- Details
- Category: เกษตร
- Published: Sunday, 26 October 2014 08:31
- Hits: 2981
'ปลูกแฝก-เลี้ยงแพะ'ในสวนปาล์มเสริมรายได้
ทำมาหากิน : 'ปลูกแฝก-เลี้ยงแพะ' ในสวนปาล์ม ทำ 'เกษตรผสมผสาน' เสริมรายได้ : โดย...สุรัตน์ อัตตะ
ไม่เพียงผลิตหญ้าแฝกให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ใน จ.กระบี่ ปีละกว่า 10 ล้านกล้า แต่ปราชญ์ชาวบ้านด้านการผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพอย่าง "ลุงบุญแก้ว ทิพย์รงค์" วัย 75 หมอดินแห่งบ้านห้วยยูงใต้ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ก็ใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกในการปลูกแซมในสวนยางพารา สวมปาล์มน้ำมัน สวนไผ่ตง และสวนสมุนไพรรอบๆ บริเวณบ้านเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลาย เช่น ขอบบ่อ ริมสระน้ำและรักษาความชุ่มชื้นในดิน
ในอดีตลุงบุญแก้วเคยทำนาที่เน้นการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อกระตุ้นผลผลิตทำให้ดินเสื่อมโทรม จนต้องพลิกชีวิตใหม่ โดยนำที่นา 8 ไร่ มาทำสวนผสมผสานไม่ใช้สารเคมี หันมาใช้ปุ๋ยหมักแทน และมีผลิตที่ดี จึงได้ศึกษาและมีความรู้ในการหมักปุ๋ยใช้เองและถ่ายทอดให้เพื่อนบ้านด้วย รวมทั้งเริ่มต้นทดลองปลูกหญ้าแฝกเพียง 10 กล้า ในปี 2540 ตลอดกว่า 10 ปีมานี้ ลุงบุญแก้วผลิตหญ้าแฝกป้อนให้หน่วยงานต่างๆ ใน จ.กระบี่ และเป็นวิทยากรรับเชิญสาธิตการทำปุ่ยหมักให้ทั้งหน่วยงานทางการเกษตร และหน่วยงานการศึกษาและนอกพื้นที่ต่างจังหวัด
แม้ลุงบุญแก้วจะประสบผลสำเร็จในการปลูกแฝกและผลิตปุ๋ยหมักใช้เอง แต่ก็พยายามหาอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงแพะในสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน โดยตั้งเป็นกลุ่มเลี้ยงแพะขึ้นมา ได้รับอนุเคราะห์ลูกแพะจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกระบี่ จำนวน 20 ตัว เมื่อปีที่แล้ว จนปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 70 ตัว ส่วนการเลี้ยงนั้น มีสมาชิกผลัดเปลี่ยนกันมาเลี้ยงแพะวันละคน โดยมีแพะดูแลประมาณ 60-70 ตัว ใช้ทางปาล์มน้ำมันเป็นอาหาร ซึ่งจะกินเฉลี่ยตัวละประมาณ 3 ทางใบต่อวัน
"เลี้ยงประมาณ 5-6 เดือน ก็ขายได้แล้ว เราไม่เน้นเรื่องอาหาร จะเน้นเรื่องธรรมชาติ เพราะว่าคนที่เขามาซื้อไปเขาบอกว่า ถ้าเนื้อธรรมชาติมันจะกินอร่อยกว่า ราคาก็สูงกว่า เมื่อก่อนแพะเป็นกิโลละ 200 บาท และไม่มีสัตว์เป็นอะไรที่ราคาสูงถึงกิโลละ 200 บาท แต่เดี๋ยวนี้ราคาลงมา เหลือกิโลละ 180 บาท" ลุงแก้วกล่าว
ลุงแก้วย้ำว่า การเลี้ยงแพะให้ได้ผลผลิตดี ที่สำคัญจะต้องเน้นให้แพะมีอนามัยที่ดี ต้องไม่ให้เขาเครียด แล้วต้องใช้บริเวณให้กว้าง ลักษณะเลี้ยงปล่อยโดยใช้สวนยางและสวนปาล์มน้ำมันเป็นสถานที่เลี้ยง ใช้ทางใบปาล์มเป็นอาหารมีเกลือแร่เพื่อเสริมอาหาร เพราะว่าแพะกินแต่ยอดไม้ ยอดหญ้า ยอดผัก จึงจำเป็นต้องเสริมเกลือแร่ให้กิน เพราะเขาจะขาดธาตุอาหารสำคัญไม่ได้ อย่างสมัยก่อนที่ปู่ย่าตาทวดเราเลี้ยง เขาใช้กระบอกไม้ไผ่และเจาะรู แล้วเอาเกลือใส่ลงไปให้แพะกิน
"ราคาก็ยังถือว่าพออยู่ได้ เพราะว่าอาหารของแพะของเราเป็นศูนย์ เราไม่ได้ซื้อ เราไม่ได้มีอาหารเสริม ไม่ได้มีอาหารข้น พอ 3 โมง ก็ปล่อยไปให้เขากินหญ้าในทุ่ง ถ้าเขาไปกินหญ้าเขาก็อัดเม็ดปุ๋ยมาให้เรา แต่ละคืนตัวหนึ่งเก็บปุ๋ยได้เป็นอย่างน้อย 10 กิโลต่อวัน แล้วอัดเม็ดอย่างดีเลย แต่ต้องเอาไปหมักก่อน เพราะว่าขี้แพะจะมีความร้อน สนใจแพะ 08-1272-6486" ปราชญ์ชาวบ้านคนเดิมเผย
จึงไม่แปลกที่สวนยางพาราและสวนปาล์น้ำมันของเขาเป็นไปด้วยความหลากหลาย โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะพื้นที่สวนปาล์มประมาณ 11 ไร่ ภายในสวนนอกจากเลี้ยงแพะแล้วยังมีกิจกรรมอย่างอื่นอีก อาทิ มีเตาเผาถ่าน มีการทำปุ๋ยหมัก มีการปลูกผัก มีบ่อเลี้ยงปลาและอีกหลายๆ อย่างเพื่อจะได้เสริมรายได้ซึ่งกันและกัน
"ถ้าตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหา ก็จะมีตัวอื่นค้ำอยู่ได้ เดี๋ยวนี้ราคาปาล์มมีปัญหา ยางมีปัญหา ก็มีรายได้จากการขายแพะมาเสริม แต่การทำงานของเรา อย่าพูดถึงรายได้ เราต้องพูดว่า วันหนึ่งเราเหลือเท่าไหร่ ปลูกผักกินเอง ทำแก๊สใช้เอง เผาถ่านเอาไปใช้ เราก็แนะนำให้เขาลดรายจ่าย ถ้าเราลดรายจ่ายแล้ว รายได้มันก็จะเพิ่มขึ้นมาเอง" ลุงบุญแก้ว กล่าวอย่างภูมิใจ
พร้อมสนองนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ที่ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี 2558 จะผลิตแพะให้ได้ 1 แสนตัว และจะผลักดันให้กระบี่เป็นศูนย์กลางการเลี้ยงแพะเพื่อการส่งออก เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องอาหารและสถานที่เลี้ยงในสวนปาล์มน้ำมัน