เอกชนแนะ'บิ๊กตู่'ใช้เวทีผู้นำอาเซียนชี้แจงโอบามาไทยแก้ประมงผิดกม.แล้ว

             แนวหน้า : ผู้บริหารสมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง ไทยมั่นใจ 'อียู' ประเมินไทย เรื่อง ‘ไอยูยู’ไม่แย่ลง ชี้เหตุ ไทยบังคับใช้กม.เข้มดันประมงนอกรีตลด ขณะที่ปริมาณสัตว์น้ำ เริ่มเยอะขึ้น เชื่อเป็นโอกาสที่ นายกฯชี้แจงสหรัฐประเด็นแรงงาน ผิดกม. ทำให้แนวโน้มสถานะ "เทียร์ 3" ดีขึ้น

           นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมี.ค.2559 นี้ คาดว่า ทางคณะกรรมาธิการยุโรป(อียู) จะประกาศผลการประเมินสถานะประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย(ไอยูยู) หลังจากที่ได้เข้ามาตรวจสอบการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ และเอกชนไทยเมื่อเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา โดยครบกำหนดเวลา 6 เดือน ซึ่งเอกชนมั่นใจ ว่าผลการประเมินสถานะของไทยมีทิศทาง ที่ดีขึ้นและจะไม่แย่ลงไปกว่าเดิม

          ปัจจุบันที่ไทยได้รับสถานะที่ได้ 'ใบเหลือง' แต่จากผลการทำงานที่ผ่านมา รัฐบาลมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจนทำให้แทบจะไม่มีเรือประมงผิด กฎหมายซึ่งที่ผ่านมาเรือประมงผิดกฎหมายกว่า 30,000 ลำ ต้องหยุดกิจการประมงไป รวมทั้งการแก้ปัญหาการใช้แรงงานบังคับในกิจการล้งกุ้ง (ตัวแทนนายหน้าจัดหาอาหารกุ้ง)

        "แม้ไทยอาจจะได้ใบเหลืองเท่าเดิม แต่ผลประโยชน์ที่จะได้ตามมาคือ ความอุดมสมบูรณ์ในท้องทะเลไทยจะกลับมาดีขึ้น โดยขณะนี้เริ่มเห็นปริมาณสัตว์น้ำในทะเล เพิ่มจำนวนขึ้น และไม่เกิน 3 ปี ไทยจะมีอาหารทะเลเพิ่มจำนวนขึ้น"

     นายไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไป ประชุมสุดยอดอาเซียน และสหรัฐอเมริกา ในช่วงต้นสัปดาห์ เชื่อว่าสามารถจะใช้เป็นโอกาสในการชี้แจงกับประธานาธิบดี โอบามา ของสหรัฐอเมริกาถึงผลการดำเนินการ ของไทยที่จริงจังกับการแก้ไขปัญหาแรงงาน งานบังคับและผิดกฎหมาย ซึ่งน่าจะทำให้ สถานะ "เทียร์ 3" ดีขึ้น สำหรับแนวโน้ม การส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง ในปีนี้ของไทยทางสมาคมฯตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น จากปีก่อน 1 -2% มูลค่า 900,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ สัดส่วน 30% เป็นการส่งออกกุ้งแช่แข็ง ที่เหลือเป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์ทูน่าและอาหารทะเลอื่นๆ แม้จะมีปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ความต้องการยังเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ลูกค้ายังเชื่อมั่นคุณภาพสินค้าไทย เพียงแต่ไทยยังมีปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ซึ่งต้องอาศัยการนำเข้าวัตถุดิบมาแปรรูปเพื่อส่งออก อย่างไรก็ตามความต้องการบริโภคอาหารทะเลในประเทศ ยังเติบโต เพิ่มขึ้นมากเนื่องจากการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปี 2559 นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาไทย ถึง 30 ล้านคน ไม่รวมกับการบริโภค ของคนไทยเอง

      มีรายงานแจ้งว่า นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเข้าร่วมการ ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ณ ที่ Sunnylands เมือง Rancho Mirage มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ระหว่างวันที่ 14-18 ก.พ. 2559 ตามคำเชิญของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งการที่สหรัฐ ย้ำคำเชิญไทยให้ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เนื่องจากสหรัฐ คำนึงถึงบทบาทสำคัญของไทยในกรอบ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ กับอาเซียน โดยมองเห็นว่า ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางของอาเซียน ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือต่างๆ ทุกด้าน