- Details
- Category: ICO
- Published: Saturday, 14 April 2018 21:58
- Hits: 8440
Cash2coins เปิดตัวเหรียญ 'ไทยบาทดิจิตอล (TBD)' และ ICO BahtFintech ทำระบบ Payment Gateway โดยมี Advice บริษัท IT Hardware ยักษ์ใหญ่ของไทย ร่วมเป็นพันธมิตร
คุณศักดา เกตุแก้ว หรือเจ้าของเว็บเทรดของไทย Cash2Coins จัดงานแถลงข่าว ณ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เปิดตัวเหรียญ ‘ไทยบาทดิจิทอล (TBD)’ และ ICO BahtFintech สร้างระบบ Payment Gateway ที่สามารถใช้ เงินบาทดิจิทอล ที่เก็บข้อมูลอยู่บนเทคโนโลยี Blochchain ชำระเงินออนไลน์ได้
วัตถุประสงค์หลักของ ICO BahtFintech คือสร้างระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย สำหรับการซื้อขายของออนไลน์ แบบ Consumer-to-Consumer เพื่อป้องกันปัญหาการโกง เช่น โอนเงินแล้วไม่ได้รับของ เป็นต้น
โดยระหว่างงานแถลงข่าว ได้มีการเปิดตัวแขกพิเศษคนสำคัญคือ คุณจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Chief Sales & Marketing Officer (CMO) ของบริษัท Advice ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการ IT Hardware อันดับหนึ่งของเมืองไทย โดย BahtFintech จะทำระบบ Payment System ของเหรียญ TBD ให้กับบริษัท Advice ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ที่สามารถใช้เหรียญ Crypto ซื้อสินค้าได้จริง
คุณศักดา ยังกล่าวเสริมว่า
‘คุณสามารถใช้เหรียญ TBD ซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นของ Advice ได้เลย’
สำหรับ ไทยบาทดิจิตอล (TBD) นั้นเป็นเหรียญที่สร้างขึ้นบนมาตรฐาน ERC20 Token ของแพลตฟอร์ม Ethereum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Blockchain ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเมื่อมันอยู่บน Blockchain เราทุกคนจึงสามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของจำนวนเหรียญในระบบได้ตลอดเวลา รวมถึงบริษัทจะมีการเปิดเผยตัวเลขบัญชีเงินบาทที่อยู่ในธนาคารทุกๆ 3 เดือน โดนจะมีลายเซ็นจาก Auditor ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. แล้วอีกด้วย เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสในการดำเนินงานและตรวจสอบได้
ปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถใช้เงินบาทไปแลกเป็น ไทยบาทดิจิตอล (TBD) ได้ที่เว็บเทรด cash2coins โดยเหรียญ 1 TBD จะมีค่าเท่ากับ 1 บาทไทย ซึ่งเหรียญ TBD นี้สามารถถอนเข้าบัญชีธนาคารเป็นเงินบาทจริง หรือจะถอนเข้ากระเป๋า Ethereum ส่วนตัวของเราก็ได้ เพราะเหรียญ TBD เป็นเหรียญที่สร้างบน แพลตฟอร์ม Ethereum อยู่แล้ว
นอกจากนี้ คุณศักดายังกล่าวว่า ทางทีมงาน TBD จะมีนัดหารือ กับธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันที่ 2 เมษายน เพื่อทำให้ TBD กลายเป็น e-money สำหรับการใช้จ่ายในระบบตามโครงการต่างๆของ BahtFintech
รายละเอียด ICO
ชื่อ ICO : BahtFintech
ตัวย่อของเหรียญ : BFIN
Hard cap : $30,000,000 หรือประมาณ 900,000,000 บาท
Total Supply : 501,000,000 BFIN
Total Sale : 300,000,000 BFIN (59.88% of total supply)
ราคา 1 BFIN = 3 บาท
แบ่งการขาย 2 รอบดังนี้
Pre-Sale : วันที่ 30 มีนาคม 2561 (มีโบนัส 5%) ซื้อผ่านเว็บ cash2coins โดยใช้เหรียญ TBD ในการซื้อ
Public Sale : วันที่ 30 เมษายน 2561 (ไม่มีโบนัส) ซื้อโดยใช้ ETH เท่านั้น
โครงสร้างของเหรียญในระบบทั้งหมด
59.88% – 300,000,000 BFIN สำหรับขาย Pre-sale และ Crowd sale
19.96% – 100,000,000 BFIN สำหรับที่ปรึกษาและพันธมิตรทางธุรกิจ
19.96% – 100,000,000 BFIN Reserved
0.19% – 1,000,000 BFIN การกุศล
การจัดสรรเงินที่ได้จากการระดมทุน
50% – การพัฒนาแพลตฟอร์ม
30% – เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับทุนชำระแล้ว ในการใช้ใบอนุญาตการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย
15% – การจัดการและการดำเนินงาน
5% – ใช้สำหรับด้านการตลาด และอื่นๆ
ทีมงาน
Token Economy
ทุกๆปีบริษัทจะนำกำไร 20% มาซื้อเหรียนคืนจากตลาดทุกๆปี จนกว่าจะเหลือเหรียญหมุนเวียนในระบบ 100 ล้าน BFIN โดยจะมีการตั้งโหนด เพื่อให้สิทธิโหวต เรื่องต่างๆ เวลาที่บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ นอกจากนี้ยังสามารถอนุมัติการกู้ได้โดยตรง ตามสัดส่วนของการถือครองเหรียญในระบบ
บทส่งท้าย
สิ่งที่ BahtFintech จะทำ คือการสร้างระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ ด้วยเหรียญ Crypto ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในไทย และด้วยพันธมิตรที่ไม่ธรรมดาอย่าง Advice ย่อมทำให้ BahtFintech เป็น ICO ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อกังวลสำหรับผู้เขียนก็คือ การสร้างระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่นี้ ยังต้องผ่านด่านสำคัญเรื่องใบอนุญาติจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งหากทำสำเร็จเหรียญ ไทยบาทดิจิตอล (TBD) จะเป็นสกุลเงินดิจิทอลตัวแรก ที่สามารถใช้ชำระเงินซื้อสินค้าออนไลน์ในไทยได้ ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปครับว่า TBD จะฝ่าด่านสำคัญนี้ไปได้หรือไม่
ไทยบาทดิจิตอล (TBD) เตรียมเปิดตลาดแลกเปลี่ยนไร้พรมแดน เพิ่มสาขาที่ ลาว พม่า เกาหลีใต้ ใช้ TBD เป็นตัวกลางฝากโอนเงินจริงได้ทั่วโลก พร้อมซื้อสินค้าที่ Advice ได้ภายใน พฤษภาคมนี้
สืบเนื่องจากวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ทาง Cash2coins เว็บเทรดสัญชาติไทยได้ทำการ เปิดตัวเหรียญ ‘ไทยบาทดิจิตอล (TBD)’ และ ICO BahtFintech ทำระบบ Payment Gateway โดยมี Advice บริษัท IT Hardware ยักษ์ใหญ่ของไทย ร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งมีกระแสตอบรับจำนวนมากต่อข่าวงานเปิดตัวในครั้งนี้
โดยเฉพาะเหรียญ ‘ไทยบาทดิจิตอล (TBD)’ ที่มีหลายฝ่ายให้ความสนใจ ว่าสามารถนำมาใช้งานแทนเงินบาทในการชำระสินค้าออนไลน์ได้จริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันยังไม่มีสกุลเงิน Crypto ตัวใด ที่ทำเช่นนี้ได้ ทีมงานจึงได้ทำการติดต่อไปยังคุณศักดา เกตุแก้ว เจ้าของเว็บเทรด Cash2Coins เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในโครงการ และพบว่า Road map ที่คุณศักดาวางไว้สำหรับเหรียญ TBD ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
sakda_katekaewคุณศักดากล่าวว่า ต้องการทำให้ TBD เป็นตัวกลางสำหรับการฝากถอนสกุลเงินจริงระหว่างประเทศ โดยในวันที่ 20 เมษายนนี้ Cash2Coins จะเปิดตัวเว็บเทรดที่ประเทศลาว โดยเปิดให้ฝากสกุลเงินกีบของลาว เข้ามาที่ exchange ได้ โดยผู้ฝากจะได้เหรียญ TBD กลับไป ยกตัวอย่างเช่น ค่าเงินบาทตอนนี้ 1 บาท = 265 กีบ เมื่อมีคนลาวฝากเงินกับเข้ามา 265,000 กีบ ก็จะได้รับเหรียญ TBD จำนวน 1,000 TBD ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1,000 บาท ซึ่งผู้ฝากสามารถนำ TBD นี้ไปซื้อขาย Crypto ในบนเว็บ Cash2Coins หรือสามารถถอน TBD กลับออกไปเป็นสกุลเงินบาท หรือ สกุลเงินกีบ ก็ทำได้
cash2coins
โดยหลังจากเปิดตัว exchange ที่ประเทศลาว 1 อาทิตย์ ทางเว็บ Cash2Coins จะทำการเปิด exchange สกุลเงิน TBD ต่อไปที่ประเทศพม่า และประเทศเกาหลีใต้ โดยสามารถฝากถอนสกุลเงินจริงอย่าง จ๊าดพม่า หรือ เกาหลีวอน กับเว็บเทรด Cash2Coin ได้ ด้วยรูปแบบการดำเนินงานเช่นนี้แล้ว จะทำให้ Cash2Coins กลายเป็น exchange ในระดับสากลได้
advice-chatนอกจากนี้คุณศักดายังกล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการ Payment Gateway ตัวแรกที่ทำร่วมกับ Advice ว่าภายในวันเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีการเปิดตัว TBD Wallet อย่างเป็นทางการ โดยผู้ใช้จะสามารถใช้เหรียญ TBD ซื้อสินค้าที่ Advice ได้ทุกรายการ ซึ่งสินค้าที่ซื้อจะเป็นราคาเดียวกับที่ใช้เงินบาทจริงๆซื้อ และไม่ต้องเสียภาษีอื่นใดเพิ่มเติมอีก (เพราะทางร้านรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อยู่แล้ว)
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังรู้สึกเป็นกังวลต่อสถานการณ์ด้านกฎหมาย Crypto ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ที่ยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์มของ TBD ในอนาคตได้ เพราะอย่างไรเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในความเป็นจริงแล้ว TBD ก็นับเป็นสกุลเงิน Crypto ตัวหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีกฎหมาย Crypto ที่ชัดเจนออกมา ทางทีมงาน TBD อาจต้องพิจารณาปรับแผนในการดำเนินงาน ที่จะไม่ขัดกับกฎหมาย Crypto ทั้งในและต่างประเทศ
โดย Bitcoin Addict