- Details
- Category: เกษตร
- Published: Saturday, 21 May 2022 18:02
- Hits: 5103
‘รมช.มนัญญา’ หนุนเที่ยวสวนทุเรียนภูเขาไฟศรีษะเกษ เผยผลผลิตทุเรียนภูเขาไฟพร้อมออกสู่ตลาด 7,369 ตัน กระจายผลผลิตขายบนแพลทฟอร์มออนไลน์
รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายสมบัติ ตงเต๊า รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการผลิตทุเรียนได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP) และสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ณ แปลงทุเรียน นางสรารีย์ โทชัย สวนทับทิม บ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจอ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษ
รมช.มนัญญา กล่าวว่า ปี 2565 จังหวัดศรีสะเกษมีเกษตรกรปลูกทุเรียน 2,350 ราย พื้นที่ปลูกทุเรียน 15,111 ไร่ มีพื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว 5,721 ไร่ ยังไม่ให้ผลผลิต 9,390 ไร่ สำหรับทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษมีพื้นที่ปลูกใน 3 อำเภอ ได้แก่อำเภอกันทรลักษณ์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอศรีรัตนะ มีพื้นที่ให้ผลผลิต 5,596 ไร่ ผลผลิตจะออกสู่ตลาด 7,369 ตันคิดเป็นร้อยละ 98 ของปริมาณผลผลิตทุเรียนทั้งหมดของจังหวัดศรีษะเกษ โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุด คือ พันธุ์หมอนทอง นอกจากนี้ ยังมีการกระจายผลิตออกสู่ตลาด โดยจำหน่ายผลผลิตผ่านทางช่องทางออนไลน์ทั้งFacebook/Line และร้านซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ซึ่งในปี 2565 คาดการณ์สถานการณ์ผลผลิตทุเรียนว่า จะมีพื้นที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 2,108 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 58 มีปริมาณทุเรียนเพิ่มขึ้น 2,758 ตัน คิดเป็นร้อยละ 57.8
สำหรับ แปลงทุเรียน สวนทับทิม ของนางสรารีย์ โทชัย พื้นที่ 13 ไร่ 2 งาน โดยปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พันธุ์ก้านยาว และพันธุ์นกหยิบ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสวนทุเรียน ได้รับการรับรอง GAP 2553 ถึง ปัจจุบัน และสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ตั้งแต่ปี 2562 ถึง ปัจจุบัน และมีการนำระบบ QR Trace มาใช้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่เข้ามาเลือกซื้อทุเรียนภูเขาไฟ อีกทั้งยังเป็นสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตร สนองนโยบาย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ของรัฐบาล เป็นตัวแทนของจังหวัดศรีสะเกษ มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ เข้ามาเยี่ยมชม และเป็นที่ปรึกษาให้กับชาวสวนทุเรียนที่เพิ่งเริ่มปลูกทุเรียนในชุมชนอีกด้วย โดยจังหวัดศรีษะเกษมีเกษตรกรที่ได้รับ GAP ทุเรียน 858 ราย พื้นที่ 4,453 ไร่
โอกาสนี้ รมช.มนัญญา ได้พบปะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านซำตารมย์ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีษะเกษซึ่งได้มีการรวมกลุ่มของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนคุณภาพดีในพื้นที่ มีสมาชิกในกลุ่ม 93 ราย พื้นที่ปลูกทุเรียนมากกว่า1,000 ไร่ สามารถกำหนดราคาขายได้เอง โดยในปี 2564 สามารถส่งทุเรียนไปขายยังตลาดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (ตลาด อ.ต.ก.) และห้างเดอะมอลล์ ได้ในราคา 170 บาทต่อกิโลกรัม และในปี 2565 ได้รับการติดต่อจากบริษัทผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเพื่อขอรับซื้อเนื้อทุเรียนเกรดพรีเมี่ยม จำนวน 50 ตัน.
