- Details
- Category: เกษตร
- Published: Sunday, 07 September 2014 08:32
- Hits: 2992
'หม่อมอุ๋ย'สั่งแยกหนี้จำนำข้าว 5 แสนล้านบาท พร้อมทั้งเร่งหาวิธีใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว
มติชนออนไลน์ :
หม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล |
แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แยกหนี้จำนำข้าว 5 แสนล้านบาท ที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ออกมา และร่วมกันหารือ เพื่อหาวิธีการบริหารหนี้จำนำข้าวก้อนนี้ต่างหาก ให้หนี้หมดเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนี้ที่ลูกหลานจะต้องมาแบกรับในอนาคตด้วย
โดยเบื้องต้น สบน.ประเมินว่า หากสามารถชำระหนี้จำนำข้าวก้อนหนี้ได้ทั้งหมด จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ลดลงเกือบ 1% จากเดือนมิถุนายน 2557 อยู่ที่ 47% ซึ่งจะชำระหนี้ได้หมดเมื่อใดนั้นคงต้องรอดูทั้งข้าวในสต็อคเหลือเท่าไหร่ และต้องดูว่ากระทรวงพาณิชย์ขายข้าวได้หมดเมื่อไหร่ด้วย
“วิธีการดำเนินล้างหนี้จำนำข้าวดังกล่าว จะต้องรอคณะอนุกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าว สรุปผลการตรวจสอบสต็อกข้าวทั้งหมดทั่วประเทศก่อน ว่าจะมีข้าวเสื่อมสภาพไปมากเท่าไหร่ และมีข้าวดีเท่าไหร่ และขณะนี้ได้ให้ทางกระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าว ในราคาตลาดปัจจุบัน รวมถึงทำรายงานแผนระบายข้าวเพื่อลดหนี้ดังกล่าวกลับมาเสนอ จะลดหนี้ได้เท่าไหร่ และหนี้ส่วนที่เหลือต้องตั้งงบประมาณชำระหนี้กี่ปี
ส่วนทาง ธ.ก.ส. ประเมินภาระต้นทุนที่ใช้สภาพคล่อง 9 หมื่นล้านบาท มาดำเนินโครงการดังกล่าว รวมถึงคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว จะมาคำนวณผลขาดทุนแท้จริงเป็นเท่าไหร่ เพื่อตั้งงบประมาณชำระผลขาดทุนจะใช้ระยะเวลากี่ปี”แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่ตามแผนบริหารหนี้สาธารณะปี2558 วงเงินทั้งสิ้น 1.4 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินปรับโครงสร้างหนี้ 2 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการโครงสร้างหนี้จำนำข้าวถึง 50% หรือประมาณแสนล้านบาท พร้อมกันคณะรัฐมนตรีได้มีมติ ขยายระยะเวลากรอบวงเงินรับจำนำข้าวต้องไม่เกิน 5 แสนล้านบาท จาก 31 ธันวาคม 2557 ออกไปเป็น 30 กันยายน 2558
เนื่องจากการตรวจสอบสต็อกข้าวและระบายข้าวมาชำระหนี้คืน มีความยากลำบาก ขณะที่ในส่วนของงบประมาณ ปี 2558 สำนักงบประมาณ ได้จัดสรรเงินสำหรับชำระหนี้ธ.ก.ส. วงเงิน 8.4 หมื่นล้านบาท โดยในจำนวนนี้จะนำมาชำระหนี้เงินต้น 3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในการปิดบัญชีรับจำนำข้าว ในส่วนของผลขาดทุน ในทางบัญชี จะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายไว้ก่อน โดยจะต้องทำเป็นบัญชีพัก สงสัยหนี้จะสูญไว้ก่อน จนกว่าจะติดตามหนี้จนถึงที่สุด หมายถึง จะสิ้นสุดกระบวนการฟ้องร้อง 3 ศาล ซึ่งอาจจะตามได้คืนมาบางส่วน และหากไม่สามารถติดตามหนี้ได้ ถึงจะตัดเป็นหนี้สูญ นอกจากนี้อาจจะต้องมีการตั้งสำรองจากงบประมาณ เพื่อทยอยชำระคืนหนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะใช้ระยะเวลานานมากกว่ากระบวนการติดตามหนี้จนถึงที่สุดจะเสร็จสิ้น
สำหรับการปิดบัญชีข้าวที่มีนายรังสรรค์ศรีวรศาสตร์ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมาของรัฐบาลนั้นได้มีการประชุมนัดแรกไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม และได้ตั้งคณะทำงานปิดบัญชีมีนายอดุลย์ กาญจนวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เป็นประธานคณะทำงาน โดยขอให้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ส่งข้อมูลเกี่ยวข้าวล่าสุดมาให้คณะทำงานดังกล่าวภายในวันที่ 15 กันยายน เพื่อให้คณะทำงานสรุปด้านบัญชีภายในสิ้นเดือนกันยายน
ทั้งนี้ การปิดบัญชีล่าสุดมีตัวเลขแค่ 31 พฤษภาคม 2556 ดังนั้น อนุกรรมการชุดนี้ต้องไปปิดบัญชีเพิ่มอีก 3 รอบบัญชี คือ
โดยจะต้องรอการตรวจสต็อคคงเหลือนั้น ต้องรอจากชุดตรวจสต็อคข้าวจากของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะทราบชัดเจนว่าตัวเลขขาดทุนจะเป็นเท่าใด และต้องนำมาเปรียบเทียบกับประมาณข้างที่อคส.และอ.ต.ก.เสนอมาด้วย |