- Details
- Category: เกษตร
- Published: Thursday, 20 January 2022 17:46
- Hits: 11692
จุรินทร์-เฉลิมชัย ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่! ส่งออกข้าวไทยล็อตแรก 1,000 ตันโดย 'รถไฟสายจีน-ลาว' ถึงมหานครฉงชิ่งในภาคตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรก ‘อลงกรณ์’ ชี้เป็นศักราชใหม่ของอีสานเกตเวย์ ตั้งเป้าหมายต่อไปส่งออกยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ สินค้าประมงและปศุสัตว์
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ (20 ม.ค.) ว่า ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 1,000 ตัน โดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวไปถึงมหานครฉงชิ่ง (Chongqing) ในภาคตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรก ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการขนส่งระบบรางเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและประเทศโดยส่วนรวม ภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกร และภาคเอกชน
ตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องขอบคุณ สปป.ลาวและจีนในความร่วมมืออันดียิ่ง สำหรับความสำเร็จก้าวแรกในครั้งนี้แม้ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด19 หลายรอบ ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา
โดยจะประเมินผลการส่งออกข้าวล็อตแรกครั้งนี้ รวมทั้งระบบการจองขบวนรถขนส่งสินค้าและการจองตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งกำลังประสานงานกับผู้ให้บริการของทั้ง สปป.ลาว และจีนเพื่อเร่งขยายผลไปสู่การส่งออกสินค้าเกษตรตัวอื่นรวมทั้งเป้าหมายตลาดใหม่ๆ ทั้งในมณฑลต่างๆ ของจีนและประเทศอื่นๆ ต่อไปโดยเร็ว
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า เราเดินหน้าสร้างความพร้อมสำหรับวันนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปี สำหรับการขนส่งผ่านทางรถไฟสายใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามยุทธศาสตร์อีสานเกตเวย์ (ESAN Gateway) เชื่อมไทย-เชื่อมโลก นับเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของการค้าการส่งออกสินค้าไทยไปจีน โดยมีเป้าหมายสู่ตลาดต่อไปคือตลาดเอเซียกลาง เอเซียตะวันออก ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรปและเพิ่มสินค้าเกษตรที่จะขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้ คือ ยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ไทย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าประมงและปศุสัตว์รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอื่นๆ
“สำหรับ มหานครฉงชิ่ง เป็นชุมทางรถไฟและการขนส่งหลายรูปแบบโดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการมีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมใหม่ BRI (อีต้าอีลู่) และแม่น้ำแยงซีเกียง จึงมีความพร้อมทางด้านโลจิสติกส์และได้วางนโยบายเชื่อมโยง ‘ฉงชิ่ง-อาเซียน’ เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับรัฐบาลไทย ทั้งนี้ มหานครฉงชิ่งมีเขตโลจิสติกส์อาเซียนและนานาชาติในตำบลหนานเผิง เขตปาหนาน (Chongqing ASEAN International Logistics Park) ถือเป็นเส้นทางขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญ
และเป็น ‘ประตูเศรษฐกิจของจีนตะวันตก’ สามารถเป็นจุดกระจายสินค้าไปมณฑลต่างๆ ในภูมิภาคตะวันตกของจีนและขนส่งผ่านไปยังประเทศต่างๆ ทั้งนี้ ตนเคยเดินทางเยือนมหานครฉงชิ่งเห็นถึงศักยภาพของมหานครแห่งนี้เพราะนอกจากการเป็นชุมทางการขนส่งทางรางและทางอากาศแล้ว มหานครฉงชิ่งยังสามารถเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งในแม่น้ำแยงซีเกียงเพราะมีท่าเรือ ‘กว่อหยวน’ ตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียงเป็นจุดกระจายสินค้าเข้าไปสู่ตอนกลางและภาคตะวันออกของจีนได้อีกเส้นทางหนึ่งด้วย
ยิ่งกว่านั้นยังมีตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรนานาชาติซวงฝู เป็นศูนย์กลางกระจายผักและผลไม้ของจีนตะวันตก ตลาดซวงฝูตั้งอยู่ในทำเลที่มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก มีการเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟ ท่าเรือและท่าอากาศยานของฉงชิ่งเหมาะต่อการค้าขายและกระจายสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะผลไม้ที่จะขนส่งทางรถไฟจากไทยไปฉงชิ่ง ภายในเวลา 1 – 2 วัน ทำให้มีความสดและอร่อย มั่นใจจะเพิ่มการขายขยายตลาดได้อีกมากหลังจากปี 2564 เราส่งออกผลไม้ได้กว่าแสนล้านบาท ทำลายสถิติที่ผ่านมา และครองมาร์เก็ตแชร์ตลาดผลไม้ในจีนเป็นอันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการระบาดของโควิด19 และมีผลกระทบต่อการขนส่งและการเปิดปิดด่านเข้าออกจีนกรณีพบการปนเปื้อน ซึ่งเราจะการ์ดตกในเรื่องนี้ไม่ได้ ตั้งแต่ฟาร์มถึงตลาด โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการเป็นพิเศษในเรื่องนี้
