WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'หม่อมอุ๋ย'สั่งแยกหนี้จำนำข้าว 5 แสนล้านบาท พร้อมทั้งเร่งหาวิธีใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว

มติชนออนไลน์ :

 

 


หม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล 

     แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ   (สบน.)  แยกหนี้จำนำข้าว  5 แสนล้านบาท ที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ออกมา และร่วมกันหารือ เพื่อหาวิธีการบริหารหนี้จำนำข้าวก้อนนี้ต่างหาก ให้หนี้หมดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนี้ที่ลูกหลานจะต้องมาแบกรับในอนาคตด้วย 

 

     โดยเบื้องต้น สบน.ประเมินว่า หากสามารถชำระหนี้จำนำข้าวก้อนหนี้ได้ทั้งหมด จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ลดลงเกือบ 1% จากเดือนมิถุนายน 2557 อยู่ที่ 47% ซึ่งจะชำระหนี้ได้หมดเมื่อใดนั้นคงต้องรอดูทั้งข้าวในสต็อคเหลือเท่าไหร่ และต้องดูว่ากระทรวงพาณิชย์ขายข้าวได้หมดเมื่อไหร่ด้วย

 

      “วิธีการดำเนินล้างหนี้จำนำข้าวดังกล่าว จะต้องรอคณะอนุกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าว สรุปผลการตรวจสอบสต็อกข้าวทั้งหมดทั่วประเทศก่อน ว่าจะมีข้าวเสื่อมสภาพไปมากเท่าไหร่ และมีข้าวดีเท่าไหร่ และขณะนี้ได้ให้ทางกระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าว ในราคาตลาดปัจจุบัน รวมถึงทำรายงานแผนระบายข้าวเพื่อลดหนี้ดังกล่าวกลับมาเสนอ จะลดหนี้ได้เท่าไหร่ และหนี้ส่วนที่เหลือต้องตั้งงบประมาณชำระหนี้กี่ปี  

 

      ส่วนทาง ธ.ก.ส. ประเมินภาระต้นทุนที่ใช้สภาพคล่อง 9 หมื่นล้านบาท มาดำเนินโครงการดังกล่าว  รวมถึงคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว จะมาคำนวณผลขาดทุนแท้จริงเป็นเท่าไหร่ เพื่อตั้งงบประมาณชำระผลขาดทุนจะใช้ระยะเวลากี่ปี”แหล่งข่าวกล่าว

 

      ขณะที่ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะปี2558 วงเงินทั้งสิ้น 1.4 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินปรับโครงสร้างหนี้ 2 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการโครงสร้างหนี้จำนำข้าวถึง 50% หรือประมาณแสนล้านบาท พร้อมกันคณะรัฐมนตรีได้มีมติ ขยายระยะเวลากรอบวงเงินรับจำนำข้าวต้องไม่เกิน 5 แสนล้านบาท จาก 31 ธันวาคม 2557 ออกไปเป็น 30 กันยายน 2558  

 

     เนื่องจากการตรวจสอบสต็อกข้าวและระบายข้าวมาชำระหนี้คืน มีความยากลำบาก  ขณะที่ในส่วนของงบประมาณ ปี 2558 สำนักงบประมาณ ได้จัดสรรเงินสำหรับชำระหนี้ธ.ก.ส. วงเงิน 8.4 หมื่นล้านบาท  โดยในจำนวนนี้จะนำมาชำระหนี้เงินต้น  3 หมื่นล้านบาท  

 

     ทั้งนี้ ในการปิดบัญชีรับจำนำข้าว ในส่วนของผลขาดทุน ในทางบัญชี จะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายไว้ก่อน โดยจะต้องทำเป็นบัญชีพัก สงสัยหนี้จะสูญไว้ก่อน จนกว่าจะติดตามหนี้จนถึงที่สุด หมายถึง จะสิ้นสุดกระบวนการฟ้องร้อง 3 ศาล ซึ่งอาจจะตามได้คืนมาบางส่วน และหากไม่สามารถติดตามหนี้ได้ ถึงจะตัดเป็นหนี้สูญ นอกจากนี้อาจจะต้องมีการตั้งสำรองจากงบประมาณ เพื่อทยอยชำระคืนหนี้  

 

     แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะใช้ระยะเวลานานมากกว่ากระบวนการติดตามหนี้จนถึงที่สุดจะเสร็จสิ้น

 

     สำหรับการปิดบัญชีข้าวที่มีนายรังสรรค์ศรีวรศาสตร์ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมาของรัฐบาลนั้นได้มีการประชุมนัดแรกไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม และได้ตั้งคณะทำงานปิดบัญชีมีนายอดุลย์ กาญจนวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เป็นประธานคณะทำงาน โดยขอให้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)  ส่งข้อมูลเกี่ยวข้าวล่าสุดมาให้คณะทำงานดังกล่าวภายในวันที่ 15 กันยายน เพื่อให้คณะทำงานสรุปด้านบัญชีภายในสิ้นเดือนกันยายน

 

    ทั้งนี้ การปิดบัญชีล่าสุดมีตัวเลขแค่ 31 พฤษภาคม 2556 ดังนั้น อนุกรรมการชุดนี้ต้องไปปิดบัญชีเพิ่มอีก 3 รอบบัญชี คือ 

 

ตั้งแต่ 1 สิงหาคม-30 กันยายน 2556 เป็นวันสุดท้ายของปีงบ 2556 

 

ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2556-22 พฤษภาคม 2557 ก่อนการยึดอำนาจ 

 

และหลังจาก 23 พฤษภาคม 2557-30 กันยายน 2557 ว่า ตัวเลขในแต่ละรอบจะเป็นอย่างไร 

 

      โดยจะต้องรอการตรวจสต็อคคงเหลือนั้น ต้องรอจากชุดตรวจสต็อคข้าวจากของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะทราบชัดเจนว่าตัวเลขขาดทุนจะเป็นเท่าใด และต้องนำมาเปรียบเทียบกับประมาณข้างที่อคส.และอ.ต.ก.เสนอมาด้วย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!