- Details
- Category: เกษตร
- Published: Tuesday, 20 January 2015 22:13
- Hits: 2381
สวนปาล์มลั่นแตกหัก ฮึ่มปลุกม็อบ-ชุมนุมใหญ่ ขวางพณ.นำเข้า 5 หมื่นตัน
แนวหน้า ; สวนปาล์มลั่นแตกหัก ฮึ่มปลุกม็อบ-ชุมนุมใหญ่ ขวางพณ.นำเข้า 5 หมื่นตัน นายกฯยันไร้ผลประโยชน์
ที่โรงแรมลิกอร์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมชาวสวนปาล์มทุกจังหวัด นำโดย นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสมพร ศรีเพชร นายกสมาคมชาวสวนปาล์มนครศรีธรรมราช และสมาชิกในหลายจังหวัด ได้ร่วมกันประชุมแนวทางการแก้ไขปัญหา ภายหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์จะนำเข้าปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ จำนวน 50,000 ตัน โดยใช้เวลาหารือกว่า 3 ชม. จึงได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
โดย นายมนัส เปิดเผยว่า จะเร่งทำหนังสือส่งไปยัง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายในวันที่ 20 มกราคมนี้ เพื่อคัดค้านการนำเข้าปาล์มน้ำมัน โดยรัฐบาลไม่ควรที่จะเอาปัญหาเข้ามาเพิ่ม เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งเรื่องข้าว หรือแม้แต่ยางพารา ก็ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ หากเอาปัญหาเรื่องปาล์มเข้ามาอีก ก็จะทำให้รัฐบาลแย่ลง ไม่อยากจะเห็นประชาชนออกมาเดินตามท้องถนน ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะยุติการนำเข้าและหันมาตรวจสอบสต็อกที่แท้จริง
นายสมพร กล่าวว่า มติในที่ประชุมวันนี้ ทุกจังหวัดมีความเห็นตรงกันว่า ต้องคัดค้านการนำเข้าปาล์มน้ำมัน เนื่องจากผลผลิตปาล์มจะออกเต็มที่ปลายเดือนมกราคมเป็นต้นไป การนำเข้าในครั้งนี้ยังมีเงื่อนงำเหมือนเดิม โดยน้ำมันปาล์มที่นำเข้านั้นมาจากประเทศอินโดนีเซียในราคา กก.ละ 16 บาท แต่ราคาน้ำมันปาล์มที่จำหน่ายในประเทศไทยราคา กก.ละ 30 บาทนิดๆ พวกเราไม่มีข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล แต่ให้รัฐบาลหยุดคิดนำเข้า ใครได้ใครเสีย น่าจะรู้ การนำเข้าน้ำมันปาล์มไม่ใช่เพิ่งจะเกิด แต่พยายามทำให้เกิดมาบ่อยครั้ง การอ้างว่าน้ำมันในสต็อกที่มีอยู่ 2.5 แสนตันนั้นลดลง แล้วมันจะลดลงได้อย่างไร คำว่าสต็อกก็แปลว่าจะต้องมีค้างอยู่ แล้วสต็อกในบ้านเราก็มีปัญหากันมาก ไม่ว่าจะสต็อกข้าว ยาง ล้วนแต่มีปัญหาจริงๆ และท้ายที่สุดก็เป็นการทุจริต
นายสมพร กล่าวว่า หากรัฐบาลคิดจะเดินหน้านำเข้าน้ำมันปาล์ม ก็คงต้องรู้กัน เตือนเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ขู่ แต่ให้คอยดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น กับยุทธศาสตร์ควนหนองหงส์ ภาค 2 ครั้งนี้ เราทุกคนจะต้องเดือดร้อนพร้อมๆ กันอีกครั้ง ยางตกต่ำมีคนเสียชีวิต ข้าวตกต่ำก็มีคนเสียชีวิต ผลไม้ตกต่ำก็มีคนเสียชีวิต หรือจะต้องให้ปาล์มเสียชีวิตอีกด้วยหรือ ขอให้จับตาให้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ด้าน นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลยังแก้ไขปัญหาข้าวและยางพาราตกต่ำไม่ได้ แต่ยังจะซ้ำเติมโดยการนำเข้าปาล์มน้ำมันอีก รัฐบาลไม่เคยแก้ปัญหาราคาปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชที่ปล่อยให้นายทุนคนกลางค้ากำไรเกินควร ไม่เคยแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม จนเกิดข่าวเรือลักลอบขนน้ำมันปาล์มล่มในอ่าวไทย ทำให้ขณะนี้ เกษตรกรต่างจับตาการทำงานของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะที่ระบุว่า ได้ขายยางพาราในสต็อกของรัฐให้บริษัท ไห่หนาน ไชน่า จำนวน 400,000 ตันไปแล้ว จนถึงวันนี้มีการส่งมอบไปแล้วเท่าไหร่ หรือที่บอกว่า กำลังจะขายยางให้ต่างประเทศอีก 80,000 ตันนั้น ได้ส่งมอบยางพาราไปแล้วเท่าไหร่ เช่นเดียวกับน้ำมันปาล์ม ที่บอกว่าจะรับผิดชอบ ถามว่า หากการนำเข้าครั้งนี้มีผลกระทบทำให้ราคาปาล์มตกต่ำลงอีก จะรับผิดชอบอย่างไร
