สัปดาห์นี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังมีระดับราคาที่สูง แม้ว่าราคาจะลดลง   โดยราคาซื้อขาย ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ลดลงจากหาบละ 597 บาท เป็นหาบละ 594 บาท  เนื่องจากต้องรอผลผลิตชุดใหม่ออกในช่วงเดือนสิงหาคม

       ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 664.50 เซนต์/บุชเชล โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) รายงานคุณภาพข้าวโพดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก (Good/Excellent condition) ที่ 65%  และต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 72%  ส่วนพื้นที่เพาะปลูกแถบตะวันตกเฉียงเหนือคาดว่าจะไม่ได้รับปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอจนถึงสัปดาห์หน้า  

        กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 19.40 บาท เป็นกิโลกรัมละ 19.10 บาท จากการเพาะปลูกและสภาวะอากาศในฝั่งอเมริกายังคงทรงตัว คาดการณ์ว่าผลผลิตฤดูกาลใหม่ยังคงสูงเช่นเดิม ส่วนปริมาณซื้อในตลาดลดลง โดยเฉพาะจากฝั่งประเทศเอเชีย ขณะที่ค่าระวางเรือทั่วโลกยังคงทรงตัวในระดับสูง และเป็นปัจจัยที่ทั่วโลกกังวลว่าภาวะขาดแคลนเรือและตู้ขนส่งจะกลับมาอีกครั้ง

      ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 23 มิถุนายน 2564 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 1,385.00 เซนต์/บุชเชล และกากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 354.2 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน ราคาปรับตัวลดลง โดยสภาพอากาศมีปริมาณน้ำฝนเข้ามาบริเวณพื้นที่เพาะปลูกจึงช่วยคลายความกังวล และบรรเทาปัญหาความแห้งแล้งที่เกิดขึ้น ส่วนกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ประกาศคุณภาพถั่วเหลืองอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก (Good/excellent condition) อยู่ที่ 60% และรายงานยอดคำสั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ จำนวน 330,000 ตันไปยังประเทศจีน ด้านนักวิเคราะห์จับตามองรายงานตัวเลขการเพาะปลูกถั่วเหลืองอย่างเป็นทางการและข้อมูลสต๊อกจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันที่ 30 มิถุนายน ศกนี้

       แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะยืนอ่อน

      สัปดาห์ที่ผ่านมาการจับปลาของประเทศเปรูใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ในระดับประมาณ 150,000 ตันต่อสัปดาห์ ขณะที่ภาพรวมจับปลาได้แล้วเกิน 80% ของโควต้า ด้านผู้ซื้อหลักอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีนยังมีการซื้อในระดับสูง  โดยปริมาณการซื้อในเดือนมิถุนายน  มีมากกว่าสองเดือนที่ผ่านมา ส่วนราคาซื้อทรงตัว ขณะที่สต๊อกหน้าท่าเรือปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ราคาปลาป่นโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา

      โดย ปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 52.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 39.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 37.20 บาท

      ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคากิโลกรัมละ 36.70 ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 34.20 บาท

      แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว

        การซื้อขายข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศสัปดาห์นี้ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 500 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 464 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 431 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 406 เหรียญสหรัฐฯ

       ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาลดลงจากกระสอบละ 1,410 บาท เป็นกระสอบละ 1,330 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาลดลงจากกระสอบละ 1,200 บาท เป็นกระสอบละ 1,150 บาท

        ราคาประกาศสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม จากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ณ วันพระที่ผ่านมา ที่กิโลกรัมละ 75-80 บาท โดยผลผลิตสุกรขุนออกสู่ตลาดลดลง ส่วนการบริโภคยังคงดีต่อเนื่อง

       ทั้งนี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยังคงย้ำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศเพิ่มความเข้มข้นระบบ Biosecurity ของฟาร์ม เพื่อป้องกันโรค ASF ในระดับสูงสุด

      ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 2,700 บาท (บวก/ลบ 72)

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว

      การบริโภคเนื้อไก่ขยับดีขึ้นจากมาตรการผ่อนคลายต่างๆ โดย ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์ม ตามประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 33 บาท

      ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 10.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท

 แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะทรงตัว

      สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ที่ฟองละ 3.00 บาท โดยการบริโภคไข่ไก่ยังดีต่อเนื่อง