- Details
- Category: เกษตร
- Published: Saturday, 09 October 2021 11:03
- Hits: 9465
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยความคืบหน้าโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ เดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรทั่วประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยน้อมนำหลักปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่มาเป็นแนวทาง ปัจจุบันเกษตรกรได้รับการพัฒนาให้มีความมั่นคงในอาชีพในพื้นที่ 2,159 ตำบล 508 อำเภอ 70 จังหวัดทั่วประเทศ
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทำโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ มาเป็นแนวทางในการดำเนินงานโครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 บรรเทาปัญหาการว่างงาน ลดปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานภาคการเกษตรกรรมไปสู่ภาคอื่นๆ และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในท้องถิ่นให้มีความมั่นคงในการเป็นแหล่งผลิตอาหาร มีทางเลือก มีอาหาร มีอาชีพ มีความอุดมสมบูรณ์ มีความอบอุ่นจากครอบครัว แล้วความสุขตามวิถีชีวิตพอเพียงก็จะเกิดขึ้นกับชุมชน ซึ่งเป็นศาสตร์ที่เป็นทางรอดของเกษตรกรไทย เพื่อมุ่งสู่ระบบเกษตรกรรมยั่งยืน
จากการดำเนินงานโครงการดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2564 เกษตรกรได้รับการพัฒนาให้มีความมั่นคงในอาชีพทำเกษตรกรรมยั่งยืนและมีแปลงต้นแบบเพื่อการเรียนรู้ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ ในพื้นที่ 2,159 ตำบล 508 อำเภอ 70 จังหวัดทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2564) เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีพื้นที่กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้น มีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สร้างความพึงพอใจให้กับอาชีพเกษตรกร และส่งเสริมการผลิตภาคการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายสำราญ กล่าวต่อไปว่า เกษตรกรจะมีความรู้ความเข้าใจ และเรียนรู้แนวคิด หลักการ และรูปแบบของเกษตรทฤษฎีใหม่ในการบริหารจัดการน้ำ เรียนรู้การจัดทำแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยคำนึงถึงการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ที่สามารถสร้างแหล่งอาหารของครัวเรือน ผลผลิตที่สามารถจำหน่ายสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรและพึ่งตนเองด้านปัจจัยการผลิตให้มากที่สุด
โดยขณะนี้โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ได้ดำเนินงานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว และปรากฏผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่เกษตรกรหลายแห่งทั่วประเทศ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งจะสรุปผลสำเร็จและประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับ การดำเนินโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ระดมพลังทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง เพื่อทำงานประสานสอดคล้องกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สุดในการสนับสนุนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในทุกๆ ด้าน โดยในด้านการอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ มีการดำเนินการอบรมเกษตรกรทั้งในรูปแบบปกติและการอบรมแบบออนไลน์ ซึ่งแบ่งการอบรมเป็น 4 เวที โดยเวทีที่ 1 นั้นได้มีการอบรมไปเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด ส่วนเวทีที่ 2 และ 3 ได้อบรมไปแล้วกว่าร้อยละ 90 และเวทีที่ 4 ได้อบรมไปกว่าร้อยละ 80 ทั่วประเทศ
และด้านการสนับสนุนปัจจัยการผลิต ได้มีการสนับสนุนวัสดุปรับปรุงบำรุงดินแก่เกษตรกร เช่น น้ำหมักชีวภาพ พืชปุ๋ยสด ฯลฯ สนับสนุนพันธุ์ปลาและอาหารสัตว์น้ำ สนับสนุนพันธุ์พืช ทั้งไม้ผล เมล็ดพันธุ์ผัก สมุนไพรฯลฯ สนับสนุนพันธุ์สัตว์ เช่น ไก่ไข่ ไก่พื้นเมือง และปัจจัยการผลิตเพื่อทำอาหารสัตว์
นอกจากนั้น ยังมีการให้ความรู้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่องผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์สั้น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ บทความทางหนังสือพิมพ์ เป็นต้น รวมไปถึงการจัดทำสื่อออนไลน์ เช่น Youtube Channel, Twitter Account และ Facebook Fanpage นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้เปิดช่องทางในการสื่อสารกับประชาชนในเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามช่องทางต่างๆ เช่น Call Center, Face Book, Line, WEB Site เป็นต้น เพื่อให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ หรือประชาชนทั่วไป
สามารถสอบถามข้อมูล แจ้งปัญหา อุปสรรค ตลอดจนข้อเสนอแนะ ในการดำเนินโครงการ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน ซึ่งผลการสำรวจการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนที่มีต่อประเด็นสื่อสารสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 พบว่าโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ มีผลการสำรวจการรับรู้ถึงร้อยละ 91.8
“การดำเนินการในครั้งนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ได้เอาเกษตรกรเป็นตัวตั้งในการดำเนินงานในประสบผลสำเร็จ จึงหวังว่าจะสามารถสร้างรูปแบบในการบริหารงานต่อไปในอนาคต และเป็นต้นแบบในการสร้างเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยการดำเนินงานในเฟสแรกนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จในส่วนของการพึ่งพาตัวเองในระดับครัวเรือน จากการที่กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนพี่น้องเกษตรกรอย่างสมบูรณ์ ทั้งการสร้างแหล่งน้ำ การสนับสนุนปัจจัยการผลิต การส่งเสริมการผลิต
รวมไปถึงการเชื่อมโยงตลาดด้วย อย่างไรก็ตาม หากสามารถส่งเสริมการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ในขั้นที่ 2 และ 3 จะสามารถทำให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่ม และดูแลกันภายในกลุ่ม มีเครือข่ายระหว่างชุมชน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”นายสำราญ กล่าว
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