- Details
- Category: เกษตร
- Published: Tuesday, 05 July 2022 19:06
- Hits: 2457
ปลัดเกษตรฯ เปิดตัว'ระบบติดตามภาวะเศรษฐกิจการเกษตรระดับจังหวัด และระบบคาดการณ์ผลผลิต'มุ่งหวัง ใช้การคาดการณ์ผลผลิต ด้วย Big data พัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดตัวระบบและการอบรม เรื่อง ‘ระบบติดตามภาวะเศรษฐกิจการเกษตรระดับจังหวัดและระบบคาดการณ์ผลผลิต’ พร้อมทั้งหารือถึงแนวทางต่อยอดความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในอนาคต เพื่อนำข้อเสนอแนะที่ได้มาปรับปรุงการใช้งานระบบติดตามภาวะเศรษฐกิจการเกษตร
โดยมีนายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ดร.จิตเกษม พรประพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมพึ่งบุญ ชั้น 8 อาคารวิสัยทัศน์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ว่า ภาคเกษตรนับว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีแรงงานในภาคเกษตรมากถึง 12 ล้านคน หรือร้อยละ 32 ของผู้มีงานทำ รวมทั้งมีเนื้อที่ใช้ประโยชน์ทางการเกษตรครอบคลุมถึงร้อยละ 46 ของพื้นที่ประเทศไทย
ดังนั้น ภาครัฐจึงให้ความสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตรแบบลงลึกถึงระดับจังหวัด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของระบบงาน Big Data ภาคเกษตร ในการพัฒนาให้สามารถระบุพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่กระทบต่อการผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงยังสามารถคาดการณ์แนวโน้มการผลิตรายพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่งคงให้กับภาคเกษตรของไทย
“ระบบติดตามภาวะเศรษฐกิจการเกษตรระดับจังหวัด นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สศก. และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ซึ่งจะเป็นเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคการเกษตรไทยที่สำคัญในการบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้วิเคราะห์เชิงลึกเพื่อคาดการณ์และติดตามผลผลิต แบบ near real time ซึ่งสามารถติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกสินค้าเกษตรทั้งภาพรวมระดับประเทศและระดับจังหวัด สามารถระบุพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่กระทบต่อการผลิตสินค้าเกษตร อาทิ ภัยธรรมชาติ
และยังสามารถคาดการณ์แนวโน้มการผลิตรายพื้นที่ ช่วยให้สามารถก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามบริบทต่างๆ ของโลก พัฒนาการบริหารจัดการเศรษฐกิจการเกษตรตั้งแต่ระดับภูมิภาค ส่งผลให้ภาครัฐสามารถขับเคลื่อนนโยบายและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนำพาภาคกษตรไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล พัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน”ดร.ทองเปลว กล่าว
นายฉันทานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลสำเร็จของการพัฒนาระบบติดตามภาวะเศรษฐกิจการเกษตรและระบบคาดการณ์ผลผลิต นอกจากจะทำให้มีข้อมูลคาดการณ์ผลผลิตที่แม่นยำ วางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรไทย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนปรับสมดุลอุปสงค์และอุปทานในระดับพื้นที่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การเติมการกระจายสินค้าออกจากพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด ซึ่ง สศก. ในฐานะหน่วยงาน ‘เนวิเกเตอร์เศรษฐกิจการเกษตร’
พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน พัฒนา เชื่อมโยง และแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อต่อยอดการพัฒนาภาคเกษตรของไทยให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการผลิต และรับทราบการเตือนภัยเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างทันท่วงที”เลขาธิการ สศก. กล่าว
นอกจากนี้ ทาง สศก. และ ธปท. ยังได้ร่วมกันยกระดับเทคนิคการพยากรณ์ โดยพัฒนาแบบจำลองพยากรณ์ผลผลิตข้าวนาปรังในระดับจังหวัด โดยใช้ Machine Learning ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตจาก สศก. ภาพถ่ายดาวเทียมพื้นที่เพาะปลูกและความสมบูรณ์ของพืชจาก GISTDA และการพยากรณ์อากาศระยะกลางของ สสน. เพื่อเพิ่มความแม่นยำของการพยากรณ์ผลผลิต และนำผลที่ได้จากแบบจำลองมาใช้ในฐานข้อมูลภาคเกษตรระดับจังหวัด ก่อนที่จะประมวลผลขึ้น เป็นข้อมูลภาคเกษตรระดับประเทศ