- Details
- Category: เกษตร
- Published: Wednesday, 19 November 2014 22:14
- Hits: 2375
ก.เกษตรฯ เตือนเกษตรกรระวังเพลี้ยแป้งในมัน แนะพบพื้นที่ระบาด รีบแจ้งประสานเพื่อควบคุมทันที
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 เผยสถานการณ์โรคเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง ระบุ พบพื้นที่กาญจนบุรีมีการระบาดจำนวน 160 ไร่ ในอำเภอเลาขวัญ โดยการระบาดลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แนะ เกษตรกรหมั่นสังเกต หากพบการระบาดรีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือสำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อให้ควบคุมการระบาดเพลี้ยแป้งในพื้นที่ทันที
นายธวัชชัย ประยูรสิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ราชบุรี (สศข.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์การระบาดโรคเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลังของจังหวัดกาญจนบุรี พบว่า มีการระบาดในพื้นที่อำเภอเลาขวัญ (ตำบลหนองปลิงและหนองฝ้าย) จำนวน 160 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557) โดยพบได้ในมันสำปะหลังที่มี อายุ 4-8 เดือน จำนวน 80 ไร่ และอายุมากกว่า 8 เดือน จำนวน 80 ไร่ ซึ่งการระบาดลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีการระบาดจำนวน 220 ไร่ (ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557) เนื่องจากเกษตรเริ่มมีการป้องกัน
สำหรับปีการผลิต 2556/57 จังหวัดกาญจนบุรีมีเนื้อที่เพาะปลูกมันสำปะหลัง 468,448 ไร่ มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 460,146 ไร่ ให้ผลผลิตรวม 1,530,105 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 3 ร้อยละ 4 และร้อยละ 5 ตามลำดับ เนื่องจากเกษตรส่วนใหญ่หันมาปลูกมันสำปะหลัง ทดแทนข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน พืชผัก และข้าวโพดหวาน เป็นต้น โดยช่วงระยะเวลาการเก็บเกี่ยว คือ เดือนตุลาคมถึงกันยายน และช่วงที่ผลผลิตออกมากที่สุดจะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม ถึง มีนาคม
ด้านสถานการณ์ราคาที่เกษตรกรขายได้ของจังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี สัปดาห์ที่ผ่านมาหัวมันสำปะหลังสดเฉลี่ยอยู่ที่ 2.11 บาทต่อกิโลกรัม (หักค่าขนส่ง ราคาระหว่างวันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2557) ซึ่งเป็นช่วงแรกของการเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้ราคาไม่สูงนัก เนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว และผลผลิตมันสำปะหลังเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการที่มีความต้องการมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การผลิตของมันสำปะหลังที่เพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากราคามันสําปะหลังอยู& 63242;ในเกณฑ& 63246;ดี รวมทั้งภาครัฐมีนโยบายที่ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้พันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ และมีการใช้เอทานอลจากมันสำปะหลังมากขึ้น จึงส& 63242;งผลให& 63243;เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีบางพื้นที่ที่เริ่มมีการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังในระยะแรก เนื่องจากฝนทิ้งช่วง สภาพอากาศแห้งแล้ง ความชื้นในอากาศน้อย ลมแรง และแดดจัดในตอนกลางวัน จึงเป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเพลี้ยแป้ง ซึ่งเพลี้ยแป้งสามารถระบาดจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่อื่นได้โดยการติดไปกับคน ท่อนพันธุ์ กระแสลมและมดเป็นพาหนะนำตัวเพลี้ยแป้งไปเลี้ยงเพื่อรอดูดกินมูลหวาน
ดังนั้น เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลง หากพบการระบาดให้แจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือแจ้งสำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อประสานงานศูนย์บริหารศัตรูพืช ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อขอรับการสนับสนุนแตนเบียนหรือแมลงช้างปีกใสเพื่อใช้ควบคุมการระบาดเพลี้ยแป้งในพื้นที่ หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 ราชบุรี โทร. 032 337 954 นายธวัชชัย กล่าว