- Details
- Category: เกษตร
- Published: Saturday, 28 June 2014 00:01
- Hits: 3281
กรมชลฯ เผยปริมาณน้ำไหลลงอ่างน้อยแม้เข้าฤดูฝน ติดตามไม่ให้กระทบท้ายเขื่อน
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ระบุว่า แม้ขณะนี้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯค่อนข้างน้อย เนื่องจากฝนที่ตกลงมายังอยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งกรมชลประทานได้กำชับให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับบริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกลงมา โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อน
สำหรับ สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(26 มิ.ย. 57) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 33,443 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด ยังสามารถรองรับน้ำในฤดูฝนนี้ รวมกันได้มากกว่า 36,800 ล้านลูกบาศก์เมตร
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 75 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 44 ของความจุอ่างฯ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 4,304 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุอ่างฯ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 3,322 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 35 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 139 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของความจุอ่างฯ เขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ ยังสามาถรับน้ำรวมกันได้อีกกว่า 16,600 ล้านลูกบาศก์เมตร
ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 187 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 36 ของความจุอ่างฯ เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำ 370 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุอ่างฯ เขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำ 82 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 68 ของความจุอ่างฯ เขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังสามารถรับน้ำรวมกันได้อีกกว่า 5,200 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับ ในพื้นที่ภาคกลางและตะวันออก ที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 92 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของความจุอ่างฯ เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของความจุอ่างฯ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของความจุอ่างฯ เขื่อนบางพระ จ.ชลบุรี มีปริมาณน้ำ 42 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 36 ของความจุอ่างฯ และเขื่อนประแสร์ จ.ระยอง มีปริมาณน้ำ 146 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุอ่างฯ เขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคตะกลางและภาควันออก ยังสามารถรับน้ำรวมกันได้อีกกว่า 1,900 ล้านลูกบาศก์เมตร
อินโฟเควสท์