- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 02 June 2018 19:56
- Hits: 2215
พาณิชย์ ยันมีมาตรการรับมือเหล็กนอกทะลัก หลังสหรัฐฯ ใช้มาตรการ 232
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามการนำเข้าหลังจากที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการ 232 ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.2561 พบว่า การนำเข้าเหล็กก่อนใช้มาตรการในช่วง 3 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณนำเข้าดังนี้ เดือนม.ค.2561 ปริมาณ 1,276,032 ตัน เดือนก.พ.2561 ปริมาณ 1,216,730 ตัน และเดือนมี.ค.2561 ปริมาณ 1,284,997 ตัน และเดือนเม.ย.2561 ปริมาณ 1,253,353 ตัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าการนำเข้าไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการนำเข้าที่มีปริมาณปกติตั้งแต่ต้นปี แต่กรมฯ จะไม่นิ่งนอนใจ ยังคงมีการติดตามสถานการณ์การนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศต่อไป
ทั้งนี้ กรมฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์การนำเข้าสินค้าเหล็กจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และยังได้มีการหารือร่วมกับอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อประเมินผลกระทบและแก้ไขปัญหาโดยการเสนอแนะแนวทางการเจรจาภายใต้มาตรการ 232 เพื่อเร่งรัดให้ผู้ส่งออกไทยประสานกับผู้นำเข้าสหรัฐฯ ขอยกเว้นการเก็บภาษีเป็นรายสินค้ากับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มาโดยตลอด เพื่อป้องกันผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศที่ได้รับผลจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และยังได้มีการยื่นหนังสือถึงสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เพื่อขอให้พิจารณายกเว้นการเก็บภาษีไทยเป็นรายประเทศด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
"ขอให้อุตสาหกรรมเหล็กเบาใจ กรมฯ มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และดำเนินการในทุกวิถีทาง เพื่อให้ความช่วยเหลือกับอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ทั้งในด้านการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เหล็กไทยยังคงสามารถส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ได้โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษี และยังมีการติดตามการนำเข้าสินค้าเหล็กจากต่างประเทศ ตามที่มีความกังวลกันว่าจะมีเหล็กจากประเทศที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีทะลักเข้ามาไทย ซึ่งมีการติดตามมาโดยตลอด และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบความผิดปกติในการนำเข้าแต่อย่างใด"
อย่างไรก็ตาม หากอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศเห็นว่า มีการทะลักของการนำเข้าสินค้าเหล็ก และก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายใน ผู้ผลิตสินค้าเหล็กภายในประเทศ สามารถที่จะยื่นคำขอให้กรมฯ เปิดไต่สวนการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping) หรือการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard) ภายใต้ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 และพ.ร.บ.มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น พ.ศ.2550 ได้ ซึ่งกรมฯ พร้อมที่จะพิจารณาให้ทันที
ปัจจุบัน ไทยมีการใช้มาตรการเยียวยาทางค้ากับสินค้าเหล็กทั้งสิ้น 19 กรณี แบ่งเป็นการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดจำนวน 16 กรณี จาก 20 ประเทศ และการใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นจำนวน 3 กรณี
สำหรับ ความคืบหน้าการแก้ไข พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 เพื่อเพิ่มเติมบทบัญญัติว่าด้วยการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (Anti-circumvention: AC) นั้น นายอดุลย์กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ในเร็วๆ นี้ ก่อนจะมีการบังคับใช้ต่อไป ซึ่งกรมฯ ได้ดำเนินการในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบครบถ้วนแล้ว ไม่ได้มีความล่าช้าในการผลักดันการออกกฎหมายแต่อย่างใด เพียงแต่ว่า การออกกฎหมายต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนด
อินโฟเควสท์