 จำนวน 1,548 ราย ลดลง 156 ราย คิดเป็น 10% โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 134 ราย คิดเป็น 10% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 84 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจค้าสลาก 57 ราย คิดเป็น 4%
ส่งผลให้ ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศทั้งสิ้น 704,249 ราย มูลค่าทุน 17.78 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 184,302 ราย คิดเป็น 26.17% บริษัทจำกัด 518,742 ราย คิดเป็น 73.66% และบริษัทมหาชนจำกัด 1,205 ราย คิดเป็น 0.17%
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- มิ.ย.61) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 37,548 ราย เพิ่มขึ้น 1,606 ราย คิดเป็น 4% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.60) ที่มีจำนวน 35,942 ราย ซึ่งมีทิศทางสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างชัดเจนจากภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว
ส่วนในด้านการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มความเชื่อมั่นที่ดีจากการลงทุนที่กระจายตัวในแต่ละภูมิภาค หลังจากรัฐบาลเร่งรัดโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง และในด้านการบริโภคภาคเอกชนได้รับปัจจัยบวกจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ โครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐของกระทรวงพาณิชย์ที่จะกระจายเม็ดเงินจากการรับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแบบใช้โทรศัพท์มือถือ หรือแอพพลิเคชัน "ถุงเงินประชารัฐ" จากเดิมที่ใช้จ่ายซื้อสินค้าที่มีเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) เท่านั้น โดยเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.61
"ผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในวงกว้างมากขึ้นในปีนี้ จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างดี กรมฯ จึงประมาณการการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตลอดปี 2561 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 80,000 ราย" อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าว
อินโฟเควสท์
ครึ่งปีแรกเปิดบริษัทใหม่โต 4% ธุรกิจก่อสร้าง-อสังหาฯยอดฮิต
แนวหน้า : นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจ การค้า เปิดเผยตัวเลขยอดการจดทะเบียนธุรกิจเดือนมิถุนายน 2561 และครึ่งปีแรก 2561 (มกราคม-มิถุนายน) ว่ามีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ ทั่วประเทศเดือนมิถุนายน 2561 จำนวน 6,514 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 5,865 ราย เพิ่มขึ้น 649 ราย คิดเป็น 11% และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 6,525 ราย ลดลง 11 ราย คิดเป็น 0.2% ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 595 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 394 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 195 ราย คิดเป็น 3%
ขณะที่มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมิถุนายน 2561 มีทั้งสิ้น 24,589 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 21,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,499 ล้านบาท คิดเป็น 17% และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 40,916 ล้านบาท ลดลง 16,327 ล้านบาท คิดเป็น 40%
ส่วนตัวเลขธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 1,392 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 1,014 ราย เพิ่มขึ้น 378 ราย คิดเป็น 37% และเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 1,548 ราย ลดลง 156 ราย คิดเป็น 10% ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 134 ราย คิดเป็น 10% รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 84 ราย คิดเป็น 6% และมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 8,486 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 4,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,054 ล้านบาท คิดเป็น 91% และเมื่อเทียบกับ เดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 8,084 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 402 ล้านบาท คิดเป็น 5%
ทั้งนี้ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศครึ่งปีแรก 2561 จำนวน 37,548 ราย เมื่อเทียบกับ ครึ่งปีหลัง 2560 จำนวน 38,575 ราย ลดลง 1,027 ราย คิดเป็น 3% และเมื่อเทียบกับ ครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 35,942 ราย เพิ่มขึ้น 1,606 ราย คิดเป็น 4% ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมาธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
หากดูมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรก 2561 มีทั้งสิ้น 142,872 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ครึ่งปีหลัง 2560 จำนวน 355,409 ล้านบาท ลดลง 212,537 ล้านบาท คิดเป็น 60% และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 164,281 ล้านบาท ลดลง 21,409 ล้านบาท คิดเป็น 13% ขณะที่จำนวนธุรกิจเลิกประกอบ กิจการ 6,289 ราย เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลัง 2560 จำนวน 14,963 ราย ลดลง 8,674 ราย คิดเป็น 58 %และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 6,481 ราย ลดลง 192 ราย คิดเป็น 3% ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการ สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจค้าสลาก
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 ธุรกิจ ที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 704,249 ราย มูลค่าทุน 17.78 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างชัดเจนจากภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มความ เชื่อมั่นที่ดีจากการลงทุนที่กระจายตัวแต่ละภูมิภาค หลังจากรัฐบาลเร่งรัดโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจึงคาดว่าการ จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตลอดปี 2561 จะต้อง ไม่น้อยกว่า 80,000 รายแน่นอน