- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Thursday, 08 February 2018 21:22
- Hits: 2785
ก.พาณิชย์ ชวนเอกชนเล็งใช้ประโยชน์ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน- ฮ่องกงคาดมีผลบังคับใช้1 ม.ค. 62
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา เรื่อง FTA อาเซียน-ฮ่องกง กับประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ‘How the ASEAN-Hong Kong FTA Benefits Your Business?’ จัดโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 เพื่อประชาสัมพันธ์ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจประเทศสมาชิกอาเซียนกับฮ่องกง ได้ลงนามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง แล้ว เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และปัจจุบันแต่ละประเทศอยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการภายใน เพื่อให้สัตยาบันรองรับการมีผลบังคับใช้ของความตกลง อาทิ การออกประกาศลดภาษีศุลกากร การออกฟอร์มถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ในการส่งออก โดยตั้งเป้าหมายให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 เมื่อสมาชิกอาเซียนอย่างน้อย 4 ประเทศ กับฮ่องกงให้สัตยาบัน จึงได้ใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการ/ผู้ส่งออก ที่เข้าร่วมสัมมนาใช้โอกาสจากความตกลงดังกล่าว
ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นประตูการค้าและการลงทุนของไทยมายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบาย 'หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง' (Belt and Road Initiative) ของจีน ที่จีนและฮ่องกงมีโครงการเชื่อมโยงใหญ่ๆ ร่วมกัน อาทิ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลยาวกว่า 50 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างฮ่องกง มาเก๊า และจู่ไห่ มณฑลกวางตุ้งของจีน และโครงการพัฒนาพื้นที่ Guangdong - Hong Kong - Macau Greater Bay Area: Greater Bay Area (มณฑลกวางตุ้ง 9 เมือง ฮ่องกง และมาเก๊า) เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็น World Class City Cluster โดยไทยสามารถเชื่อมโยงผ่านฮ่องกงไป Greater Bay Area ได้
การจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับฮ่องกง จึงช่วยให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยฮ่องกงจะได้ประโยชน์ที่อาเซียนลดภาษีศุลกากรให้และสามารถส่งสินค้ามาอาเซียนในอัตราภาษีที่ต่ำลง ในขณะที่อาเซียนจะได้ประโยชน์จากการที่ฮ่องกงตกลงผูกพันภาษีศุลกากรสินค้าทุกรายการภายใต้ AHKFTA ที่ร้อยละ 0 ทำให้อนาคตฮ่องกงไม่สามารถขึ้นภาษีสินค้าที่ส่งออกจากอาเซียนได้ และอาเซียนสามารถใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นประตูสู่ตลาดใหญ่อย่างจีนและประเทศอื่นๆ
สำหรับ การค้าบริการ ฮ่องกงเปิดตลาดภาคบริการให้อาเซียนมากกว่าที่ผูกพันภายใต้ WTO และเปิดตลาดการค้าบริการเพิ่มเติมตามที่ไทยเรียกร้องในบริการการผลิตเนื้อหารายการแก่ผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ที่นักลงทุนไทยมีความเชี่ยวชาญในสาขาดังกล่าว จะเข้าไปลงทุนอย่างครบวงจร นอกจากนี้ อาเซียนและฮ่องกง มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยครอบคลุมใน 5 สาขา ได้แก่ (1) บริการวิชาชีพ (2) พิธีการศุลกากร (3) การอำนวยความสะดวกด้านการค้า/โลจิสติกส์ (4) SMEs และ (5) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไทยจะสามารถใช้ประโยชน์จากความร่วมมือดังกล่าวได้
ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย ในปี 2560 โดยมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับฮ่องกง 15.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 16.42 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปฮ่องกง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เม็ดพลาสติก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง สินค้านำเข้าจากฮ่องกง ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ และผ้าผืน การลงทุน ปี 2560 ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เป็นอันดับที่ 8 จำนวน 41 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 7.16 พันล้านบาท ท่องเที่ยว ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวฮ่องกงเดินทางมาไทย 812,264 คน และนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปฮ่องกง 560,207 คน แรงงาน ปี 2560 มีแรงงานไทยเข้าไปทำงานในฮ่องกงประมาณ 2,679 คน ส่วนมากประกอบอาชีพผู้ช่วยแม่บ้าน พนักงานบริการ และผู้ประกอบอาหาร
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย