- Details
- Category: เกษตร
- Published: Thursday, 12 March 2015 23:20
- Hits: 1767
สศก.หาแนวทางเสริมหลังผลศึกษาพบนาข้าวที่ใช้เกษตรอินทรีย์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากสุด
นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ได้ดำเนินงานวิจัยศึกษาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในจากนาข้าวที่ใช้แนวทางเกษตรอินทรีย์และเกษตรที่ดีเหมาะสมเทียบกับระบบเกษตรดั้งเดิม เพื่อหาแนวทางและปัจจัยเสริมที่เหมาะสมต่อแนวทางการลดการปล่อยกาซเรือนกระจกของไทย โดยเก็บข้อมูลจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 279 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นเกษตรกรที่อยู่ในเขตนาน้ำฝน ผลการคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการจัดการนาข้าวตามแนวทางที่ต่างกัน พบว่า ข้าวเปลือกที่ผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด เท่ากับ 632.45 kg CO2e ต่อไร่ หรือ 2.01 kg CO2e ต่อข้าวเปลือก 1 kg ขณะที่ระบบเกษตรดีที่เหมาะสมและระบบเกษตรดั้งเดิมมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตข้าวเปลือกเท่ากับ 503.19 และ 315.11 kg CO2e ต่อไร่ หรือ 1.31และ 0.86 kg CO2e ต่อข้าวเปลือก 1 kg ตามลำดับ
สาเหตุสำคัญที่ระบบเกษตรอินทรีย์มีปริมาณการปล่อยฯ สูงที่สุดเนื่องจากระบบนี้จะใช้อินทรีย์วัตถุ (เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ และ ปุ๋ยพืชสด) เป็นจำนวนมากเพื่อทดแทนการใส่ปุ๋ยเคมีซึ่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ที่สำคัญ ทำให้ก๊าซมีเทน (CH4) ที่ถูกปล่อยมากขึ้นจากอินทรีย์วัตถุและการขังน้ำมีปริมาณสูงขึ้นมากโดยเปรียบเทียบกับการลดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์
ดังนั้น แนวทางเกษตรอินทรีย์และเกษตรที่ดีเหมาะสม ต้องพิจารณาถึงประโยชน์ในด้านสุขภาพและความปลอดภัยทางอาหาร พร้อมทั้งประเด็นสิ่งแวดล้อมอื่น โดยแนวทางเสริมที่สามารถดำเนินการได้คือ การส่งเสริมการปลูกข้าวแบบนาเปียกสลับแห้ง (Alternate Wet and Dry practice : AWD) ซึ่งเป็นแนวทางเสริมที่เกี่ยวกับการจัดการน้ำในนาข้าวโดยจะส่งผลให้ระยะเวลาการขังน้ำในนาข้าวน้อยลง ทั้งนี้ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทน (CH4) ลงไปได้มากกว่าครึ่ง
อย่างไรก็ตาม AWD สามารถใช้ได้ผลกับนาข้าวที่อยู่ในเขตชลประทาน เนื่องจากเกษตรกรไม่ต้องเสี่ยงต่อการขาดน้ำหากปล่อยน้ำออกจากนาในช่วงที่ไม่จำเป็นต้องขังน้ำ ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทานจึงจำเป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญยิ่งต่อแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สำหรับนาน้ำฝนและการเพิ่มภูมิคุ้มกันสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
อินโฟเควสท์