- Details
- Category: เกษตร
- Published: Saturday, 31 July 2021 09:43
- Hits: 16338
รมช.มนัญญา ปล่อยขบวนกระจายผลไม้ภาคใต้ บรรเทาความเดือดร้อนสมาชิกสหกรณ์ฯ รถขนส่งสินค้าชุมนุมสหกรณ์ฯ ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ส่งตรงถึงมือผู้บริโภค
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการกระจายผลไม้ภาคใต้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 เพื่อช่วยลดปัญหาการกระจุกตัวและราคาตกต่ำ พร้อมมอบนโยบายการกระจายผลไม้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์ ผ่านระบบ Zoom Meeting และได้ถ่ายทอดสัญญาณไปยังสหกรณ์ผลไม้และสหกรณ์ผู้จำหน่ายข้าวสารในจังหวัดต่าง ๆ โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายศิริชัย ออสุวรรณ ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ รมช.เกษตรฯ ได้ปล่อยขบวนรถเปิดการกระจายผลไม้จากภาคใต้สู่ผู้บริโภค โดยมีรถแท็กซี่และรถขนส่งสินค้าของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมเพื่อกระจายผลไม้ไปสู่ผู้บริโภค ณ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย (ชสท.) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
รมช.มนัญญา กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงของผลไม้ซึ่งออกมากในช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2564 ผลไม้ในภาคใต้และภาคเหนือมีปริมาณผลผลิตออกมาจำนวนมาก 3 ชนิดหลัก ได้แก่ เงาะ ปริมาณ 63,647 ตัน มังคุด ปริมาณ 173,116 ตัน และลำไย ปริมาณ 973,603 ตัน ในปี 2564 นี้ ผลผลิตมีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย รวมทั้งเกษตรกรมีการกักเก็บน้ำในสระไว้สำหรับดูแลสวนมากขึ้น อย่างไรก็ตามการที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นส่งผลต่อการระบายผลไม้สู่ตลาด เนื่องจากขณะนี้ เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การกระจายผลผลิตที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการส่งออกไปต่างประเทศและการจำหน่ายภายในประเทศ
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดทำโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ผ่านสถาบันเกษตรกร โดยได้รับงบประมาณ 45 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยช่วยเหลือเป็นค่าบริหารจัดการ ค่าขนส่ง และบรรจุภัณฑ์เพื่อเร่งรัดการกระจายผลิต สำหรับปีนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ใช้กลไกสหกรณ์ในการเข้าช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ 2 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการการแลกเปลี่ยนผลผลิตกันระหว่างเครือข่ายสหกรณ์ เน้นข้าวสารแลกกับผลไม้ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบเรื่องช่องทางการตลาดในขณะนี้ และ 2.การซื้อขายโดยตรงระหว่างสหกรณ์ชาวสวนผลไม้กับสหกรณ์ผู้บริโภคในจังหวัดต่าง ๆ เป็นการกระจายผ่านเครือข่ายของศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ ซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ และสหกรณ์ขนาดใหญ่ระดับอำเภอ ปัจจุบันการแลกเปลี่ยนสินค้าข้าวและผลไม้ ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 11 สหกรณ์ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณผลผลิต 854 ตัน มูลค่ากว่า 21,624,670 บาท ส่วนการซื้อขายโดยผ่านขบวนการสหกรณ์ ดำเนินการแล้ว 35 แห่ง ปริมาณ 204 ตัน มูลค่ากว่า 7,049,954 บาท
รมช.มนัญญา กล่าวต่อไปว่า สำหรับการกระจายผลผลิตเงาะจากภาคใต้ในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ผลิตผลไม้ของภาคใต้ ซึ่งใช้ขบวนการสหกรณ์ เป็นกลไกในการกระจายเงาะ จากเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกการหยุดรับซื้อผลผลิตของพ่อค้าในพื้นที่ไปสู่ผู้บริโภครายย่อย ส่งถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะกระจายผลผลิตโดยมีชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายผลไม้สหกรณ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มต้นจำนวน 3 ตัน มูลค่ากว่า 100,000 บาท ซึ่งเงาะที่นำมาจำหน่ายครั้งนี้ ส่งตรงมาจากสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี และยังมีรถแท็กซี่สหกรณ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ในช่วงสถานการณ์โควิด มาร่วมเป็นรถขนส่งผลไม้จากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ไปยังผู้บริโภคในเขตกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะกระจายผลผลิตมังคุด และลำไยต่อไปอีกด้วย
“การดำเนินงานกระจายผลผลิตดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในขบวนการสหกรณ์ ที่เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาของสมาชิกสหกรณ์ เมื่อสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรส่วนหนึ่งได้รับความเดือดร้อน ขบวนการสหกรณ์ก็เร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสมาชิก ซึ่งอาศัยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเครือข่ายของสหกรณ์ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ต้องให้ความสำคัญเรื่องมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด – 19 และคุณภาพของผลผลิตทุกชนิดของสหกรณ์ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น และเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน สหกรณ์ต้องเรียนรู้ด้านการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคได้ทุกช่องทาง
รวมถึงขบวนการโลจิสติกส์ซึ่งสำคัญอย่างมาก ต้องจัดส่งรวดเร็วให้ถึงมือผู้บริโภค เพื่อความสดใหม่เสมือนรับประทานในสวนผลไม้ หากขบวนการสหกรณ์ทำได้เช่นนี้ เชื่อมั่นว่าผลผลิตของสหกรณ์จะสามารถจำหน่ายได้จำนวนมาก ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ และเชื่อมั่นว่าขบวนการสหกรณ์ จะเป็นขบวนการที่สำคัญที่จะร่วมมือกันพัฒนาด้านคุณภาพ ทั้งการผลิตและการตลาดได้ในอนาคต และมั่นใจว่าพลังของเครือข่ายในขบวนการสหกรณ์ จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการร่วมกันแก้ไขปัญหา และพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ส่งผลถึงการอยู่ดีกินดีของสมาชิกเกษตรกรไทยต่อไป” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดประสานเครือข่ายสหกรณ์ในแต่ละพื้นที่ สั่งซื้อเงาะและมังคุดจากสหกรณ์ที่เป็นแหล่งผลิตในภาคใต้ กระจายสู่ผู้บริโภคของแต่ละจังหวัด โดยให้สหกรณ์ต้นทาง 7 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา พัทลุง และยะลา เปิดจุดรวบรวมเงาะ มังคุด จากเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ เน้นผลไม้ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน GAP ก่อนนำมาคัดเกรดบรรจุลงกล่อง และเร่งจัดส่งให้สหกรณ์ที่เป็นตลาดปลายทางเพื่อให้ถึงผู้บริโภคโดยเร็ว พร้อมจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 122 ล้านบาทเพื่อให้สหกรณ์กู้ยืมเป็นทุนหมุนเวียนรับซื้อผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรในราคานำตลาด เพื่อดึงราคาผลไม้ในพื้นที่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่พี่น้องเกษตรกร
สำหรับ ผู้ที่สนใจต้องการอุดหนุนผลไม้สหกรณ์ภาคใต้ สามารถสั่งซื้อผ่านเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดของท่าน สำหรับส่วนกลางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล สามารถสั่งซื้อได้ที่ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด โทร. 081-823 3639
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