- Details
- Category: เกษตร
- Published: Thursday, 24 March 2022 08:00
- Hits: 7474
กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้า 'โครงการบัญชีต้นกล้า สู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง' ส่งเสริมเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ปลูกฝังให้รักการจดบันทึกบัญชี สร้างวินัยทางการเงิน และขยายผลสู่ผู้ปกครองและชุมชน
รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนิน ‘โครงการต้นกล้าความดี สู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง’ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ณ ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเกษตรวิชญา บ้านกองแหะ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันเกษตรกรและประชาชน รวมไปถึงเด็กและเยาวชนได้มีองค์ความรู้ทางบัญชี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว ไปจนถึงคนในชุมชน
โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดารที่ยังขาดโอกาส การดำเนินโครงการ “ต้นกล้าความดี สู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง” ให้แก่เด็กและเยาวชน เกษตรกร และชุมชนในพื้นที่ทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงเป็นโครงการที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ริเริ่มขึ้นตามพระราชประสงค์ที่จะให้เด็กและเยาวชนของชาติที่ยังขาดโอกาส ได้มีโอกาสเข้าถึงความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการ มีสุขภาพแข็งแรง ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี พึ่งพาตนเองและช่วยเหลือพัฒนาชุมชน ให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยส่งเสริมให้ครูและนักเรียนได้เรียนรู้วิธีการจดบันทึกบัญชีกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน กิจกรรมผลิตผลทางการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน และมีความรู้ ความเข้าใจในหลักการของสหกรณ์
รวมทั้งการสอดแทรกสอนแนะการจัดทำบัญชีไว้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ถ่ายทอดให้แก่ครูไปสู่นักเรียนเพื่อฝึกหัดให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ด้านการบัญชี รู้จักการคิดคำนวณเลข รู้จักวางแผนในการจำหน่ายสินค้าและผลผลิต ปลูกฝังให้รักการจดบันทึกบัญชี เป็นพื้นฐานสำคัญในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ครอบครัว และชุมชน ทำให้รู้จักการใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในโรงเรียน ครอบครัว และชุมชน
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินโครงการเกษตรวิชญา ภายใต้โครงการส่งเสริมการจัดทำบัญชีแก่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมุ่งเน้นให้มีการจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ และนำข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาปรับใช้ในการวางแผนในการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม มีเหตุมีผล สร้างวินัยทางการเงินและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้มุ่งเน้นในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ได้มีวินัยในการใช้จ่ายเงินและเข้าถึงการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยสอนแนะให้เด็กรู้จักการบันทึกรายรับ-รายจ่ายส่วนตัว เพื่อเป็นการสร้างนิสัยการจดบันทึกและฝึกหัดการคำนวณตัวเลข ส่วนการบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่ายในครัวเรือน มีเป้าประสงค์ที่จะให้เด็กได้เข้าใจวิถีชีวิต รู้และเข้าใจสภาพการเงินของครอบครัว สามารถช่วยผู้ปกครองบันทึกรายรับรายจ่ายในครัวเรือน
และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ รู้ผลกำไรขาดทุนจากการประกอบอาชีพ เมื่อเติบโตขึ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวได้ดำเนินการภายใต้โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณี มีโรงเรียนในความรับผิดชอบ จำนวน 447 โรงเรียน อยู่ในความรับผิดชอบและการกำกับแนะนำของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณีเชียงใหม่ จำนวน 28 โรงเรียน โดยแบ่งเป็น โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 16 โรงเรียน และโรงเรียนในความดูแลของสำนักเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) จำนวน 12 โรงเรียน
ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการเริ่มต้นจากโครงการส่งเสริมกิจกรรมสหกรณ์ในโรงเรียน และสานต่อด้วยโครงการผลิตผลเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โดยน้อมนำแนวพระราชดำริใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารให้ ‘เด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา’ โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Development) ในการพัฒนาคน พัฒนาการเกษตร สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม และเป็นการพัฒนาแบบองค์รวม (Holistic Development) เชื่อมโยงทั้งมิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานที่ร่วมสนองงานตามพระราชดำริทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในส่วนของโครงการเกษตรวิชญา ภายใต้โครงการส่งเสริมการจัดทำบัญชีแก้กลุ่มเป้าหมายตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มุ่งเน้นให่มีการจัดทำบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ และนำข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาปรับใช้ในการวางแผนในการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม มีเหตุ มีผล สร้างวินัยทางการเงินและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นำไปสู่การพัฒนาตนเองและสร้างภูมิคุ้มกันให้สามารถปรับตัวได้สอดคล้องกับสถานการณ์ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ครอบครัว และชุมชน ทำให้รู้จักการใช้บัญชีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยดำเนินการในโรงเรียนบ้านกองแหะ กลุ่มเป้าหมายจำนวน ๑๗ คน
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่นักเรียน จำนวน 4 โรงเรียนที่ได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ ได้แก่ 1. โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนอาโอยาม่า อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 2. โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองแขม อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 3. โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมพระเกียรติ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ 4. โรงเรียนบ้านกองแหะ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการการจัดทำบัญชีกิจกรรม บัญชีสหกรณ์นักเรียน และชมนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์.