- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 12 September 2014 23:18
- Hits: 2557
พาณิชย์ เล็งยิดเวลาตรึงราคาสินค้า แจงต้นทุนผลิตไม่ขยับ
แนวหน้า : พาณิชย์เล็งยิดเวลาตรึงราคาสินค้า แจงต้นทุนผลิตไม่ขยับ ยันอาหารเจปีนี้ไม่แพง
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างประเมินราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคโดยรวม ต้นทุนการผลิตสินค้า เพื่อใช้พิจารณาการขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ในการตรึงราคาสินค้าออกไปอีกประมาณ 2-3 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน พ.ย. 2557 นี้ เนื่องจากขณะนี้ แนวโน้มต้นทุนการผลิตสินค้า ยังทรงตัว ไม่มีการขยับราคาขึ้น โดยการขอขยายความร่วมมือต้องไม่ให้กระทบต่อผู้ประกอบการมากเกินไป หากต้นทุนไม่ปรับขึ้นสูงขึ้น จึงไม่น่าเป็นปัญหา ทั้งนี้การขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าอีกครั้ง จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ส่วนในช่วงเทศกาลกิจเจ ที่จะมีในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ อาหารเจ ไม่ควรปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากไม่มีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้ราคาควรสูงขึ้น เครื่องปรุงอาหาร เครื่องปรุงรส ต้นทุนอาหาร ไม่มีการปรับราคาขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารที่ไม่มีการปรับตัวสูงขึ้น เช่น ซีอิ้วขาว แป้ง แป้งสาลี เส้นหมี่ น้ำมันพืช สำหรับราคาผักขณะนี้ อาจจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นไปบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลเมื่อสินค้ามีน้อย ความต้องการสูงราคาจึงเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด โดยมาตรการที่กรมการค้าภายในสามารถทำได้ โดยการเชื่อมโยงตลาด ลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากพ่อค้าคนกลาง และจะจัดจำหน่ายผักในราคาไม่สูง ในงานเทศกาลกินเจ ระหว่างวันที่ 24 ก.ย. - 2 ต.ค. 2557 ที่ตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพมหานคร
“เท่าที่ได้รับรายงาน ราคาผักสด ก่อนช่วงเทศกาลกินเจ ราคาผักอาจจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ผิดปกติ ซึ่งกรมจะช่วงโดยการเชื่อมโยงตลาด ขายผักราคาเหมาะสมในช่วงเทศกาลกินเจ”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2557 ได้เข้ารายงานสถานการณ์ราคาสินค้า ให้ พลเอกฉัตรชัย ได้ทราบ ซึ่งก็ได้กำชับให้ดูแลสินค้าที่มีโอกาสปรับราคาสูงขึ้น เช่น เนื้อหมู ที่กรมฯ ต้องมีมาตรการรองรับให้เหมาะสม ไม่ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อน
สำหรับ โครงการร้านอาหารปรุงสำเร็จเพื่อคืนความสุขทุกจาน ให้ประชาชน หรือ หนูณิชย์...พาชิม จากการสอบถามร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ พบว่าประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งทางร้านต่างก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 20-30 % เพราะราคาถูก และสามารถช่วยลดค่าครองชีพได้จริง ขณะเดียวกันในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล มีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 1,002 ร้าน จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ 1,000 ร้าน และจากนี้จะมีการเปิดรับสมัครร้านในส่วนของภูมิภาค โดยตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557 เป็นต้นไป จะเริ่มที่ขยายโครงการไปยัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ต่อไป ทั้งนี้ทางโครงการมีเป้าให้มีร้านค้าในโครงการไม่ต่ำกว่า 5,000 ร้านทั่วประเทศ