- Details
- Category: เกษตร
- Published: Sunday, 08 June 2014 21:12
- Hits: 3891
วันที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8593 ข่าวสดรายวัน
ชาวนาขอสานต่อจำนำข้าว 8 สมาคม-เสนอ! แค่ตันละ 1.2 หมื่น หัวหิน-ชะอำคึก หลังเลิกเคอร์ฟิว'บิ๊กตู่'คุมบีโอไอ
 คึกคัก - ชาวต่างชาติเริ่มกลับมาท่องเที่ยวคึกคักอีกครั้ง รอลงเรือไปเที่ยวชายทะเลอันดามันที่ จ.กระบี่ หลังคสช.ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวในเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ เพื่อส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. |
8 สมาคมชาวนาขอ คสช. ช่วยเดินหน้าโครง การรับจำนำข้าว ขอแค่ราคาคุ้มทุน 1.2 หมื่นบาทต่อตัน ชี้เป็นประโยชน์กับชาวนาทั่วประเทศ ทำให้ราคาข้าวดี-มีผลกำไร ระบุไม่ต้องการโครงการประกันราคา แนะผลักดันกม. สวัสดิการชาวนา ด้านกรมการค้าภายในสนับสนุน-ชดเชยปัจจัยผลิต 'พังงา'เฮ-หลังประกาศเลิกเคอร์ฟิว กระบี่คึกคัก-แห่เที่ยวเนืองแน่น หัวหิน-ชะอำก็ล้นหลาม โรงแรมหาดใหญ่วอนเลิกเคอร์ฟิว ชี้ท่องเที่ยววูบ-ต่างชาติหายเกลี้ยง บิ๊กตู่นั่งประธานบอร์ดบีโอไอ
8 สมาคมชาวนาถกคสช.
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ห้องประชุมสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมหารือรับฟังความคิดเห็นการช่วยเหลือชาวนา ร่วมกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และ 8 สมาคมชาวนาที่มาร่วมให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการช่วยเหลือชาวนา โดยใช้เวลา 3 ช.ม.
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวภายหลังหารือว่า การรับฟังข้อเสนอเป็นการหารือเพิ่มเติม ต่อเนื่องจากการหารือกับผู้ประกอบการโรงสีและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยข้อเสนอของ 8 สมาคมชาวนา สรุปเป็น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ขอให้คสช.ช่วยเหลือและวางแนวทางในการลดต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ยและยาฆ่าเเมลง 2.พัฒนาระบบชลประทานที่สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างเพียงพอและทั่วถึง และ 3.การพัฒนาคุณภาพข้าวให้ดีขึ้น
นำข้อเสนอชงให้'บิ๊กตู่'
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า หลังจากนี้แต่ละหน่วยงานจะนำข้อเสนอทั้งหมดกลับไปทบทวนร่วมกับความคิดเห็นของนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ก่อนนำเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. เพื่อกำหนดเป็นมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
"การหารือครั้งนี้ เป็นการรับฟังความเห็น แนวทางการช่วยเหลือ ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่เข้าใจดีและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพพันธุ์ข้าว ให้เกิดความร่วมมือระหว่างชาวนากับโรงสี แต่ไม่ได้พูดถึงการทำโครงการรับจำนำข้าวหรือประกันรายได้ว่าจะยังเดินหน้าต่อไปหรือไม่ ในส่วนของราคาข้าวขณะนี้ก็ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ราคาตกต่ำ ซึ่งหลังจากคสช.เข้ามาจะเห็นว่าราคาข้าวปรับเพิ่มขึ้น" พลเอกฉัตรชัยกล่าว
ชาวนาหนุนเดินหน้าจำนำข้าว
นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมชาวนาทั้งประเทศยังต้องการโครงการรับจำนำข้าวอยู่ เพราะเป็นประโยชน์กับชาวนาทั่วประเทศ ทำให้ราคาข้าวดีและเมื่อจำนำเเล้วยังมีผลกำไรอยู่บ้าง เพราะขณะนี้ราคาข้าวในตลาดโดยรวมเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 4,000-6,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ทำให้เกษตรกรขาดทุน โดยขณะนี้ราคาต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 7,000-7,700 บาทต่อตัน ส่วนโครงการประกันราคานั้น ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ต้องการ เพราะทำให้ชาวนามีรายได้ไม่เพียงพอ
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลไม่มีนโยบายรับจำนำข้าว อยากให้หน่วยงานที่กำกับดูแลช่วยเหลือเกษตรกร โดยหามาตรการช่วยเหลือ ซึ่งเกษตรกรชาวนาสามารถอยู่ได้ โดยมีสูตรราคาต้นทุนอยู่ที่ 7,300 บาทต่อตัน และให้บวกกำไรสัดส่วน 40 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับราคาข้าวโดยเฉลี่ยจะเกิน 10,000-12,000 บาทต่อตัน จะทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่อยู่ได้ และคสช.ได้รับปากจะชี้แจงความคืบหน้าและความเป็นไปได้ให้เกษตรกรรับทราบภายในวันที่ 20 มิ.ย.นี้
ชงออกกม.สวัสดิการชาวนา
สำหรับแนวทางที่เสนออื่นๆ เช่น 1.ออกมาตรการช่วยเหลือชาวนารูปแบบใดก็ได้ ที่คิดคำนวณจากราคาขายบวกกำไร โดยผู้ปลูกข้าวหอมมะลิเสนอดูแลราคาข้าวเปลือกนาปีรอบใหม่ (2557/2558) ไม่ต่ำกว่าตันละ 16,000 บาท ราคาข้าวเปลือกเหนียวตันละไม่ต่ำกว่า 14,000 บาท ราคาข้าวเปลือกเจ้าตันละไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท
