- Details
- Category: เกษตร
- Published: Sunday, 18 September 2022 22:23
- Hits: 1448
ชาวประมงพื้นบ้านร้อง ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ช่วยติดตามแก้ปัญหาพื้นที่เลี้ยงหอย ห่วงไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้านรองผู้ว่าสุราษฎร์ฯ แจง ปัญหาเกิดจากประชาชนเข้าใจผิดได้รับข้อมูลบิดเบือน ว่าต้องจับฉลากเพื่อแบ่งที่ ขณะที่ชาวบ้านใจชื้นหลังภาครัฐยันหาแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อประชาชน
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เข้าพบ นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการหารือและชี้แจงประเด็นการแก้ไขปัญหาพื้นที่เลี้ยงหอยนางรมของชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.ตะเคียนทอง อ.กาญจนดิษฐ์ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากคณะกรรมการประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนายเลอศักดิ์ คงวิจิตร ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวเข้าร่วมในการหารือในครั้งนี้
ด้านนายเลอศักดิ์ คงวิจิตร ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกกังวลในข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่ว่า ผู้เลี้ยงหอยจะต้องรื้อถอนและจับฉลากเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานที่เลี้ยงหอย พร้อมหยิบยกการพิจารณาในที่ประชุมของคณะกรรมการพิจารณาการขอใช้พื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมประเภทหอยทะเล เมื่อวันที่ 9 ก.ย.65 จึงมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากได้ทำมาหากินในพื้นที่ดังกล่าวมานานนับหลายสิบปี จึงได้มียื่นขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อขอรับพิจารณา จนทำให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเข้าหารือกับภาครัฐในการที่จะนำร่วมกันแก้ไขปัญหา อีกทั้งเพื่อนำเสนอในที่ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งหน้า ที่จะเป็นผลประโยชน์ต่อประชาชน
ขณะเดียวกัน นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ชี้แจงในประเด็นเรื่องการพิจารณาเห็นชอบมติในที่ประชุมของคณะกรรมการพิจารณาการขอใช้พื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมประเภทหอยทะเล ของพื้นที่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.65 นั้น เป็นแค่การรับข้อเสนอของคณะกรรรมการในพื้นที่ แต่ยังไม่พิจารณาเป็นมติเห็นชอบว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหน่วยงานภาครัฐจะต้องพิจารณาและดำเนินการให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมจากการใช้พื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมประเภทหอยทะเล โดยชี้ยึดหลัก คนเดิมที่เดิม แต่ครอบครองได้ไม่เกิน 100 ไร่ และจะต้องไม่รุกล้ำในพื้นที่ต้องห้ามเพื่อรักษาระบบนิเวศและความสมดุลของทรัพยากรทางทะเลบนพื้นฐานของความถูกต้องตามกฎหมายที่วางไว้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งภายหลังจากได้รับการชี้แจงในข้อมูลดังกล่าวทางชาวบ้าน ก็มีความพึ่งพอใจเป็นอย่างมากสำหรับการให้ข้อมูลจากรองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมเผยรู้สึกสบายใจขึ้นมากที่ได้รับฟังการไขข้อข้องใจจากภาครัฐ ว่าไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตนเองและสมาชิกคนอื่นๆเข้าใจ