- Details
- Category: เกษตร
- Published: Friday, 02 March 2018 23:19
- Hits: 3229
เกษตรกรปศุสัตว์ตบเท้าเข้าพบนายกประยุทธ์ฯ วอนยกเลิกมาตรการมัดตราสังข์คนเลี้ยงสัตว์
ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี : สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สมาคมผู้เลี้ยงไก่พันธุ์ สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดเพื่อการค้าและการส่งออก สมาคมปศุสัตว์ไทย พร้อมเกษตรกรภาคปศุสัตว์ร่วม 100 คน เดินขบวนเข้ายื่นหนังสือถึงนายก รัฐมนตรี วอนยกเลิกมาตรการต้องรับซื้อข้าวโพด 3 ส่วน ต่อการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน เหตุเป็นมาตรการเอื้อประโยชน์คน บางกลุ่มซึ่งไม่ใช่เกษตรกร จนส่งผลกระทบถึงต้นทุนการเลี้ย งสัตว์ ทำให้เกษตรกรประสบภาวะขาดทุ นจำต้องลดจำนวนการเลี้ยงสัตว์ ไปแล้วเป็นจำนวนมาก
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์พยายามขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรว งพาณิชย์หลายครั้ง เพื่ออธิบายถึงความเดือดร้อนของ เกษตรกร แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนทนไม่ไหว จำเป็นต้องยกขบวนมาขอความช่วยเห ลือจากท่านนายกรัฐมนตรี
“เกษตรกรคนเลี้ยงสัตว์ ต้องเดือดร้อนจากราคาข้าวโพดที่ สูงมากจนนำไปสู่ภาวะขาดทุน และต้องลดจำนวนการเลี้ยงลงเป็ นจำนวนมาก ขณะที่วันก่อนรัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงพาณิชย์ออกข่าวแถลงผลงานด้วยความปลาบปลื้มที่ทำราคาข้าวโพด สูงถึงกก.ละเกือบ 10 บาท แล้วคนที่ต้องซื้อข้าวโพดอย่างพ วกผมล่ะครับ ท่านคิดจะช่วยเหลือบ้างหรือไม่ การบ่ายเบี่ยงไม่ให้ผมเข้าพบ แต่กับกลุ่มนายทุนพืชไร่ได้พบปะ เจรจากันถึง 3 ครั้งนั้นหมายความว่าอย่างไร ท่านลำเอียงใช่หรือไม่ แก้ปัญหาจุดหนึ่งแต่ปัญหาไปโผล่ อีกจุดหนึ่งใช่หรือไม่ แต่ยังกล้านำมาแถลงเป็นผลงานเช่ นนี้ พวกผมคงพึ่งพาท่านไม่ได้แล้ว จึงจำเป็นต้องมาหาท่านนายกประยุ ทธ์กันในวันนี้”นายสุรชัยกล่าว
ราคาข้าวโพดตามที่กระทรวงพาณิ ชย์กำหนดที่กิโลกรัมละ 8 บาท ขยับสูงขึ้นเป็นกว่า 10 บาท คิดเป็นสูงขึ้นถึง 25% หากนำมาใช้ในอาหารสัตว์ 50% จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น 12.5% เปรียบเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผ ลให้คนเลี้ยงสัตว์ขาดทุนหรือได้ กำไร ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีมาตรก ารช่วยเหลือกลุ่มพืชไร่มาโดยตลอ ด แต่แทนที่จะบริหารจัดการเหมื อนพืชเกษตรชนิดอื่น เช่น การประกันรายได้ให้เกษตรกร กลับบังคับให้คนเลี้ยงสัตว์ต้อง ซื้อข้าวโพดในราคาที่ กระทรวงพาณิชย์กำหนดที่ กก.ละ 8 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาข้ าวโพดตลาดโลกที่ขายกันเพียง กิโลกรัมละ 5-6 บาท อยู่แล้ว เมื่อราคาข้าวโพดไทยแพงกว่าตลาด โลก 100% เช่นนี้ เท่ากับประเทศไทยมีต้นทุนการเลี้ ยงสัตว์ที่สูงกว่าตลาดโลกถึง 50%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังออกมาตรการมัด ตราสังข์คนเลี้ยงสัตว์ให้ซื้อข้ าวโพดราคาแพงนี้ 3 ส่วนก่อนจึงจะนำเข้าข้าวสาลีมาท ดแทนข้าวโพดได้ 1 ส่วน ดังนั้น ราคาข้าวโพดจะแพงเพียงใด คนเลี้ยงสัตว์ก็ต้องซื้อตามมาตรการรัฐที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่ม พืชไร่อย่างชัดเจน ดังเช่นที่ปัจจุบันพ่อค้าพืชไร่ โก่งราคาข้าวโพดไปถึง กก.ละ 10.15 บาทแล้ว และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อ เนื่อง
นายวีระพงษ์ ปัญจวัฒนกุล นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ กล่าวเสริมว่า ตนเองมีข้อแคลงใจต่อการทำงานของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากการบ่ายเบี่ยงไม่ให้ เข้าพบนั้นผิดปกติวิสัยของผู้ บริหารซึ่งต้องรับฟังและติดตามข้อมูลของทุกภาคส่วนที่เกี่ ยวข้องในแต่ละปัญหา จึงต้องการเรียนให้ท่านนายกรัฐมนตรีรับทราบถึงความเดือดร้อนที่ ไม่ได้รับการเหลียวแลนี้
สินค้าเกษตรต้องปล่อยไปตามกลไกต ลาด เมื่อวัตถุดิบไม่เพียงพอก็ต้ องนำเข้า การจำกัดการนำเข้าจะส่งผลให้ผู้ ที่ถือวัตถุดิบในมือ ฉวยโอกาสทำกำไรและกักตุนเพื่ อโก่งราคา ตนมีคำถามมาโดยตลอดว่าตัวเลข 3:1 มาได้อย่างไร เป็นข้อเรียกร้องจากกลุ่มที่มอง เห็นผลประโยชน์ใช่หรือไม่ และราคาข้าวโพดที่ขยับขึ้นนี้จ ะตกถึงมือเกษตรกรจริงหรือในเมื่ อข้าวโพดไม่ได้อยู่ในมือเกษตรกร เลย
ที่ผ่านมา ผู้ใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รวมถึง เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการรับ ซื้อข้าวโพดที่ราคาขั้นต่ำ 8 บาทต่อกิโลกรัมมาโดยตลอด ด้วยหวังว่าจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด แต่กลายเป็นว่าผู้ที่ได้รับผลป ระโยชน์คือพ่อค้า ที่ขึ้นราคาข้าวโพดอย่างต่อเนื่ อง โดยไม่มีการควบคุมหรือกำหนดราคา เพดานขั้นสูงไว้ ทำให้เกิดการค้ากำไรเกินควรซึ่ง ขัดต่อกฎหมาย แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์กลั บไม่ได้รับการดูแล จึงเห็นชัดว่าควรยกเลิกมาตรการ ควบคุมการนำเข้าข้าวสาลีดังกล่า วที่เอื้อประโยชน์แก่พ่อค้าคนกลางเพียงกลุ่มเดียว