WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aชาวไรยาสบ

สมาคมชาวไร่ยาสูบเหนือ-อีสาน-กลางผนึกกำลังยกระดับใบยาสูบไทยคุณภาพได้มาตรฐานโลกจัดประชุมภาคียาสูบประเทศไทยประจำปี 2559 เสริมกลยุทธ์ความยั่งยืน ปกป้องอาชีพจากมาตรการควบคุมสุดโต่ง ไม่เป็นธรรม

    สมาคมชาวไร่ยาสูบเหนือ-อีสาน-กลาง ผนึกกำลังยก ระดับใบยาสูบ คุณภาพได้มาตรฐานโลก สร้างเม็ดเงินกว่า 5 พันล้านบาทต่อปี ชี้ใบยาสูบไทยคุณภาพเป็นที่ต้องการจากตลาดทั่วโลก พร้อมถกกลยุทธ์เสริมความยั่งยืนให้อาชีพชาวไร่ยาสูบที่มีจำนวนกว่า 43,000 ครัวเรือน และผู้พึ่งพิงกว่าแสนคนทั่วประเทศ ประกาศพันธะกิจปกป้องอาชีพจากมาตรการควบคุมสุดโต่งไม่เป็นธรรม ย้ำชาวไร่ไม่ใช่จำเลยสังคม ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้

     สมาคมชาวไร่ยาสูบเหนือ-อีสาน-กลางที่มีชาวไร่ยาสูบรวม 43,000 รายทั่วประเทศ จัดประชุมภาคียาสูบประเทศไทยประจำปี 2559 ณ โรงแรมเวียงอินทร์ อ. เมือง จ.เชียงรายเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 59 โดยมีสมาคมชาวไร่ยาสูบและผู้บ่มใบยาสูบจาก 15 จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม โดยมีการหารือถึงความร่วมมือในการยกระดับใบยาสูบให้ได้คุณภาพและเป็นที่ต้อง การของทั้งในตลาดในประเทศและตลาดโลก ปัจจุบันชาวไร่ยาสูบไทยในทุกภูมิภาคมีผลผลิตใบยา สูบต่อปีราว 45 ล้านกิโลกรัม มีการทั้งส่งขายให้โรงงานยาสูบราวหลายพันล้านบาทต่อปี ในขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านกิโลกรัมต่อปี คิดเป็นเม็ดเงินที่ไหลเวียนอยู่ในระบบกว่า 5 พันล้านบาท โดยตลาดส่งออกของเราอยู่ในแถบเอเชียและอเมริกาใต้ ซึ่งใบยาไทยจะต้องได้มาตรฐานการผลิตทั้งในเรื่องการควบคุมไม่ให้มีการใช้สาร หรือยาฆ่าแมลงที่ตกค้างโดยเราได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยว ชาญทั้งจากโรงงานยาสูบและผู้รับซื้อใบยาสูบต่างประเทศเข้ามาฝึกอบรบให้ความ รู้และความช่วยเหลือด้านเทคนิค ตลอดจนการให้ความสำคัญในเรื่องแรงงานในไร่ วิธีปฏิบัติตัวอย่างถูกสุขลักษณะเมื่อเกษตรกรอยู่ในไร่รวมถึงเรื่องการใช้ แรงงานเด็กที่ชุมชนชาวไร่ยาสูบใช้มาตรการป้องกันและเฝ้าระวัง รวมถึงช่วยกันดูแลไม่ให้มีปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีและไม่พบปัญหาแต่อย่างใด’นายกฤษณ์ ผาทอง นายกสมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ จ. เชียงใหม่กล่าวถึงการประชุมในครั้งนี้

     นอกเหนือจากนี้ ยังได้มีการจัดทำเวิร์คช้อประดมความคิดหัวข้อ เสริมความเข้มแข็งให้กับภาคียาสูบทั้งจากภายใน-ภายนอก โดยได้มีการพูดคุยถึงสถานการณ์ด้านกฎระเบียบและมาตรการควบคุมต่างๆ ที่จะมากระทบกับอาชีพและวิถีชีวิตของชาวไร่ยาสูบไทย “การนำเสนอกฎหมายสุดโต่งที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่ใน เวลานี้ คือ ร่างพรบ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่เราชาวไร่ยาสูบได้แสดงความคิด เห็นคัดค้านและเรียกร้องให้มีการทบทวนร่างฉบับนี้หลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือคำมั่นสัญญาใดๆ จากภาครัฐที่จะเข้ามาดูแลเนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม มีการนำเสนอมาตรการต่างๆ ที่มากระทบสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นนิยามผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

    การให้การอุปถัมภ์ช่วยเหลือ การยอมให้ทำ CSR แบบมีเงื่อนไข การติดต่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเอ็นจีโอต้านบุหรี่และสาธารณสุขที่อ้างถึงการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ว่าให้ เป็นไปตามกรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบโลก ที่สำคัญจะมีการประชุม COP 7 ในปลายปีนี้ซึ่งมีการกำหนดหัวข้อที่จะกระทบกับชาวไร่ยาสูบแน่นอน ก็คือ การควบคุมสารประกอบและนิโคติน โดยเรารับทราบว่าทุกครั้งที่มีการประชุม จะมีเพียงตัวแทนของสาธารณสุขที่เป็นเพียงหน่วยงานเอ็นจีโอ แต่กลับไปเข้าร่วมประชุมและนำเสนอหรือตอบรับมาตรการสุดโต่งทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอำนาจในการนำเสนอจุดยืนของประเทศไทยและกลับมาบอกว่านี่เป็นสิ่ง ที่ไทยต้องทำตาม เพราะไปร่วมประชุมมา ชาวไร่มีความกังวลในจุดนี้และขอเรียกร้องให้มีการจัดตัวแทนจากภาครัฐให้ สมดุล และมีผู้แทนจากกระทรวงการคลังที่ดูแลชาวไร่ยาสูบโดยตรงเข้าไปร่วมการประชุม ครั้งนี้ด้วย

      สำหรับ การประชุมภาคียาสูบประเทศไทยนี้ มีสมาคมผู้เข้าร่วมรวม 10 หน่วยงาน ได้แก่ เครือข่ายชาวไร่ยาสูบอีสาน 5 จังหวัด (ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สกลนคร นครพนม และกาฬสินธุ์) สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ จ. เชียงใหม่ จ. เชียงราย – พะเยา จ. ลำปาง จ. แพร่ จ. น่าน สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์ จ. สุโขทัย สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย จ. เพชรบูรณ์ สมาคมพัฒนาชาวไร่ยาสูบบ่มเองจังหวัดเชียงใหม่ ชมรมชาวไร่ยาสูบบ่มเอง จ. เชียงราย

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!