WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCดวงพร รอดพยาธก.พาณิชย์ เปิดซองประมูลข้าว 3.6 แสนตัน เข้าสู่อุตสาหกรรมล๊อตแรกปี 59

      กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข 16 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2559 ปริมาณ 3.6 แสนตัน

     นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในการยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น จำนวน 16 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม ปริมาณ 3.6 แสนตัน จากคลังสินค้า 119 คลัง เป็นข้าว 7 ชนิด ระดับคุณภาพเกรด C ซึ่งผลการเปิดซองเสนอราคาซื้อปรากฏว่ามีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 9 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตเอทานอล อาหารสัตว์ เส้นก๊วยเตี๋ยว และกรดมะนาว ขอซื้อข้าวจาก 64 คลัง ปริมาณ 245,262 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 67 ของปริมาณที่เปิดประมูล) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,531 ล้านบาท โดยชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็นปลายข้าว A1เลิศ รองลงมาได้แก่ ข้าวท่อนหอมมะลิ

      เมื่อรวมผลการเปิดประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งมีผู้เสนอราคาสูงสุด 15 ราย ปริมาณ 152,377 ตัน มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,783 ล้านบาท กับข้าวที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมในวันนี้ตามปริมาณข้างต้น จะรวมเป็นปริมาณที่มีผู้เสนอราคาสูงสุดทั้งสิ้น 397,639 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 70 ของปริมาณที่เปิดประมูล 5.7 แสนตัน) มูลค่ารวม 3,314 ล้านบาท

     ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะนำผลการยื่นซองเสนอซื้อข้าวทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ก่อนนำเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติก่อนแจ้งยืนยันผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐให้ผู้ชนะการประมูลทราบตามขั้นตอนต่อไป

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

พาณิชย์ เผยมีภาคเอกชนสนใจยื่นซองประมูลซื้อข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 9 ราย

      นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยมีผู้ประกอบการที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นสนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมจำนวน 16 ราย โดยมีปริมาณ 3.6 แสนตัน จากคลังสินค้า 119 คลัง เป็นข้าว 7 ชนิด ระดับคุณภาพเกรด C ซึ่งผลการเปิดซองเสนอราคาซื้อปรากฏว่ามีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดจำนวน 9 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตเอทานอล อาหารสัตว์ เส้นก๊วยเตี๋ยว และกรดมะนาว ขอซื้อข้าวจาก 64 คลัง ปริมาณ 245,262 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 67 ของปริมาณที่เปิดประมูล) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,531 ล้านบาท โดยชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็นปลายข้าว A1เลิศ รองลงมาได้แก่ ข้าวท่อนหอมมะลิ

    เมื่อรวมกับผลการเปิดประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป เมื่อวานนี้ (16 ก.พ.59) ที่มีผู้เสนอราคาสูงสุด 15 ราย ปริมาณ 152,377 ตัน มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,783 ล้านบาท กับข้าวที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมในวันนี้ตามปริมาณข้างต้น จะรวมเป็นปริมาณที่มีผู้เสนอราคาสูงสุดทั้งสิ้น 397,639 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 70 ของปริมาณที่เปิดประมูล 5.7 แสนตัน) มูลค่ารวม 3,314 ล้านบาท

     ทั้งนี้ กรมฯ จะนำผลการยื่นซองเสนอซื้อข้าวทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ก่อนนำเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติก่อนแจ้งยืนยันผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐให้ผู้ชนะการประมูลทราบตามขั้นตอนต่อไป

      "ข้าวที่นำมาเปิดประมูลครั้งนี้ ในส่วนของข้าวดีราคาเสนอซื้อเฉลี่ยกิโลกรัมละ 11 บาทกว่า ถือว่าเป็นราคาที่ดี เพราะเป็นข้าวที่เก็บในสต๊อกไม่นาน โดยเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำปี 54/55-56/57 ส่วนข้าวเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ผู้ผลิตอาหารสัตว์เสนอซื้อที่กิโลกรัมละ 6.20-7.10 บาท ใกล้เคียงกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์อื่นๆ ขณะที่ผู้ผลิตเอทานอลเสนอซื้อที่กิโลกรัมละ 2.70 บาท สูงกว่าราคามันสำปะหลัง" นางดวงพร กล่าว

       สำหรับ การเปิดประมูลข้าวดีและข้าวเสื่อมรอบใหม่นั้นยังไม่ได้กำหนดเวลาต้องรอดูจังหวะที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกับตลาด โดยข้าวเสื่อมคุณภาพ (ข้าวเกรดซี) และข้าวผิดชนิดที่จะต้องขายให้หมดมีทั้งสิ้นกว่า 6  ล้านตัน รัฐบาลเพิ่งระบายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ขณะนี้การเปิดประมูลข้าวเกรดซีมีความยุ่งยากซับซ้อนมาก เพราะข้าวที่เหลือส่วนใหญ่ที่อยู่ในโกดังเดียวกัน แต่ผสมปนเปกันจนไม่สามารถแยกได้ว่ากองใดเป็นข้าวเสื่อมหรือข้าวเสียจึงต้องหาวิธีการระบายให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด

