สัปดาห์นี้ ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ปรับขึ้นจากหาบละ 681 บาท เป็นหาบละ 684 บาท เนื่องจากภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้มีผลผลิตข้าวโพดเข้าสู่ตลาดน้อย

      ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 22 กันยายน 2564 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 525.50 เซนต์/บุชเชล ราคาขยับตัวลดลง กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ปรับข้าวโพดที่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1% สภาพอากาศรอบพื้นที่มิดเวสต์มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติเล็กน้อย ทำให้รายงานการเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดฤดูกาล 2564/65 อยู่ที่ 10% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 4% ด้านประเทศบราซิล ทางพื้นที่ตอนกลาง มีปริมาณน้ำฝนดีขึ้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในดิน และคลายความกังวลเรื่องความแห้งแล้ง สำหรับการเริ่มเพาะปลูกข้าวโพดรุ่นแรก ตลาดรอติดตามปริมาณข้าวโพดที่จะออกสู่ตลาด และรายงาน USDA Quarterly Grains Stock

      กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าในสัปดาห์นี้ ปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 18.90 บาท เป็นกิโลกรัมละ19.10 บาท สภาพอากาศที่สหรัฐอเมริกาดีขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้การเก็บเกี่ยวเริ่มดีขึ้น คาดการณ์ผลผลิตยังคงอยู่ในระดับที่ดี แต่ยังมีเรือค้างที่ท่าเรือเป็นจำนวนมาก หลังจากประสบปัญหาพายุเข้า ประกอบกับค่าระวางเรือทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปริมาณซื้อในตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาซื้อจากจีน ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง

        ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 22 กันยายน 2564 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤศจิกายน 2564 ราคาอยู่ที่ 1,282.75 เซนต์/บุชเชล และกากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนธันวาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 341.80 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน ถั่วเหลืองราคาขยับลดลง รายงานถั่วเหลืองที่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก (Good/Excellent condition) อยู่ที่ 58% และปัจจุบันเกษตรกรเริ่มการเก็บเกี่ยวไปแล้ว 6%

         การออกสำรวจปริมาณปลาของประเทศเปรูล่าช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย จากสภาพอากาศที่มีพายุเข้าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณซื้อล่วงหน้าสำหรับฤดูกาลถัดไปยังค่อนข้างน้อย เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับค่าขนส่งจากเปรูไปสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายยังรอติดตามสถานการณ์ราคา ด้านสาธารณรัฐประชาชนจีนผู้ซื้อหลัก มีปริมาณซื้อหน้าท่าเรือสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว โดยราคาซื้อหน้าท่าเรือยังคงทรงตัว ส่วนสต๊อกหน้าท่าเรือปรับลดลงเล็กน้อย

โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 48.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 42.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 40.20 บาท

      ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 39.70 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 38.20 บาท

        การซื้อขายข้าวตลาดต่างประเทศในสัปดาห์นี้ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 414 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 407 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ทรงตัวที่ตันละ 359 เหรียญสหรัฐฯ

ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ยืนราคาที่กระสอบละ 1,220 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นจากกระสอบละ 1,040 บาท เป็นกระสอบละ 1,060 บาท

       ทั้งนี้ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยแนวโน้มส่งออกข้าวไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ว่า การส่งออกข้าวไทยกลับมาขยายตัวเป็นบวกตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่ขยายตัว 7.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยคาดว่าในปีนี้ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้าหมายที่ 6 ล้านตัน

         สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศราคาสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม ณ วันพระที่ 21 กันยายน อยู่ที่กิโลกรัมละ 60-71 บาท การบริโภคเนื้อหมูปรับตัวดีขึ้น ขณะที่สัปดาห์ถัดไประหว่างวันที่ 6-14 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลทานเจ คาดจะกระทบต่อความต้องการบริโภคเนื้อสุกรเล็กน้อย

        ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 1,600 บาท (บวก/ลบ 60)

      ราคาแนะนำไก่เนื้อหน้าฟาร์ม ตามประกาศสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 30 บาท ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 6.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท

      สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ฟองละ 3.00 บาท โดยการบริโภคไข่ไก่ทรงตัวสมดุลกับปริมาณผลผลิต