รมช.มนัญญา หนุนสหกรณ์โคนมศรีสะเกษ ขยายพื้นที่เลี้ยงโคนม สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรโคนมไทย เล็งตั้งโรงงานนมพาสเจอร์ไรส์ กระจายน้ำนมดีมีคุณภาพในจังหวัด เพิ่มศักยภาพการผลิต แข่งขันต่างประเทศ
รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดศรีษะเกษ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายสมบัติ ตงเต๊า รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกร ให้การต้อนรับ ณ สหกรณ์โคนมศรีสะเกษ จำกัด อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า สหกรณ์โคนมศรีสะเกษ จำกัด ถือเป็นสหกรณ์ต้นแบบ ที่ได้ขับเคลื่อนงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ด้านการพัฒนาสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็งโดยได้รับการสนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อจัดหาครุภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้างจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกสหกรณ์ให้สามารถลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป
นอกจากนี้ สหกรณ์ฯ ได้มีการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนมเชิงบูรณาการแบบมีส่วนร่วม เพื่อสานต่ออาชีพพระราชทาน สร้างงาน สร้างอาชีพ บนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียงโดยบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน กองทุนพัฒนาสหกรณ์ โครงการพัฒนาการผลิตน้ำนมโคที่มีคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต วงเงิน 5,000,000 บาท สนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็นแก่สหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แนะนำส่งเสริมการจัดทำบัญชีครัวเรือน
กรมปศุสัตว์ แนะนำส่งเสริมการเลี้ยงโคนมที่ถูกสุขลักษณะ ส่งเสริมพัฒนาฟาร์มโคนมตามเกณฑ์มาตรฐาน เป็นต้น ปัจจุบันสหกรณ์มีจำนวนโคนมทั้งหมด 3,309 ตัว ปริมาณการรวบรวมน้ำนมดิบ 3,253.05 ตัน มูลค่า 57.97 ล้านบาท ปริมาณการจำหน่ายน้ำนมดิบ 3,026 ตัน มูลค่า 59.04 ล้านบาท โดยมีแผนงานในอนาคต จะสร้างโรงงานนมพาสเจอร์ไรส์ เพื่อสร้างตลาดการบริโภคในท้องถิ่น
ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มน้ำนมโคเฉลี่ยปีละ 14.3 ล้านบาท ลดการสูญเสียในระหว่างการขนส่ง ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง 1.44 ล้านบาท สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงโคนมมากขึ้น อีกทั้งนักเรียน ประชาชนในจังหวัดศรีษะเกษและจังหวัดใกล้เคียงได้บริโภคน้ำนมที่มีคุณภาพ
“กระทรวงเกษตรฯ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของนมโรงเรียน ซึ่งการบริโภคนมนอกจากจะส่งเสริมสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรโคนมไทยได้อีกด้วย เพราะหากสหกรณ์โคนมเข้มแข็ง ก็ส่งผลให้นักเรียนได้บริโภคนมที่มีคุณภาพ และกระจายสู่ท้องถิ่นโดยไม่ต้องรับซื้อจากจังหวัดอื่นๆ อีกเรื่องที่สำคัญคืออยากให้เกษตรกรหันมาใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
และจะต้องขยายพื้นที่การเลี้ยงโคนมให้มีคุณภาพ เพิ่มศักยภาพการผลิต แข่งขันกับต่างประเทศ และลดการนำเข้า ส่วนในเรื่องของเกษตรอินทรีย์ จ.ศรีษะเกษ มีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากการที่กรมวิชาการเกษตรเข้ามาสนับสนุน ทำให้มีการบริโภคภายในจังหวัดไม่เพียงพอ เป็นการยกระดับสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร การแปรรูป การตรวจสอบและการรับรองมาตรฐานสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและนอกประเทศ” รมช.มนัญญา กล่าว
สำหรับ สหกรณ์โคนมศรีสะเกษ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 77 หมู่ 6 ตำบลหนองไฮ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2542 ประเภทสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์มีผลงานดีเด่น ได้รับรางวัลสหกรณ์ดีเด่นระดับจังหวัด พ.ศ.2565 และสหกรณ์ดีเด่นระดับภาค พ.ศ.2565 ปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีสมาชิก 137 คน มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 57.12 ล้านบาท ทุนเรือนหุ้น 6.02 ล้านบาท ทุนสำรอง 9.64 ล้านบาท อาชีพส่วนใหญ่ของสมาชิกเลี้ยงโคนม ธุรกิจหลักของสหกรณ์รวบรวม (น้ำนมดิบ) มีมูลค่าธุรกิจรวมทั้งสิ้น 188.38 ล้านบาท
โอกาสนี้ รมช.มนัญญา ได้เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ การส่งเสริมอาชีพโคนมเชิงบูรณาการแบบมีส่วนร่วมของสหกรณ์โคนมศรีษะเกษ จำกัด การดำเนินงานของร้านซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร การส่งเสริมแอปพลิเคชั่นสหกรณ์การเกษตร นิทรรศการเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม การส่งเสริมแอปพลิเคชั่นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีษะเกษ จำกัด เป็นต้น
ตลอดจนมอบใบรับรอง GAP และเกษตรอินทรีย์ ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร 2 ราย มอบปัจจัยการผลิต ท่อนพันธุ์อ้อยคั้นน้ำ ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง สารชีวภัณฑ์ และพันธุ์สัตว์น้ำ ให้กับตัวแทนเกษตรกร พร้อมพบปะเกษตรกร จากนั้นประชุมรับฟังแก้ไขปัญหาผลผลิตตกต่ำ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตน้ำนมโคของสหกรณ์ฯ เพื่อพิจารณาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกผู้เลี้ยงโคนมต่อไป