- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 11 March 2018 20:05
- Hits: 2442
พาณิชย์ ยันระบายข้าวในสต็อกรัฐไม่กระทบผลผลิต-ราคาข้าวฤดูกาลใหม่
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มั่นใจการระบายข้าวในสต็อกของรัฐที่เหลืออยู่อีกเพียงประมาณ 2 ล้านตัน จะไม่ส่งกระทบต่อผลผลิตข้าวนาปรังฤดูกาลผลิตใหม่ปี 2561 ที่กำลังจะทยอยออกสู่ตลาดและราคาที่เกษตรกรชาวนาจะได้รับ เนื่องจากข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐที่รอการระบายขณะนี้เกือบทั้งหมดเป็นข้าวที่จะระบายเข้าสู่อุตสาหกรรม ไม่ใช่ข้าวสำหรับการบริโภค โดยภาครัฐได้กำหนดช่องทางการระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ชัดเจน ไม่ใช่อุปทานส่วนเกินที่จะส่งผลกระทบต่อกลไกตลาดและราคาข้าวปกติ
"ข้อกังวลว่าจะมีการรั่วไหลของข้าวเข้าสู่ตลาดปกติก็ขอให้สบายใจได้ว่า อคส.และ อ.ต.ก.มีกลไกในการกำกับดูแลและติดตามผู้ซื้อให้นำข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมโดยเคร่งครัด ไม่กลับเข้าสู่วงจรข้าวบริโภคแน่นอน" นายอดุลย์ กล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.61 รัฐบาลไทยสามารถตกลงราคาสำหรับการนำเข้าข้าวงวดที่ 5 ปริมาณ 1 แสนตัน กับ COFCO Corporation รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้สัญญาแบบ G to G โดยกำหนดส่งมอบในเดือน มี.ค.-เม.ย.61 ซึ่งไทยจะเร่งเจรจาให้รัฐบาลจีนนำเข้าข้าวที่เหลือให้ครบ 1 ล้านตันตามสัญญาดังกล่าวโดยเร็ว
นอกจากนี้ รัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (NFA Council)ได้ประกาศว่าจะนำเข้าข้าว 250,000 ตัน โดยการเปิดประมูลแบบ G to P และจะนำเข้าให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.61 ซึ่งคาดว่า NFA จะประกาศเปิดประมูลอย่างเป็นทางการภายในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อสถานการณ์ข้าวนาปรังปีการผลิต 2561 ของไทย เพราะจะมีตลาดมารองรับผลผลิตข้าว และคาดว่าจะช่วยให้ราคาข้าวขาวที่เกษตรกรจะได้รับไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท/ตันข้าวเปลือก
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ผลจากความพยายามของรัฐบาล โดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ในการระบายข้าวค้างสต็อกจำนวนมหาศาลมาตั้งแต่เดือน พ.ค.57 จนถึงปัจจุบัน เป็นปริมาณกว่า 14.84 ล้านตัน เพื่อลดอุปทานข้าวส่วนเกินที่เป็นอุปสรรคและบิดเบือนระบบกลไกตลาดการค้าข้าวไทยมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้ระบบการค้าข้าวไทยค่อยๆ กลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติและมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ตามกลไกตลาด และขอให้เกษตรกรชาวนาและผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าวไม่ต้องวิตกกังวลและมั่นใจได้ว่าข้าวที่เหลืออยู่ในสต็อกของรัฐปัจจุบันจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่แต่อย่างใด
อินโฟเควสท์
จีนซื้อข้าวจีทูจีอีกแสนตัน
ไทยโพสต์ : สนามบินน้ำ * กรมการค้าต่างประเทศยิ้ม จีนตกลงซื้อข้าวจีทูจีแสนตันที่ 5 เตรียมส่งมอบเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ พร้อมแจงฟิลิปปินส์เตรียมเปิดประมูลข้าวอีก 2.5 แสนตัน มั่นใจไทยประมูลสู้ได้แน่ ยันข้าวค้างสต๊อกอีก 2 ล้านตัน
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยสามารถตกลงราคาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับบริษัท คอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ในส่วนของข้าวแสนตันที่ 5 จากสัญญาซื้อขาย 1 ล้านตัน ที่ไทยและจีนได้ตกลงกันไว้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ โดยกำหนดส่งมอบในเดือน มี.ค.-เม.ย.2561 และหลังจากนี้ ไทยจะเร่งเจรจากับจีนให้รับมอบข้าวในส่วนที่เหลืออีก 5 แสนตัน จนครบ 1 ล้านตันตามสัญญาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วต่อไป
"ขณะนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยหน่วยงานนำเข้าข้าวของฟิลิป ปินส์ (NFA) ได้ประกาศนำเข้า ข้าวปริมาณ 2.5 แสนตัน โดยเปิดประมูลแบบจีทูพี (รัฐต่อ เอกชน) และจะนำเข้าให้แล้ว เสร็จภายในเดือน มิ.ย.2561 คาด NFA จะประกาศเปิดประ มูลอย่างเป็นทางการภายในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าไทยจะ ประมูลได้ และจะเป็นปัจจัยบวกต่อสถานการณ์ข้าวนาปรังปีการผลิต 2561 ของไทย เนื่อง จากมีตลาดมารองรับผลผลิตข้าว และจะช่วยให้ราคาข้าวขาว ที่เกษตรกรขายได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก"นายอดุลย์กล่าว
นายอดุลย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการระบายข้าวสารใน สต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่อีก 2 ล้าน ตัน ว่าจะไม่กระทบต่อผลผลิตข้าวนาปรังฤดูกาลการผลิตปี 2561 ที่กำลังจะทยอยออกสู่ตลาด และราคาที่เกษตรกรจะได้รับ เนื่องจากข้าวคงเหลือในสต๊อกของรัฐที่รอการระบายนี้ เกือบทั้งหมดเป็นข้าวที่จะระบายเข้าสู่อุตสาหกรรม ไม่ใช่ข้าวสำหรับการบริโภค อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้ระบายข้าวใน สต๊อกรัฐบาลไปแล้วกว่า 14.84 ล้านตัน ทำให้สามารถลดปริมาณ ข้าวส่วนเกินที่เป็นอุปสรรคและบิดเบือนระบบกลไกตลาดการค้าข้าวไทยมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมาได้สำเร็จ.