2.หาวัตถุดิบเพื่อการเพาะปลูกราคาถูก 3.จัดหาตลาดขายข้าวโดยตรง 4.ดูแลต้นทุนการทำนาให้คุ้มทุน และ 5.ขอให้คสช.ผลักดันการออกกฎหมายสวัสดิการชาวนา เหมือนในต่างประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เพื่อการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาให้ยั่งยืนในอนาคต
การค้าภายในเล็งหนุนปัจจัยผลิต
ด้านนายระวี รุ่งเรือง ประธานศูนย์ข้าวชุมชนภาคตะวันตก กล่าวว่า เสนอให้ภาครัฐช่วยเหลือในเรื่องปัจจัยการผลิตที่ลงทุนไปแล้วในรูปของเม็ดเงิน 2,500 ต่อไร่ และให้ภาครัฐพยายามกำหนดกลไกตลาดและควบคุมปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาด ส่วนในระยะต่อไปให้มีการสำรวจจำนวนศูนย์ข้าวชุมชนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อจัดตั้งกองทุนในการให้ยืมเงินจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว และตั้งกองทุนหมุนเวียนให้เกษตรกรนำผลผลิตมาเเปรรูปในโรงสีชุมชนพร้อมกันนี้ยังได้เสนอให้มีการจัดทำเเผนพัฒนาชาวนาในระยะ 5 ปีหรือ 8 ปีข้างหน้า โดยกำหนดให้ ไม่ว่ารัฐบาลใดเข้ามาบริหารประเทศให้ใช้แผนดังกล่าวในการดูแลช่วยเหลือชาวนา
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เตรียมมาตรการดูแลราคาเสนอให้คสช.แล้ว เบื้องต้นจะไม่ทำโครงการรับจำนำข้าวและโครงการประกันรายได้อย่างแน่นอน โดยอาจเป็นการสนับสนุนหรือชดเชยปัจจัยการผลิตแทน แต่ทั้งนี้ต้องรอการหารือจากทุกภาคส่วน รวมทั้งการตัดสินใจจากคสช.ก่อน สำหรับราคาสินค้าเกษตรช่วงนี้ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวเปลือก เริ่มปรับขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 300 บาทต่อตัน หรืออยู่ที่ประมาณตันละ 7,300 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดี ขณะที่สินค้าเกษตรชนิดอื่นก็ไม่มีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ เพราะตลาดมีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น
'บิ๊กตู่'นั่งปธ.บีโอไอ
วันเดียวกัน คสช.ออกประกาศ คสช. ฉบับที่ 55/2557 ลงวันที่ 7 มิ.ย. 2557 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้การบริหารการลงทุนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นประธานกรรมการ 2.พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เป็นรองประธานกรรมการ 3.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. 4.นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 5.นายรังสรร ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง 6.นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ 7.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 8.นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 9.นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 10.นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย 11.นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 12.นายสถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
13.นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานสมาคมจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย 14.นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย 15.นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 16.นายประกิจ ชินอมรพงศ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย 17.นายภัคพล งามลักษณ์ สมาคมผู้ค้าปลีก เป็นที่ปรึกษา 18.นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นกรรมการและเลขานุการ ให้อำนาจและหน้าที่ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520
พังงาเฮ-หลังเลิกเคอร์ฟิว
ที่ จ.พังงา นายนิกร จันทร์อำไพ นายอำเภอเมืองพังงา พร้อมปลัดอำเภอและอส. เข้าตรวจสถานบริการใน ต.ตากแดด หลัง คสช.ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว โดยบรรยากาศกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจสารเสพติดและอาวุธอย่างเข้มงวดด้วย
นายนิกร กล่าวว่า แม้ว่า จ.พังงาจะมีสถานบริการในช่วงกลางคืนจำนวนไม่มาก ทำให้ช่วงประกาศเคอร์ฟิวไม่ได้รับผลกระทบ แต่นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการสถานบริการ เนื่องจากเป็นโอกาสดีที่ทำให้ลูกค้าของร้านสามารถออกมาใช้บริการได้ สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปถือเป็นปกติ เพราะในพื้นที่ อ.เมืองพังงา มีสถานบริการไม่มากและมีการควบคุมมาโดยตลอดอยู่แล้ว
กระบี่คึก-แห่เที่ยวเนืองแน่น
