- Details
- Category: เกษตร
- Published: Tuesday, 10 February 2015 22:41
- Hits: 1979
ก.เกษตรฯ รุกโครงการพัฒนาสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ
ก.เกษตรฯ รุกโครงการพัฒนาสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ตามนโยบาย คสช. มุ่งให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีบทบาทรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรเพื่อการแปรรูป โดยสหกรณ์ดำเนินการด้านการตลาดสนับสนุนการผลิตของสมาชิก สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต กระจายคืนสู่เกษตรกรและชุมชน
นายโฆสิต วิโรจน์เพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงพิธีเปิดโครงการพัฒนาสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจตามนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พื้นที่จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 สหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตหนองยายดา จำกัด ตำบลหนองยายดา อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี และจุดที่ 2 สหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา) เป็นประธาน
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มุ่งเน้นให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเข้ามามีบทบาทรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรเพื่อการแปรรูป และให้สหกรณ์ดำเนินการด้านการตลาดสนับสนุนการผลิตของสมาชิกสหกรณ์ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งผลักดันนโยบาย โดยคัดเลือกสหกรณ์ที่มีศักยภาพพร้อมที่จะดำเนินการตอบสนองนโยบายรัฐบาล ซึ่งโครงการได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อให้สหกรณ์ดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานและจัดหาอุปกรณ์ เช่น เครื่องจักรแปรรูปผลผลิต ลานตาก โรงเรือนเก็บผลผลิต เครื่องจักรปรับปรุงคุณภาพสินค้า เพื่อให้สามารถรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรและแปรรูป
สำหรับ กลไกดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรมีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพของผลผลิต แปรรูปสินค้า เพิ่มมูลค่าสินค้าและเพิ่มช่องทางการตลาด ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น และช่วยสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้เหล่าสมาชิกของสหกรณ์และเกษตรกร เช่น โครงการ การเพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปข้าว และสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนา ของสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตหนองยายดา จำกัด ในการยกระดับการแปรรูปผลผลิต ปรับปรุงข้าวให้มีคุณภาพสูงขึ้นและได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต และนำมูลค่าเพิ่มนั้นไปกระจายคืนสู่เกษตรกรและชุมชน และยังสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวนาและชุมชนเพื่อสร้างเครือข่ายทางการตลาด เพื่อช่วยกระจายสินค้าของสหกรณ์ ผ่านช่องทางการตลาดลดความเสี่ยงสินค้าคงเหลืออีกด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินทุน เกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ผลิตข้าวเปลือกคุณภาพส่งโรงสีข้าวของสหกรณ์ฯ รวบรวมรับซื้อผลผลิตบางส่วนขายให้พ่อค้า ผลผลิตบางส่วนแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นข้าวสาร ขายให้กลุ่มสหกรณ์ องค์กรเกษตรกรอื่นๆ และเอกชนที่เป็นผู้ส่งออกหรือโรงสีขนาดใหญ่ ซึ่งจะสู่การพัฒนาศักยภาพและสร้างความเข้มแข็ง ของสถาบันเกษตรกรและเกษตรกรต่อไป ท่านที่สนใจรายละเอียดโครงการ สามารถสอบถามขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ โทร. 056 803 525
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย