WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RIDกรมชลประทานกรมชลฯ ทุ่มงบกว่า 957 ลบ. จ้างงานเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเลื่อนทำนาปี

     นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผย ว่า กรมชลประทานได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการจ้างแรงงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั่ว ประเทศโครงการตามมาตรการ เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการงดการปลูกพืชฤดู แล้ง (ปี2557/2558) และการเลื่อนการทำนาปี (ปี2558/2559) โดยจ้างแรงงานภาคการเกษตร ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรมาดำเนิน การก่อสร้างงานชลประทาน กำจัดวัชพืช และ ขุดลอกคู คลอง

   "การจ้างแรงงานอันเนื่องมาจากการงดปลูกข้าวนาปรัง ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ ดำเนินการจ้างไปแล้ว จำนวน 89,250 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,221.6557 ล้านบาท และมีแผนการ จ้างแรงงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอันเนื่องมาจากการเลื่อนทำนาปี (ปี2558/2559) จำนวน 36,673 คน ค่าจ้างงานประมาณ 957.4133 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และคาดว่า จะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ใน ระหว่างที่รอฝนตกเพื่อทำนาปีต่อไป" อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว

  ด้าน นายฎรงศ์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 กรมชลประทาน ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ ลุ่มเจ้าพระยาในเขตจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มี เกษตรกรในพื้นที่มาสมัครเป็นลูกจ้างชั่วคราวทำงานให้กับกรมชลประทาน เพื่อทำความสะอาดและ ลอกตะกอนคูคลอง รวมทั้งงานด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชลประทานแล้วมากกว่าร้อยละ 60 ของเป้า หมายที่วางไว้คือ 3,000 คน โดยใช้งบในการจ้างแรงงานประมาณ 25 ล้านบาท

    สำหรับ การจ้างแรงงานดังกล่าว จะให้ความสำคัญว่าจ้างเกษตรกร หรือลูก หลาน เกษตรกรเป็น อันดับแรก อย่างไรก็ตามในบางพื้นที่มีจำนวนเกษตรกรที่มาสมัครไม่เพียงพอ จำเป็นจะต้องว่างจ้าง แรงงานในภาคส่วนอื่นๆ แต่ต้องเป็นคนในพื้นที่หรือพื้นที่ใกล้เคียงมาเสริม ทั้งนี้เนื่องจากเกษตรกร ส่วนหนึ่งรอที่จะทำนาปี เพราะขณะนี้ฝนเริ่มตกบ้างแล้ว คาดว่าภายในเดือนสิงหาคม 2558 นี้ เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาน่าจะเริ่มทำนาปีได้ หลังจากที่รัฐบาลขอความร่วมมือให้เลื่อนการทำ นาปีออกไปจนกว่าฝนจะตกตามปกติ

    ส่วนการจัดสรรน้ำช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาปีในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาไป แล้วประมาณ 4.3 ล้านไร่นั้น ขณะนี้ได้ส่งน้ำไปช่วยเหลือนาข้าวที่อยู่ในช่วงตั้งท้องประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งน่าจะเพียงพอ เนื่องจาก เริ่มมีฝนตกในพื้นที่บ้างแล้ว นาข้าวในส่วนนี้จะไม่ยืนต้นตายและจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างแน่ นอน แต่ทั้งนี้เกษตรกรจะต้องปฏิบัติตามรอบเวรการจัดสรรน้ำอย่างเคร่งครัด และใช้น้ำอย่าง ประหยัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!