                        อินโฟเควสท์

25 รายยื่นประมูลข้าวสต็อก 152,377 ตัน

     นนทบุรี * 25 ราย ยื่นประมูลซื้อข้าวสต็อกรัฐเป็นการทั่วไป ปริมาณกว่า 1.52 แสนตัน มูลค่า 1,783 ล้านบาท ส่วนวันที่ 17 ก.พ. เป็นคิวประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 3.6 แสนตัน "ดวงพร" เตรียมนำผลสรุปเสนอประธาน นบข.เคาะขาย

      นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารใน สต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2559 ว่า มีผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติ 25 ราย จาก 34 ราย มายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสาร โดยมีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุดจำนวน 15 ราย ใน 35 คลัง ปริมาณรวม 152,377 ตัน คิดเป็น 74% ของปริมาณที่เปิดประมูล 2.04 แสนตัน มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,783 ล้านบาท

     ชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุด เป็นข้าวเหนียวขาว 10% ปริมาณ 83,233 ตัน คิดเป็น 55% ของ ข้าวที่เสนอซื้อ รองลงมา ปลาย ข้าว A1 เลิศ ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ข้าวปทุมธานี ข้าวท่อนปทุมธานี และปลายข้าว (เหนียว) A1 ตามลำดับ

    ส่วนวันที่ 17 ก.พ.2559 จะเปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติสำหรับการประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมจำนวน 16 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารปริมาณ 3.6 แสนตัน เป็นข้าว 7 ชนิดที่คุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐาน (ระดับคุณภาพเกรด C) ประกอบด้วยข้าวปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว  15% ข้าว เหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด และปลายข้าว A1 เลิศ รวมจำนวน 119 คลัง ใน 28 จังหวัด

        นางดวงพร กล่าวว่า หลังจากที่ได้ผู้เสนอซื้อสูงสุดสำหรับการประมูลทั้ง 2 แบบแล้ว กรมจะดำเนินการรวบ รวมผลให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐพิจารณา ก่อนนำเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป และเข้าสู่อุตสาหกรรมต่อไป.

เปิดประมูลข้าวลอตใหญ่ 5.7 แสนตัน  พาณิชย์เผยบรรยากาศคึกคักเอกชนหลายรายแห่เข้าชิง

      นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดกรมการค้าต่างประเทศ  กล่าวว่า  กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดประมูล ข้าวประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2559 รวม 5.7 แสนตัน โดยในวันที่ 16 ก.พ. 2559 ได้เปิดให้เอกชนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเข้ายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเป็นการทั่วไป ปริมาณรวม 2.04 แสนตัน เป็นข้าว 8 ชนิด ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน และใกล้เคียงมาตรฐาน(ระดับคุณภาพเกรด P/A/B) ประกอบด้วย ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ปลายข้าว A1เลิศ และปลายข้าว (เหนียว) A1 รวมจำนวน 40 คลัง ใน 13 จังหวัด

     "บรรยากาศการยื่นซองถือว่าเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้สนใจ เดินทางมาเข้ายื่นซองเสนอราคาอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้ข้าวในตลาดมีน้อย"

    โดยมีผู้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวจำนวน 25 ราย โดยมีผู้เสนอราคาที่เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 15 ราย ใน 35 คลัง ปริมาณ 152,377 ตัน หรือ 74% ของปริมาณที่เปิดประมูล ซึ่งมูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,783 ล้านบาท ชนิดข้าวที่มีผู้เสนอ ราคาซื้อมากที่สุดเป็นข้าวเหนียวขาว 10% ปริมาณ 83,233 ตัน คิดเป็น 55% รองลงมาได้แก่ ปลายข้าว A1เลิศ ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ข้าวปทุมธานี ข้าวท่อนปทุมธานี และปลายข้าว (เหนียว) A1 ตามลำดับ

      ส่วนในวันที่ 17 ก.พ. 2559 จะเปิดให้เอกชนอีก 16 ราย ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเข้ายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเข้าสู่อุตสาหกรรมปริมาณ 3.6 แสนตัน เป็นข้าว 7 ชนิด ที่คุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐาน (ระดับคุณภาพเกรด C) ประกอบด้วย ข้าวปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด และปลายข้าว A1 เลิศ รวมจำนวน 119 คลัง ใน 28 จังหวัด ยื่นซอง 17 ราย ซึ่งมีกำหนดเปิดซองเสนอราคาซื้อต่อหน้าผู้ร่วมประมูลในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

     ทั้งนี้ หลังจากได้ผลสรุปผู้ชนะ การประมูลทั้ง 2 แบบ กรมการค้า ต่างประเทศ จะดำเนินการรวบรวมผล ให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐพิจารณาก่อนนำเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติผลการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรมต่อไป

   อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลมาแล้วทั้งหมด 12 ครั้ง สามารถระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ถึงรัฐบาลปัจจุบัน หรือตั้งแต่ 22 พ.ค. 2557-15 ธ.ค. 2558  รวมปริมาณ 4.87 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 5.25 หมื่นล้านบาท

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!