- Details
- Category: เกษตร
- Published: Friday, 25 February 2022 12:28
- Hits: 10206
กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้ามอบ GAP นาเกลือทะเล 2 รายแรกของไทย
กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้ามอบ GAP นาเกลือทะเล 2 รายแรกของไทย พร้อมเร่งตรวจประเมินแปลงนาเกลือเพื่อพัฒนาสู่มาตรฐานระดับสากล
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกลือทะเลไทยครั้งที่ 1/2565ผ่านการประชุมออนไลน์ ZOOM Meeting โดยมี นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนผู้แทนจากกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
โดยที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ทำนาเกลือทะเล ปี 2564/2565 (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565) มีจำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนรวม 7 จังหวัด (สมุทรสาคร เพชรบุรี สมุทรสงคราม ปัตตานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และจันทบุรี) จำนวน 597 ครัวเรือน 941 แปลง เนื้อที่ 19,041.27 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 82.57 เมื่อเทียบกับจำนวนครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนในปีการผลิต 2563/2564 และคาดการณ์ว่าปีการผลิต 2564/2565 จ.สมุทรสาคร จะมีปริมาณผลผลิตออกมามากสุด316,459 ตัน
พร้อมกันนี้ ได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานมาตรฐานเกลือทะเลไทยในการตรวจสอบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่องการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการทำนาเกลือทะเล (มกษ. 9055-2562) ในปีงบประมาณ 2565 โดยมีเกษตรกรที่มายื่นขอรับการรับรองแล้วจำนวน 25 ราย 50 แปลง พื้นที่ 1,461.22 ไร่ปัจจุบันมีเกษตรกรได้รับการรับรองตาม มกษ. 9055 แล้วจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายเลอพงษ์ จั่นทอง จ.สมุทรสาคร พื้นที่การผลิตเกลือทะเล 40 ไร่ และนางสาววรรณจิตร สินทะเกิด จ.สมุทรสาคร พื้นที่การผลิตเกลือทะเล 44 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565)
โอกาสนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.กษ. ได้กล่าวแสดงความยินดีและมอบหมายให้ นายอำพันธุ์ เวฬุตันติรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้มอบใบรับรองมาตรฐาน GAPให้กับเกษตรกรทั้ง 2 ราย อย่างไรก็ตามยังมีเกษตรกรนาเกลือที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจรับรองเพื่อขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจรับรองแปลงนาเกลืออย่างน้อยจังหวัดละ 1 แปลง เพื่อยกระดับการผลิตเกลือทะเลไทยให้ได้มาตรฐานและรองรับการขยายช่องทางการจำหน่ายต่อไป
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาเกลือทะเล ปี 2564ในพื้นที่การผลิตเกลือทะเล จำนวน 3 จังหวัดที่มีผลผลิตเกลือทะเลค้างสต็อก จากปีการผลิต 2562/63โดยชดเชยส่วนต่างราคาขายเกลือทะเลให้กับเกษตรกร ตันละ 250 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ ผลผลิตไม่เกินรายละ 443.40 ตันผลการดำเนินงานชดเชยส่วนต่างค่าจำหน่ายเกลือทะเลให้เกษตรกร จำนวน111 ราย เกลือทะเลจำนวน 39,841.17 ตัน แบ่งเป็นจ.เพชรบุรี 107 ราย เกลือทะเลจำนวน33,067.42 ตัน จ.สมุทรสาคร 36 ราย เกลือทะเลจำนวน 6,173.75 ตัน และจ.สมุทรสงคราม 2 ราย เกลือทะเลจำนวน 600 ตัน ซึ่งจำนวนเกลือทะเลที่เข้าร่วมโครงการและการชดเชยส่วนต่างค่าจำหน่ายเกลือทะเลคิดเป็นร้อยละ 81.70 ของเป้าหมายโครงการ
ส่วนผลการเบิกจ่ายงบประมาณ 10,076,707.75 บาท คิดเป็นร้อยละ 81.61ของวงเงินอนุมัติ เป็นค่าชดเชยส่วนต่างราคาเกลือทะเลให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเป็นเงินจำนวน9,960,291.75 บาท และเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จำนวน 116,416 บาท ส่งคืนกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเป็นเงิน 2,493,592.25 บาท และมีค่าดอกเบี้ยเงินฝากจำนวน 7,860.69 บาท (ข้อมูลวันที่ 12 มกราคม 2565)
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณายกร่างแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ทำนาเกลือที่ประสบภัยพิบัติเพื่อบรรจุในคู่มือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรโดยกำหนดชนิดของภัย ได้แก่ 1) ชนิดภัยธรรมชาติ น้ำท่วมในแปลงนาเกลือทะเล2) ชนิดภัยธรรมชาติ น้ำทะเลหนุนในแปลงนาเกลือทะเล และ 3) ชนิดภัยธรรมชาติ พายุ/ฝนหลงฤดู ในแปลงนาเกลือทะเลอย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์เกษตรกรเพื่อเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบันสำหรับกรณีที่เกษตรกรผู้ทำนาเกลือ จ.เพชรบุรี ประสบภัยพิบัติฝนตกมาตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. เกิดความเสียหายเกลือละลายไปกับน้ำฝนถึง 5 หมื่นตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 75 ล้านบาทนั้น ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำความเข้าใจถึงกระบวนการขั้นตอนต่างๆ เพื่อขอรับเงินชดเชยจากรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรให้ทันท่วงที
ตลอดจนร่วมกันพิจารณาแนวทางในการกำหนดราคาเกลือทะเลไทยที่เหมาะสม โดยรับฟังความคิดเห็นและข้อสังเกตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเกษตรกรผู้ทำนาเกลือทะเล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น เพื่อหาแนวทางการจัดทำข้อตกลง โดยการสำรวจต้นทุนการผลิตเกลือทะเล และกำหนดราคาซื้อ-ขายเกลือทะเลไทยที่เหมาะสมให้กับเกษตรกร และมีความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนต่อไป.