- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 03 February 2018 17:56
- Hits: 979
พาณิชย์ เพิ่มเป้าเงินเฟ้อทั่วไปปี 61 เป็น 0.7-1.7% จากเดิมคาด 0.6-1.6% หลังเงินเฟ้อม.ค.61 อยู่ที่ 0.68%
พาณิชย์ เพิ่มเป้ากรอบเงินเฟ้อทั่วไปปี 61 เพิ่มขึ้นเป็น 0.1-1.7% จากเดิมคาด 0.6-1.6% โดยมีค่ากลางที่ 1.2% รับอุปสงค์ภาคครัวเรือน - รายได้ภาคเกษตรฟื้น แถมมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย - ขึ้นค่าแรงหนุน บนสมมติฐานจีดีพี 3.6-4.6% และเงินบาท 32-34 บ./ดอลล์ ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปม.ค. 60 อยู่ที่ 0.68% และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.58%
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปปี 2561 เป็น 0.7-1.7% จากเดิมคาด 0.6-1.6% โดยเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2561 มีค่ากลางที่ 1.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 101.44% เพิ่มขึ้น 0.68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 101.64% เพิ่มขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับ ปัจจัยสนับสนุนในการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อในครั้งนี้ เนื่องจากมองว่า อุปสงค์ภาคครัวเรือนเริ่มฟื้นตัว ตามผลผลิตและรายได้เกษตรที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการปรับค่าจ้างค่าแรงขั้นต่ำในปี 2561 อาจส่งผลดีต่อกำลังซื้อในประเทศ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคใน 3 เดือนข้างหน้าที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการส่งออกที่ขยายตัวดีตามการฟื้นตัวของการค้าโลก รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง และการใช้จ่ายภาครัฐในปีงบประมาณ 2561
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง ประกอบด้วย ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของคู่ค้าสำคัญ ส่งผลกระทบต่อการส่งออก รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังมีความผันผวนสูง การลงทุนภาครัฐที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนทั้งหมด
"สำหรับ การปรับประมาณการเงินเฟ้อครั้งนี้ จะอยู่ภายใต้สมมติฐาน จีดีพีที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6-4.6% ราคาน้ำมันดิบดูไบ 55-65 ดอลลาร์ต่อบาเรล และ ค่าเงินบาท 32-34 บาทต่อดอลลาร์”นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า เงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้นชะลอลงเล็กน้อยจาก 0.78% นั้น เป็นผลจากการปรับขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้องเพลิงในประเทศที่ปรับตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่สินค้ากลุ่มอาหารสดลดลงต่อเนื่อง สำหรับหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.18% จากกลุ่มพลังงานที่สูงขึ้น 0.86%จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง 1.32% รวมทั้งการปรับขึ้นของเสื้อผ้าบุรุษ สตรี เด็ก เป็นต้น
ด้านหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.10% จากการลดลงของกลุ่มอาหารสดที่ลดลง 0.30% ได้แก่ เนื้อสุกร เนื้อไก่ ไก่สด และไข่ไก่ ถึงแม้จะมีปริมาณบริโภคเพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปีใหม่ แต่ด้วยปริมาณผลผลิจมีมากจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้ราคาลดลง
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย