สัปดาห์นี้ ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังคงเข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ ทรงตัวที่หาบละ 555 บาท

       ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 20 มกราคม 2564 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนมีนาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 522 เซนต์/บุชเชล ราคาปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาปริมาณน้ำฝนที่ตกบริเวณพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดประเทศอาร์เจนตินา ช่วยคลายความกังวลเรื่องความแห้งแล้ง ขณะที่กระทรวงเกษตรอาร์เจนติน่า (Buenos Aires Grain Exchange) ประเมินผลผลิตข้าวโพดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก (Good to Excellent) 19% เพิ่มขึ้น 7% จากสัปดาห์ก่อน และเนื่องจากราคาข้าวโพดที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในประเทศยูเครนออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจำกัดการส่งออกข้าวโพดฤดูกาล 2563/64 ที่ 22 ล้านตัน ลดลงจากที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ในรายงานฉบับล่าสุดที่ 24 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้อุปสงค์ข้าวโพดสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น

        กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 19.35 บาท โดยสภาพอากาศในประเทศผู้ผลิตฝั่งอเมริกาใต้ยังคงแห้งแล้ง ทำให้คาดการณ์ผลผลิตยังคงน้อย อีกทั้งการขึ้นภาษีส่งออกและการประท้วงในประเทศอาร์เจนตินายังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาตลาดทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง

      ด้านตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 20 มกราคม 2564 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนมีนาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 1,369.5 เซนต์/บุชเชล และ กากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนมีนาคม 2564 ราคาอยู่ที่ 442.4 เหรียญสหรัฐฯ/ช็อตตัน โดยราคาถั่วเหลืองปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลต่อสภาพอากาศแถบอเมริกาใต้ลดลง โดยเฉพาะในประเทศอาร์เจนตินาที่สัปดาห์หน้าจะมีฝนตกบริเวณพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลือง อย่างไรก็ตามการเก็บเกี่ยวผลผลิตในบราซิล สำหรับฤดูกาล 2563/64 อยู่ที่ 1% ล่าช้ากว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ National Oilseed Processors Association (NOPA) รายงานยอดการแปรรูปถั่วเหลืองเป็นถั่วเหลืองบดสหรัฐฯ (Soybean Crush) ประจำเดือนธันวาคมที่ 183.2 ล้านบุชเชล สูงเป็นอันดับสองของการผลิตฤดูกาล 2563/64

     การจับปลาสัปดาห์ที่ผ่านมาของประเทศผู้ผลิตเปรู ยังคงปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นปลายฤดูกาลของการจับปลา ซึ่งจะหมดฤดูกาลในปลายเดือนมกราคมนี้ ส่งผลให้ราคาตลาดเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีการเร่งซื้อมากขึ้น รวมทั้งราคาวัตถุดิบอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ส่วนสต๊อกยังคงปรับตัวลดลง ส่งผลให้ปลาป่นโดยรวมปรับราคาขึ้น 1 บาท

     โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ราคาเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 43.00 บาท เป็นกิโลกรัมละ 44.00 บาท ปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 30.70 บาท เป็นกิโลกรัมละ 31.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 28.20 บาท เป็นกิโลกรัมละ 29.20 บาท

      ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 27.70 บาท เป็นกิโลกรัมละ 28.70 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 ราคาเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 25.20 บาท เป็นกิโลกรัมละ 26.20 บาท

      ตลาดซื้อขายข้าวต่างประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตันละ 560 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 561 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 475 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 469 เหรียญสหรัฐฯ

ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาทรงตัวที่กระสอบละ 1,530 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาลดลงเล็กน้อยจากกระสอบละ 1,280 บาท เป็นกระสอบละ 1,260 บาท

การบริโภคเนื้อสุกรคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศราคาสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม ทรงตัวที่กิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งเป็นการตรึงราคาของสมาคมฯ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคในสถานการณ์โควิด-19

ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 2,700 บาท (บวก/ลบ 80)

      การบริโภคเนื้อไก่ยังคงดีต่อเนื่อง จากการที่ประชาชนหลายครัวเรือนต้องการลดการออกจากบ้านในสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้มีปริมาณการซื้อสะสมเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ แต่ยังคงสมดุลกับปริมาณผลผลิต โดยสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ประกาศราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์ม ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 32 บาท

      ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 8.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท

        สถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ทำให้มีความต้องการบริโภคไข่ไก่ภายในครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ยืนราคาที่ฟองละ 2.70 บาท