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า จะมีการนำเข้าปาล์มน้ำมันเพียง 5 หมื่นตัน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น เนื่องจากรัฐบาลรู้ว่าปาล์มน้ำมันจะต้องขาดตลาด และพยายามจะไม่นำเข้าปาล์มดิบ แต่ปัญหาคือขณะนี้ปาล์มน้ำมันหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว จึงไม่เพียงพอแน่นอน รัฐบาลจึงต้องมีการปรับ ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันกำลังลดลง จึงนำเอาปาล์มที่ผลิตอยู่ในประเทศในสัดส่วนที่จะนำไปแปรรูปเป็นพลังงานลดลง ซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้ไบโอดีเซลน้อยลง จึงดึงเอาส่วนนี้เพื่อผลิตเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภค ซึ่งการนำเข้า 5 หมื่นตันเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น โดยมีการพูดคุยกับบริษัทนำเข้าแล้ว ว่าจะมีการนำเข้าเป็นระยะๆ หากเพียงพอก็ไม่ต้องนำเข้า ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
พาณิชย์ ยันน้ำมันปาล์มไม่ขาดแคลน วอนอย่าตื่นตระหนกกักตุนสินค้า
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้อนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มเพื่อใช้ในการบริโภคปริมาณ 50,000 ตัน และได้เสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายปัญหาน้ำมันปาล์มตึงตัว และทำให้มีน้ำมันปาล์มใช้เพียงพอกับความต้องการในประเทศ เพราะในปลายเดือนหน้า ผลผลิตของเกษตรกรก็จะทยอยออกสู่ตลาด ทำให้ผลผลิตน้ำมันปาล์มมีมากขึ้น และมีเพียงพอแน่นอน ผู้บริโภคจึงไม่ต้องกังวล
พร้อมได้ขอความร่วมมือไปยังผู้บริโภคอย่ากังวลปัญหาดังกล่าว จนเกิดการกักตุนสินค้า เพราะไม่เป็นประโยชน์
ทั้งนี้ น้ำมันปาล์มเป็นสินค้าควบคุมที่กรมฯ ได้กำหนดราคาจำหน่ายไว้สูงสุดไม่เกินขวดลิตรละ 42 บาท หากประชาชนพบว่า มีการจำหน่ายในราคาที่ผิดปกติ ก็สามารถร้องเรียนได้ ซึ่งทางกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบทันที และหากพบการกระทำผิดหรือเอารัดเอาเปรียบ จะดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด
สำหรับ สถานการณ์ราคาอาหารสด เช่น เนื้อหมู ไก่สด ราคายังคงทรงตัว ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น โดยหมูเนื้อแดงกิโลกรัม (กก.) ละ 125-130 บาท ไก่สดทั้งตัวกก.ละ 60-65 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 ซึ่งเป็นที่นิยม เฉลี่ยฟองละ 3-3.20 บาท ส่วนการแก้ไขปัญหาราคาอาหารในฟู้ดคอร์ทของห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีกสมัยใหม่ มีราคาแพง ทั้งๆ ที่ต้นทุนวัตถุดิบ และต้นทุนค่าขนส่งปรับลดลงนั้น กรมฯ จะเชิญผู้ประกอบการห้างฯมาหารือ เพื่อติดตามว่าการเรียกเก็บค่าเช่าและค่าส่วนแบ่งการขายจากผู้ประกอบการร้านอาหาร มีราคาเหมาะสมหรือไม่ เพราะถือเป็นต้นทุนสำคัญที่ทำให้อาหารในห้างฯยังมีราคาแพง
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย