- Details
- Category: เกษตร
- Published: Sunday, 10 September 2017 16:37
- Hits: 5175
รัฐมนตรีเกษตรฯ เร่งทุกหน่วยเดินหน้าแผนงาน ปี 61 มอบหน่วยเจ้าภาพบูรณาการ 15 งานตามนโยบายสำคัญภายใต้งบกว่า 5.5 หมื่นล้าน มุ่งเป้าแก้ปัญหาทำเกษตรในพื้นที่ไม่เหมาะสมตัวฉุดการพัฒนาการเกษตรประเทศ ควบคู่ขับเคลื่อนยกระดับเกษตร 4.0
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เปิดเผยถึงการประชุมหารือแผนขับเคลื่อน Smart Agricultural Curve ปี 2561 โดยเรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงทุกหน่วยงาน ประธาน Single Command (SC) ทั้ง 77 จังหวัด และผู้อำนวยการกองแผนงาน เข้าร่วมรับฟังนโยบายเพื่อสร้างความเข้าใจในแผนขับเคลื่อน Smart Agricultural Curve และแผนการปฏิบัติการปี 2561 ให้กับข้าราชการและประธาน SC ทั่วประเทศ ณ กรมชลประทาน สามเสน ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานในปี 2561 ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งส่วนกลางและในระดับพื้นที่ โดยจะเริ่มต้นตามแผนปฏิบัติการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560
นับตั้งแต่ปี 2559 ในการปฏิรูปภาคเกษตร ได้กำหนดเป้าหมายให้เป็นปีแห่งการลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันสินค้าเกษตร และเดินหน้าอย่างเข้มข้นในปี 2560 ให้เป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานการเกษตรสู่ความยั่งยืน ตนได้คิดและนั่งเขียนแผนทั้งหมดตามแนวคิดเปรียบพื้นที่หรือทรัพยากรของประเทศที่มีจำกัด จำนวน 149 ล้านไร่เป็นกระดาษ A4 โดยพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บูรณาการงานสู่ 13 นโยบายหลัก (Agenda) นำนวัตกรรมเทคโนโลยีและองค์ความรู้ เข้ามาช่วยขับเคลื่อน สามารถลดต้นทุนได้ 20% เพิ่มผลผลิตได้ 20% เพื่อไปสู่เป้าหมายปลายทางคือ คุณภาพชีวิตของเกษตรกรดีขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น หนี้สินลดลง และมีความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกรสร้างรายได้หลักให้ประเทศ
จนถึงปี 2561 ได้กำหนดแผนบูรณาการแผนงานโครงการสำคัญที่จะดำเนินการให้เห็นผลชัดเจนมากขึ้น 15 แผนงานหลัก ได้แก่ 1. การบริหารจัดการน้ำ 2. เกษตรแปลงใหญ่ 3. ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร 4. การบริหารพื้นที่เกษตรโดย Agrimap 5. การพัฒนาเกษตรกรสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ 6. พัฒนาสถาบันเกษตรกรในรูปแบบประชารัฐ 7. ธนาคารสินค้าเกษตร 8. เกษตรอินทรีย์ 9. เกษตรทฤษฏีใหม่ 10. การแก้ปัญหาประมงไอยูยู 11. พัฒนาศูนย์เมล์ดพันธุ์ข้าว 12. การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และการใช้เครื่องจักรกลทดแทนแรงงาน 13. ตลาดสินค้าเกษตร 14. การพัฒนาสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน 15. การจัดการหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ ภายใต้งบประมาณปี 2561 ประมาณ 55,000 ล้านบาท จากงบประมาณของกระทรวงเกษตรฯ ปี 2561 ทั้งสิ้น 103,580 ล้านบาท
ทั้งนี้ 15 แผนงานจะมีหน่วยงานหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการการทำงานร่วมกัน และมีการประเมินผลความสำเร็จในแต่ละช่วงเวลาโครงการ พร้อมทั้งได้กำหนดเป้าหมายให้เป็นปีแห่งการยกระดับคน การบริหารจัดการมาตรฐานสินค้าเกษตรสู่เกษตร 4.0 โดยมีกรอบแนวคิดและการดำเนินงานต่อเนื่องตามนโยบายยกกระดาษ A4 ซึ่งจะเป็นกลไกผลักดันให้แผนขับเคลื่อน Smart Agricultural Curve ในปี 2561 บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้โดยเน้น
• การพัฒนาบุคลากร ทั้งข้าราชการและเกษตรกร โดยข้าราชการต้องเป็นข้าราชการที่มีสมรรถนะสูง มีอุดมการณ์ รอบรู้ในงานของตน และเชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชา สามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรไปแนะนำเกษตรกรได้ รวมทั้งเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนเร่งสร้างเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปปรับใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร จัดทำแผนธุรกิจ และเชื่อมโยงตลาดได้
• ยกระดับการบริหารจัดการ โดยภาคราชการต้องเน้นการทำงานแบบบูรณาการ แลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยงาน รวมทั้งนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัยมาใช้ในการขับเคลื่อนงานได้ ส่วนเกษตรกรต้องบริหารจัดการสินค้าเกษตรแบบครบวงจร เพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ ประยุกต์ใช้นวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการในปี 2561 ตามนโยบายดังกล่าว จะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาการเกษตรเร่งเครื่องสู่เกษตร 4.0 อย่างต่อเนื่องในปี 2562-2564 ตามแผนขับเคลื่อน Smart Agricultural Curve สอดรับกับยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) และแผนพัฒนาการเกษตร ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มรายได้เฉลี่ยของเกษตรกรถึง 390,000 บาท/คน/ปี เป็น Smart Farmer และ GDP ภาคเกษตรต้องเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี ตาม Roadmap ที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการดำเนินงานกับทุกภาคส่วนแบบประชารัฐที่จะทำให้ภาคเกษตรไทยเกิดการพัฒนาไปสู่เป้าหมายสุดท้าย คือ "เกษตรกรมั่นคง ภาคการเกษตรมั่งคั่ง และทรัพยากรการเกษตรยั่งยืน" ในปี 2579