- Details
- Category: เกษตร
- Published: Saturday, 03 April 2021 22:37
- Hits: 15094
ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 2564
ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ชี้การเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนและเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 2564 ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพาราแผ่นดิบ สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ด้านข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว น้ำตาลทรายดิบ ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง มีแนวโน้มราคาปรับลดลง
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนเมษายน 2564 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคา อยู่ที่ 8.22 - 8.32 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 2.30 - 3.50 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ แม้ว่าผู้ประกอบการจะมีการสต็อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บางส่วนแต่ยังไม่เพียงพอ ประกอบกับภาวะราคาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการลดการนำเข้าข้าวสาลีมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 58.75 – 59.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.21 – 2.50 เนื่องจากผลผลิตมีแนวโน้มลดลงจากการระบาดของโรคใบร่วงและยางพาราเข้าสู่ช่วงผลัดใบ ส่งผลให้เกษตรกรหยุดกรีดยางพารา ขณะที่ความต้องการน้ำยางพาราของตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคายางพาราอาจได้รับปัจจัยกดดันจากราคาตลาดล่วงหน้ามีความผันผวนและการขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า สุกร ราคาอยู่ที่ 76.72 - 77.68 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.09 – 2.35 เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลเช็งเม้ง ประกอบกับในช่วงฤดูร้อนส่งผลให้สุกรเจริญเติบโตช้าลง จึงต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนานขึ้นกว่าจะได้น้ำหนักตามที่ตลาดต้องการ มีผลทำให้สุกรออกสู่ตลาดลดลง และ กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 148.00 – 149.00 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.68 – 1.36 เนื่องจากแนวโน้มผลผลิตลดลงจากการระบาดของโรคกุ้งและเกษตรกรชะลอการเลี้ยงลูกกุ้งในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลจะกระตุ้นให้ความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่8,945 - 9,109 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.34 - 3.12 เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าชะลอการสั่งซื้อข้าว เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาข้าวขาวและข้าวนึ่งของไทยที่อาจจะปรับตัวลดลง จากผลผลิตข้าวนาปรังที่กำลังออกสู่ตลาด ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 11,546 - 11,767 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.33 - 2.20 เนื่องจากปัญหาขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า ทำให้การส่งออกข้าวไปยังประเทศคู่ค้าล่าช้า ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 10,034 - 10,467 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.38 - 5.46 เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวเหนียวนาปรังกำลังออกสู่ตลาด และผู้ประกอบการมีความกังวลต่อราคา ข้าวเหนียวที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง จึงชะลอการรับซื้อข้าวเหนียวจากโรงสี น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 15.28 - 15.45 เซนต์/ปอนด์ (10.44 - 10.55 บาท/กก.) ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.50 - 1.60 เนื่องจากการอ่อนค่าลงของเงินเรียลบราซิลเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จึงจูงใจให้ผู้ผลิตน้ำตาลของบราซิลเพิ่มการส่งออก ประกอบกับสมาพันธ์อุตสาหกรรมอ้อยแห่งบราซิล (Unica) ได้รายงานการผลิตน้ำตาลของบราซิลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - กุมภาพันธ์ 2564 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 และสัดส่วนอ้อยที่ใช้ผลิตน้ำตาล
ในปี 2563/64 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 46.19 จากร้อยละ 34.46 ของปีก่อน ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 5.30 - 5.37 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.83 – 3.11 เนื่องจากเป็นช่วงที่ปริมาณผลผลิตทยอยออกสู่ตลาด ประกอบกับภาวะน้ำมันปาล์มดิบที่ชะลอตัว ทำให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มปรับลดราคารับซื้อจากเกษตรกร และมันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.08 – 2.12 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.47 – 1.88 เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ลานมันและโรงงานแป้งมันสำปะหลังทยอยปิดการรับซื้อ
A4126
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