ที่ จ.กระบี่ ภายหลังคสช.ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวหลายแห่งของจังหวัดเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะตามสถานบันเทิง ร้านอาหารและบาร์เบียร์ บริเวณหาดอ่าวนางและเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ซึ่งมีกลุ่มนักท่องเที่ยวออกมาช่วงเวลากลางคืนจำนวนมาก
นายวีรภัทร์ จันทโร ประธานชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพี เปิดเผยว่า หลังประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวบนเกาะพีพีเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับทราบข้อมูลก็เริ่มทยอยเดินทางมาเที่ยวเกาะพีพีมากขึ้น ส่วนอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวบนเกาะพีพีช่วงนี้ ยังมีเพียงร้อยละ 30-40 เนื่องจากอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น แต่คาดสถานการณ์ท่องเที่ยวของเกาะพีพีจะกลับมาดีขึ้นแน่นอน
หัวหิน-ชะอำก็ล้นหลาม
ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศ อ.หัวหิน รวมถึง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อคสช.ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว โดยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ต่างออกมาเดินเที่ยวและทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน
นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก กล่าวว่า สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.ชะอำ และอ.หัวหิน ซึ่งเป็นหัวเมืองท่องเที่ยว ภาพรวมไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิวมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวและกลุ่มสัมมนายังคงเดินทางมาท่องเที่ยวกันตามปกติ เมื่อยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวฉบับล่าสุดก็อาจส่งผลดีต่อสถานบันเทิงใน อ.หัวหิน เพราะช่วงที่ประกาศเคอร์ฟิวที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวและกลุ่มสัมมนามาพักผ่อนที่ชะอำและเดินทางมาเที่ยวตลาดโต้รุ่งก็ต้องรีบกลับ แต่นักท่องเที่ยวปรับตัวได้และผู้ประกอบการก็มีความเชื่อมั่นว่าคงใช้เวลาไม่นาน
หาดใหญ่วอนเลิกเคอร์ฟิว
ที่ จ.สงขลา สมาชิกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา และผู้ประกอบการโรงแรม ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิวของคสช. ได้ประชุมหารือที่โรงแรมอโลฮา อ.หาดใหญ่ หลังกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ลดลง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยมีนักท่องเที่ยวจองห้องพักประมาณร้อยละ 20 เท่านั้น พร้อมเตรียมยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ เพื่อเสนอผ่านไปยังคสช.ให้มีการผ่อนปรน
นายสมชาติ พิมพ์ธนพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ กล่าวว่า การประกาศเคอร์ฟิวมีผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพราะนักท่องเที่ยวเข้าพักลดลงเหลือ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เนื่องจากประเทศมาเลเซียประกาศให้นักท่องเที่ยวชะลอเข้ามาเที่ยว เพราะเกรงจะเกิดอันตรายขึ้น จึงเตรียมทำหนังสือขอความเห็นใจให้คสช. พิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวในอ.หาดใหญ่
นายสมชาติ กล่าวอีกว่า สมาคมรู้เข้าใจและเห็นใจฝ่ายความมั่นคงและในความจำเป็นที่ประกาศเคอร์ฟิว เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและจับกุมบุคคลบางคนที่ทำผิด แต่หากเคอร์ฟิวนานวันผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องจะได้รับผลกระทบ เพราะในช่วงนี้ประเทศมาเลเซียปิดภาคเรียนและจะนิยมเข้ามาพักผ่อนในจ.สงขลา มากในแต่ละปี ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวเสียโอกาสไปด้วย
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผวจ.สงขลา กล่าวว่า ได้รับหนังสือจากสมาคมโรงแรมแล้ว ซึ่งเข้าใจและเห็นใจที่ได้รับผลกระทบ โดยจะประสานไปยังคสช. เพื่อขอให้ยกเลิกเคอร์ฟิวในบางอำเภอของจ.สงขลา แต่ยังคงเคอร์ฟิวไว้บางอำเภอที่จำเป็นทางความมั่นคง
ตร.-ทหารตรวจอาร์ซีเอ
วันเดียวกัน พ.ต.อ.กิติ ยุกตระนนท์ ผกก.สน.มักกะสัน พ.ต.ท.ฤทธี ปานดำ รองผกก.ป. และพ.ท.ธีระพงศ์ ชูตินันท์ ผบ.ร.1 พัน 2 พร้อมกำลังทหารและตำรวจตรวจสถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ แขวงห้วยขวาง เขตบางกะปิ เพื่อให้สถานบริการปฏิบัติตามคำสั่งช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยขอความร่วมมือให้สถานบันเทิงปิดก่อนเวลาเคอร์ฟิว เพื่อให้ลูกค้าและพนักงานมีเวลาเดินทางกลับ นอกจากนี้ยังตรวจหาสารเสพติดและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ แต่ไม่พบใครมีสารเสพติดหรือพกอาวุธมา จึงตั้งกำลังตรวจความเรียบร้อย เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวให้กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
