- Details
- Category: เกษตร
- Published: Monday, 11 June 2018 17:51
- Hits: 3422
ธ.ก.ส.ติดตามผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย พร้อมหนุนอาชีพสร้างรายได้ แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
ธ.ก.ส.ลงพื้นที่ติดตามคุณภาพชีวิตเกษตรกรหลังการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อย โชว์ผลงานโมเดลชุมชนบ้านเขาหินกลิ้ง เกิดรายได้ในชุมชนกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี พร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ลดภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบให้กับชุมชน
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรพงศ์ นิลพันธุ์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงการคลังและธนาคารร่วมตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของชุมชนด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งด้านการประกอบอาชีพ พร้อมติดตามการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรหลังการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อย ณ ชุมชนบ้านเขาหินกลิ้ง อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์
นายสุรพงศ์ นิลพันธุ์ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธนาคารได้ดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงการคลัง ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย ด้วยการสร้างความเข้มแข็งในการประกอบอาชีพ ซึ่งการดำเนินงานของธ.ก.ส. มี บทบาทช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรและสมาชิกกลุ่มเกษตรกร ภายใต้มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งด้านการพัฒนาตนเอง ในการให้ความรู้ทางการเงิน และส่งเสริมการออม มาตรการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ด้วยการสนับสนุนสินเชื่อแก่กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร เพื่อจ้างงานผู้ที่มีรายได้น้อยในชุมชน รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาอาชีพ และมาตรการลดภาระหนี้สินในระบบและนอกระบบ ด้วยโครงการต่างๆ อาทิ โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของผู้มีรายได้น้อยในระบบของ ธ.ก.ส. โครงการชำระดีมีคืน โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือน เป็นต้น ซึ่งผลการดำเนินการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบของ ธ.ก.ส. ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2561 มีผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบ จำนวน 512,502 ราย พบตัวแล้ว 452,388 ราย ช่วยเหลือแล้ว 168,264 ราย ยอดเงินสนับสนุนสินเชื่อ 34,877.26 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ 165,663 ราย สามารถดูแลตัวเองได้ 118,461 ราย
ทั้งนี้ แนวทางการยกระดับชีวิตผู้มีรายได้น้อยของ ธ.ก.ส. ทั้ง 3 มาตรการ ได้ดำเนินการแล้วในหลายพื้นที่สร้างคุณค่าและสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน เกิดการจ้างแรงงาน และสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้ประกอบอาชีพ เสริมรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยหนึ่งในชุมชนที่มีการพัฒนาอย่างชัดเจน ก็คือชุมชนบ้านเขาหินกลิ้ง ซึ่งจากเดิมคนในชุมชนประกอบอาชีพหลักคือการทำนา ประสบกับภาวะปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ปัจจัยการผลิตมีราคาสูง จึงมีการรวมตัวตั้งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านเขาหินกลิ้ง เพื่อประกอบอาชีพเสริม สร้างรายได้เพิ่ม ตั้งเป็นกลุ่มอาชีพ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มผลิตข้าวปลอดสาร กลุ่มผลิตไม้กวาดดอกหญ้า กลุ่มผลิตน้ำพริกไข่เค็มและกลุ่มผลิตตะกร้าเชือกฟาง ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน จำนวน 1,864,700 บาท ต่อปี สร้างรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยเฉลี่ย 14,640 บาท ต่อปี และผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 790,600 บาท ต่อปี