จุรินทร์-เฉลิมชัย ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ส่งออกข้าวไทยล็อตแรกด้วยรถไฟสายจีน-ลาว'อลงกรณ์'ชี้เป็นศักราชใหม่ของ'อีสานเกตเวย์'
20 มกราคม นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 1,000 ตันโดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวไปถึงมหานครฉงชิ่ง( Chongqing )ในภาคตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรก ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการขนส่งระบบรางเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและประเทศโดยส่วนรวมภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกรและภาคเอกชนตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และต้องขอบคุณ สปป.ลาวและจีนในความร่วมมืออันดียิ่งสำหรับความสำเร็จก้าวแรกในครั้งนี้แม้ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่าซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา โดยจะประเมินผลการส่งออกข้าวล็อตแรกครั้งนี้รวมทั้งระบบการจองขบวนรถขนส่งสินค้าและการจองตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งกำลังประสานงานกับผู้ให้บริการของทั้งสปป.ลาวและจีนเพื่อเร่งขยายผลไปสู่การส่งออกสินค้าเกษตรตัวอื่นรวมทั้งเป้าหมายตลาดใหม่ๆทั้งในมณฑลต่างๆของจีนและประเทศอื่นๆต่อไปโดยเร็ว
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า"เราเดินหน้าสร้างความพร้อมสำหรับวันนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปีสำหรับการขนส่งผ่านทางรถไฟสายใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาตามยุทธศาสตร์อีสานเกตเวย์(ESAN Gateway)เชื่อมไทย-เชื่อมโลก นับเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของการค้าการส่งออกสินค้าไทยไปจีนโดยมีเป้าหมายสู่ตลาดต่อไปคือ ตลาดเอเซียกลาง เอเซียตะวันออก ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรป และเพิ่มสินค้าเกษตรที่จะขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้ คือยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ไทย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าประมงและปศุสัตว์รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอื่นๆ"
นายอลงกรณ์ เปิดเผยว่า"มหานครฉงชิ่ง เป็นชุมทางรถไฟและการขนส่งหลายรูปแบบโดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการมีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมใหม่ BRI(อีต้าอีลู่)และแม่น้ำแยงซีเกียงจึงมีความพร้อมทางด้านโลจิสติกส์ และได้วางนโยบายเชื่อมโยง "ฉงชิ่ง-อาเซียน"เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับรัฐบาลไทย ทั้งนี้มหานครฉงชิ่งมีเขตโลจิสติกส์อาเซียนและนานาชาติในตำบลหนานเผิง เขตปาหนาน(Chongqing ASEAN International Logistics Park) ถือเป็นเส้นทางขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญและเป็น“ประตูเศรษฐกิจของจีนตะวันตก”สามารถเป็นจุดกระจายสินค้าไปมณฑลต่างๆในภูมิภาคตะวันตกของจีนและขนส่งผ่านไปยังประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ ตนเคยเดินทางเยือนมหานครฉงชิ่งเห็นถึงศักยภาพของมหานครแห่งนี้เพราะนอกจากการเป็นชุมทางการขนส่งทางรางและทางอากาศแล้วมหานครฉงชิ่งยังสามารถเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งในแม่น้ำแยงซีเกียงเพราะมีท่าเรือ”กว่อหยวน”ตั้งอยู่ที่เขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียงเป็นจุดกระจายสินค้าเข้าไปสู่ตอนกลางและภาคตะวันออกของจีนได้อีกเส้นทางหนึ่งด้วย
ยิ่งกว่านั้นยังมีตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรนานาชาติซวงฝูเป็นศูนย์กลางกระจายผักและผลไม้ของจีนตะวันตกตลาดซวงฝูตั้งอยู่ในทำเลที่มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก มีการเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟ ท่าเรือและท่าอากาศยานของฉงชิ่งเหมาะต่อการค้าขายและกระจายสินค้าเกษตรของไทยโดยเฉพาะผลไม้ที่จะขนส่งทางรถไฟจากไทยไปฉงชิ่งภายในเวลา 1-2 วันทำให้มีความสดและอร่อย
มั่นใจจะเพิ่มการขายขยายตลาดได้อีกมากหลังจากปี 2564 เราส่งออกผลไม้ได้กว่าแสนล้านบาท ทำลายสถิติที่ผ่านมาและครองมาร์เก็ตแชร์ตลาดผลไม้ในจีนเป็นอันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 และมีผลกระทบต่อการขนส่งและการเปิดปิดด่านเข้าออกจีนกรณีพบการปนเปื้อนซึ่งเราจะการ์ดตกในเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งแต่ฟาร์มถึงตลาดโดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการเป็นพิเศษในเรื่องนี้"