- Details
- Category: เกษตร
- Published: Friday, 23 January 2015 21:39
- Hits: 2766
ค้าปลีกไม่ฟื้นต่ำสุดรอบ 10 ปี ขอลดแวต อ้างช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ
ไทยโพสต์ ; ราชประสงค์ * สมาคมผู้ค้า ปลีกไทย แนะรัฐเร่งหามาตร การกระตุ้นกำลังซื้อ หลังภาพรวมค้าส่งค้าปลีกโตแค่ 3.2% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เตรียมเสนอรัฐส่งเสริมภูเก็ตเป็นเขตสินค้าปลอดภาษี
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมมีความต้อง การให้ทางภาครัฐเร่งดำเนินการ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่านมาตรการต่างๆ อย่างเร็วที่สุด ทั้งในส่วนของการลงทุนด้านสาธารณูปโภค ที่คาดว่าจะสามารถเป็นส่วนที่ช่วยให้เกิดการจ้างงานและประชาชนมีรายได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจดีกว่าช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันปัญหากำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังคงชะลอตัวอยู่ รัฐก็ควรหาวิธีการเข้ามากระตุ้นให้มากขึ้น โดยอาจมีส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางจนถึงสูง นับได้ว่ายังมีกำลังซื้ออีกมาก
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยภาพรวมของอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งจะมีการเติบโตอยู่ในระดับ 6-7% แต่เนื่องจากปัจจัยลบหลายด้านได้ส่งผลกระทบให้ในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมค้าปลีกค้าส่งสามารถเติบโตได้เพียง 3.2% จากที่คาดการณ์กันไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าจะมีการเติบโตได้ 5-6% โดยอัตราการเติบโตดังกล่าวไม่ได้ลดลงอย่างมีนัย แต่เป็นไปตามทิศทางเดียวกับตัวเลขของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.8% โดยอุตสาหกรรมจะเป็นไปทิศทางใดนั้นขึ้นอยู่กับการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก
พร้อมกันนี้ สมาคมยัง อยากให้ภาครัฐสนับสนุนประ เทศไทยขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางการช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยว เบื้องต้นภายในเดือน ม.ค. จะเข้าไปเสนอรัฐบาลเรื่องของการทำให้ภูเก็ตเป็นแหล่งสินค้าปลอดภาษีให้มากขึ้น เพราะนอกจากกำลังซื้อของคนในประเทศแล้ว รายได้จากนักท่องเที่ยวก็เป็นส่วนสำคัญด้วยเช่นกัน
สำหรับ มูลค่าอุตสาห กรรมค้าส่ง-ค้าปลีกรวมในปี 2556 อยู่ที่ 2.7 ล้านล้านบาท ในปี 2557 มีการเติบโตราว 1-1.5% ขณะที่มูลค่าค้าส่ง-ค้า ปลีกที่อยู่ในสมาคม และมีสมา ชิกประมาณ 113 บริษัท มีมูลค่าอยู่ที่ราว 9 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 30% จากภาพรวมทั้งหมด คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีการเติบโตอยู่ที่ 6.3% เนื่องจากฐานในปีที่ผ่านมาค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำ.
ค้าปลีกขอลดแวต อ้างช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ
แนวหน้า : นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่าภาพรวมของตลาดค้าปลีกในปี 2558 จะมีการขยายตัวได้ 6.3% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 9 แสนล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียง 3.2 % โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้นตาม แต่อย่างไรก็ดีการเติบโตดังกล่าวยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่ตลาดรวมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 12% ต่อปี
โดยธุรกิจค้าปลีกในปีที่ผ่านมา ผ่านมา กลุ่มคอนวีเนียนสโตร์มีอัตราการเติบโตขึ้น 4% ซูเปอร์มาร์เก็ตเติบโตขึ้น 6.5% ซูเปอร์เซ็นเตอร์เติบโตขึ้น 2.6% ดีพาร์ทเมนท์สโตร์เติบโตขึ้น 3.4% และกลุ่มร้านค้าเฉพาะทางเติบโตขึ้น 2.7%
อย่างไรก็ตาม สมาคมยังต้องให้รัฐบาลหามาตรการต่างๆเข้ามาช่วยกระตุ้นกระตุ้นอุตสาหกรรมค้าปลีก โดยเฉพาะเร่งรัดการลงทุนโครงการต่างๆ และควรหามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไปยังผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งกำลังซื้อยังค่อนข้างแข็งแรง เพื่อให้เม็ดเงินกระจายสู่ภูมิภาคและจังหวัดต่างๆ
นอกจากนี้ ควรพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าสินค้า International Luxury Brand เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เข้ามาท่องเที่ยวในไทย อีกทั้งควรประกาศให้ เกาะภูเก็ต เป็นเขตปลอดภาษี เพื่อสอดรับกับนโยบาย Thailand Shopping Destination และในกรณีที่กำลังซื้อยังอ่อนแอต่อเนื่อง ภาครัฐอาจต้องพิจารณาลดภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 7%ลง 1-2% หรือเหลือประมาณ 5-6% ในระยะสั้นๆ ประมาณ 6 เดือน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของภาครัฐ บ้างแต่ในสถานการณ์ที่เงินเฟ้อต่ำและกำลังซื้ออ่อนแอ การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จะช่วยให้การจับจ่ายเติบโตประมาณ 3-4%
ทั้งนี้ จากการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของไทยในปี 2557 ว่าอยู่ที่ 0.8% สะท้อนว่าบรรยากาศการจับจ่ายยังไม่เติบโตเท่าที่ควร โดยผู้บริโภคยังคงชะลอการใช้เงินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สินค้าหมวดคงทนเติบโตเพียง 2.7% ลดลงจากปี 2556 ซึ่งเติบโตที่ 8.5% ในส่วนหมวดสินค้ากึ่งคงทนเติบโตได้ 3.4% และสินค้าไม่คงทนซึ่งเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวันมีตัวเลขการจับจ่ายเติบโตที่ 2.1% สะท้อนถึงกำลังซื้อในระดับผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยได้รับผลกระทบจากหนี้สินของครัวเรือนยังอยู่ในเกณฑ์สูง นอกจากนี้ประชาชนทั่วไปยังระมัดระวังการจับจ่ายสูง