ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดบ้านบึงสำราญน้อย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลาร้าคุณภาพดี รสเด็ด สร้างรายได้

     บ้านเมือง : เมื่อเร็วๆ นี้ นายพีระ คำศรีจันทร์ พัฒนาการอำเภอทรายทองวัฒนา ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของชาวบ้านบึงสำราญน้อย หมู่ 8 ตำบลถาวรวัฒนา อำเภอทรายทองวัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร โดยการนำของนายนันพิพัฒน์ ภิรมกิจ ประธานกลุ่มทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งได้รับงบประมาณมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (มสต.) ด้วยอัตราการผลิตวันละ 25-30 กระสอบ กระสอบละ 20 กก. กก.ละ 10 บาท ปีที่ผ่านมาผลิตได้ 50 ตัน (2,500 กระสอบ) ปีนี้ผลิตตามที่สั่งจอง คาดว่าจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา เพราะผู้ใช้มั่นใจในคุณภาพ และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จำหน่ายในหมู่บ้าน 80 เปอร์เซ็นต์ นอกหมู่บ้าน 20 เปอร์เซ็นต์

    "เราใช้ปุ๋ยคอกเป็นหลัก ทำให้คุณภาพมากค่าด้วยธาตุอาหารสำหรับพืชทุกชนิด บำรุงหน้าดินไม่เป็นดาน ใส่มะนาวให้ดอกติดผลดีมาก"

     ในอนาคตจะปรับปรุงต่อเติมสถานที่ผลิตให้ได้มาตรฐาน และมีเครื่องมือในการผลิตให้ได้ปริมาณมากเพียงพอแก่ความต้องการ สถานที่เก็บ สถานที่จำหน่าย บรรจุภัณฑ์ และการประชาสัมพันธ์ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากนายนันพิพัฒน์ ภิรมกิจ เสียสละให้ใช้พื้นที่โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างโครงการ "ประชารัฐ" ของอำเภอทรายทองวัฒนา ภายใต้การบริหารของเรืออากาศตรีอดุลย์ พรหมวาทย์ นายอำเภอทรายทองวัฒนา ที่มองเห็นความก้าวหน้าไปสู่ความมั่งคั่ง ยั่งยืนแน่นอน

       นอกจากนี้ ยังมี 'ปลาร้าประชารัฐ" ชั้นดี รสเด็ด โดยชาวบ้านบึงสำราญน้อย หมู่ 8 ตำบลถาวรวัฒนา อำเภอทรายทองวัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร ได้ใช้งบประมาณของรัฐมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล และระดมทุนจากสมาชิกร่วมด้วยช่วยกันทำปลาร้าคุณภาพดี ซึ่งเป็นอาหารสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งนับวันจะไม่มีใครทำแล้ว

      โดยหลังจากที่พัฒนาการอำเภอทรายทองวัฒนา เยี่ยมการทำปุ๋ยอินทรีย์เสร็จแล้ว ก็ยังได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจการทำปลาร้าสูตรดั้งเดิมของชาวบึงสำราญน้อย โดยการนำของผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. ผู้นำสตรี ผู้นำ อช. รวมกลุ่มสมาชิกลงมือทำกันเป็นวันแรก เป้าหมายปีนี้ 3,900 กก. ใช้โอ่ง 30 ลูก

    นายฉัตรธร พรดอนก่อ ประธานกลุ่มทำปลาร้าบ้านบึงสำราญน้อย รับประกันว่าปลาร้าที่รวมกลุ่มกันทำขึ้นมานี้เป็นปลาร้าที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะว่าชาวบ้านทุกคนในที่นี้กินเองด้วย ถึงแม้ว่าจะขายทุกท่านที่ซื้อไปก็ได้กินของดีเหมือนกับพวกเรา ต่อไปชาวบ้านก็จะมีการเลี้ยงปลาไว้ขายให้กับกลุ่มทำปลาร้า ผู้สูงอายุก็จะมีกิจกรรมจักสานชะลอมไว้หุ้มหิ้วไหหรือโหลใส่ปลาร้าทำของฝาก

     "ถึงแม้จะเหนื่อยและยากในการเริ่มต้น แต่ผมมีความมั่นใจว่าจะต้องสำเร็จ และพัฒนาให้มีชื่อเสียงเป็นโอท็อป ตัวใหม่ของอำเภอทรายทองวัฒนา ทำให้ประชาชนมีทางเลือก มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่แท้จริง เพราะเป็นอาหารประจำครอบครัว เกือบทุกบ้านกินปลาร้า ราคาที่ตั้งไว้ตามเกรด และชนิดของปลา คละทั่วไป กก.ละ 90 บาท คัดพิเศษกก.ละ 120 บาท ปลาช่อนล้วน กก.ละ 140 บาท" ประธานกลุ่มเล่าถึงในอนาคตว่า จะแปรรูปปลาร้าเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ พัฒนาสถานที่ผลิต บรรจุภัณฑ์ การตลาด การประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ปัจจุบันได้รับความอนุเคราะห์จากพ่อใหญ่เพิ่ม ชมเส็ง ให้ใช้บริเวณหลังบ้านเป็นสถานที่ผลิต

    ในการนี้ ได้ให้แนวทางการพัฒนาตามแนวทางของนายอำเภอทรายทองวัฒนา (ร.ต.อดุลย์ พรหมวาทย์) ที่มุ่งเน้นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาให้เป็นรูปธรรม และแนะนำให้จัดทำแผนธุรกิจ ซึ่งได้ให้พัฒนากรผู้ประสานงานตำบลมาให้คำแนะนำในการจัดทำต่อไป