- Details
- Category: ICO
- Published: Friday, 16 March 2018 18:21
- Hits: 2876
CRYPTONIST ไขทุกความลับนวัตกรรมปฏิวัติโลกการเทรดดิจิตอล
CRYPTONIST เปิดเวทีสัมมนา 'นวัตกรรมปฏิวัติโลกการเทรดดิจิตอล' จากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการการตลาดเงิน ตลาดทุน และวงการเทรดดิจิตอล นำโดย “พิพัฒน์ รุ่งเรือง” ผู้บริหารไฟแรง สกายเน็ต ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นเจ้าแรกในไทยที่พัฒนา Social Trading & Ranking System for The Stock Exchange of Thailand & Cryptocurrency Exchange ร่วมเปิดวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “ลงทุนด้วยคำพูดคน: นวัตกรรมประมวลผลภาษามนุษย์ เพื่อสร้างคำสั่งซื้อและเครื่องมือช่วยบริหารพอร์ตลงทุน”
“นิรันดร์ ประวิทย์ธนา” ผู้ก่อตั้งและบอสใหญ่ AVA Advisory พร้อมไขทุกความลับ จัดสรรกระบวนการความคิด ภายใต้หัวข้อ “ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการเล่นหุ้น: จากแบบจำลองทางคณิตศาสตร์กับการเรียนรู้ของสมองกล สู่นวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนในตลาดหุ้น” จากนั้นพบกับหัวข้อ “สร้างสมดุลให้ตลาดพร้อมกินขาดกำไรนิ่มๆ: 7 กลยุทธ์อาร์บิทราจ กับนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิตอล” โดย “พลเดช อนันชัย” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด
นายพิพัฒน์ รุ่งเรือง ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สกายเน็ต ซิสเต็มส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “AS” เปิดเผยในงาน ˙CRYPTONIST นวัตกรรมปฏิวัติโลกการเทรดดิจิตอล ภายใต้ห้วข้อ “ลงทุนด้วยคำพูดคน: นวัตกรรมประมวลผลภาษามนุษย์เพื่อสร้างคำสั่งซื้อและเครื่องมือช่วยบริหารพอร์ตลงทุน” ว่าสกายเน็ต ซิสเต็มส์ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่พัฒนา Social Trading & Ranking System for The Stock Exchange of Thailand & Cryptocurrency Exchange ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อระบบเพื่อรองรับการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิตอลไปยังตลาดหลักทรัพย์ได้ทั่วโลก โดยบริษัทฯ มีสาขาทั้งหมดใน 5 ประเทศทั่วเซาท์อีสเอเชีย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนิเชีย และฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไปของนักลงทุนไม่ค่อยมีเวลาในการติดตามข้อมูลหน้าจอ และเรื่องของการติดตามผลงานเทรด ซึ่งถ้ามาดูผลงานของ Robot ในตลาดตอนนี้ จะเห็นว่าไม่สามารถวิเคราะห์และทำออกมาเป็นสถิติ ซึ่งทางสกายเน็ต ซิสเต็มส์ สามารถรายงานให้ทราบได้ทุกอย่าง ทั้งการทำกำไรและสถิติ ซึ่งทีมของสกายเน็ต ซิสเต็มส์ นั้นสร้างมาจากสตาร์ทอัพจำนวน 5 ท่าน โดยที่มี AS เป็นบริษัทแม่
บริษัทฯ จึงได้พัฒนาระบบ Social Trading System หรือ Social Trading Platform ที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างเงื่อนไขในขั้นตอนการประมวลผลและสร้างอันดับ ที่สามารถเปิดเผยให้กับบุคคลอื่นได้เห็น ซึ่งจะทำให้ทราบว่านักลงทุนหรือบุคคลใด สร้างผลตอบแทนได้มากน้อยเพียงใด และจะสามารถทำให้นักลงทุนรายอื่นๆ ขอคัดลอกการซื้อขาย หรือทำการซื้อขาย (Copy Trade หรือ Follow) ในข้อกำหนดเดียวกับผู้ที่สร้างผลตอบแทนได้มากที่สุด หรือ มีอันดับที่ดีที่สุด โดยปัจจุบันระบบได้พัฒนาสมบูรณ์แล้วกว่า 99%
ในขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อรองรับ AI และ Algorithm ได้ทุกภาษา ไม่ว่าจะเป็น High-Level Programming หรือ Low-Level Programming และมีระบบ Ranking System ที่ใช้เก็บสถิติระดับ Big Data เพื่อแสดงอันดับนักลงทุนทั่วไปหรือระบบ AI ต่างๆ ที่ต้องการเปิดเผยข้อมูลสถิติให้บุคคลทั่วไปได้เห็นผลตอบแทนในการลงทุนและสามารถนำไปเปรียบเทียบกับการลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ได้ โดย Skynet เป็นระบบ Social Trading ที่มี Product สามารถทดสอบใช้ได้จริงแล้วกับ Cryptocurrency Exchange (Bx.in.th) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Thailand Futures Exchange (TFEX) โดยคาดว่าจะเปิดใช้งานได้เร็วๆ นี้
"เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยปัจจุบันยังไม่สามารถรองรับการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นแบบอัตโนมัติได้อย่างเต็มที่และจำกัดการใช้ภาษาได้แค่ Script แบบ Rule-based ซึ่งในต่างประเทศปัจจุบันสามารถใช้ AI ในการส่งคำสั่งได้แล้ว และยังไม่มีระบบ Robot ที่ไหนที่แสดงผลตอบแทนที่แท้จริงให้นักลงทุนทั่วไปได้เห็นในระดับ Public" นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ความเชี่ยวชาญที่ผ่านมา คือ การเป็น Social Gaming Platform ที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย โดยมี User ประมาณ 4-5 ล้านไอดี และมีคนเล่นประมาณ 2 แสนคนต่อวัน โดยมีคนเล่นเฉลี่ยประมาณ 50,000 คนต่อวันตลอดเวลา ซึ่งเมื่อก่อนที่ดำเนินการจะเป็นลักษณะ Social Gaming Platform ก็จะมี User ห้องละ 200 คน ประมาณ 200 กว่าห้อง ซึ่งมีระบบ South East Asia System Tournament ก็จะมีการแข่งขันจัดอันดับในเกม โดยส่วนนี้จะนำมาใช้กับระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นการเข้ามาจัดอันดับนักลงทุนยอดเยี่ยมและอันดับของโบรกเกอร์ในแต่ละประเทศ ซึ่งนอกจากตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังมีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน โดยมองตลาดในเซาท์อีสเอเชียทั้งหมด เนื่องจากบริษัทฯ มีสาขาในประเทศต่างๆ จึงคาดว่าจะช่วยทำให้การทำตลาดเป็นไปในทิศทางที่สามารถเติบโตได้
ด้านนายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AVA Advisory (AVA.fund) เปิดเผยในงาน ˙CRYPTONIST นวัตกรรมปฏิวัติโลกการเทรดดิจิตอลภายใต้ห้วข้อ “ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการเล่นหุ้น: จากแบบจำลองทางคณิตศาสตร์กับการเรียนรู้ของสมองกล สู่นวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนในตลาดหุ้น” ว่า AVA Advisory เป็นบริษัทฯ ที่พัฒนา Application ครบวงจรสำหรับนักลงทุนในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามหุ้นหรือหลักทรัพย์เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนโดยไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาภายใต้ชื่อที่รู้จักกันว่า “Market Anywhere”
โดยการซื้อขายหุ้นในปัจจุบันที่ได้มีการพัฒนาไปมาก โดยการผสมผสานระหว่างการใช้ Deep Learning ร่วมกับ Expert System ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพในการเทรด โดยแนวคิดหลักของ Deep Learning คือการให้ AI ตัดสินใจหาจังหวะซื้อขายจากการวิเคราะห์ข้อมูลดิบจำนวนมาก เพื่อหาแพทเทิร์นของเหตุการณ์ที่มีนัยยะสำคัญต่อการขึ้นหรือลงของราคาหุ้นข้อดีของการใช้ Deep Learning คือ AI จะสามารถเปลี่ยนแปลงเทคนิคการเข้าซื้อขายได้ตามสถานการณ์และสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป (Dynamic Strategy) โดยตัดสินใจในรูปแบบที่ซับซ้อนบนตัวแปรจำนวนมาก (Non-linear Decision Making) ในรูปแบบที่สมองมนุษย์มีขีดจำกัดและไม่สามารถตัดสินใจได้ ซึ่งจะช่วยพัฒนาการลงทุนให้สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
นายพลเดช อนันชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด (https://Cryptovation.co) เปิดเผยในงาน ˙CRYPTONIST นวัตกรรมปฏิวัติโลกการเทรดดิจิตอล ภายใต้ห้วข้อ “สร้างสมดุลให้ตลาดพร้อมกินขาดกำไรนิ่มๆ: 7 กลยุทธ์อาร์บิทราจ กับนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิตอล” ถึงการทำอาร์บิทราจ (Arbitrage) ว่าเป็นกลยุทธ์ในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาของสินทรัพย์ชนิดเดียวกัน โดยเป็นการทำกำไรจากตลาดเดียวกันหรือตลาดที่ต่างกัน เกิดขึ้นไม่มีความไม่สมมาตรของข้อมูลหรือการที่เราไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเดียวกัน จึงทำให้รามีโอกาสในการทำอาร์บิทราจขึ้น และหลังจากนั้นจำทำให้ตลาดเกิดความสมดุลนั่นเอง
ทั้งนี้ คริปโตเวชั่นได้ให้บริการกลยุทธ์ในการเทรดทั้งหมด 7 กลยุทธ์ โดยมองการเข้าซื้อในราคาที่ต่ำ และขายออกในราคาสูง ประกอบกับการใช้หุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุน (Robot) เป็นเครื่องมือในการหาจังหวะเพื่อทำการซื้อขาย ซึ่งหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนนี้ จะไม่มีปัญหาด้านความรู้สึกในการตัดสินใจ หรืออารมณ์ของมนุษย์ประกอบในการลงทุน ช่วงที่เกิดภาวะตลาดผันผวน และยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้ดีกว่า ส่งผลเชิงบวกให้เกิดโอกาสในการสร้างกำไร
“จุดเด่นของหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนด้วยกลยุทธ์อาร์บิทราจ คือความรวดเร็วในการหาช่องว่าง เพื่อหาโอกาสในการสร้างกำไร วิเคราะห์ตลาด สามารถเปรียบเทียบราคาที่ต่างกันของแต่ละตลาดได้พร้อม ๆ กัน ถ้ายิ่งเร็วมาก ก็สามารถลดความเสี่ยงได้มาก และยังสามารถหาโอกาสได้มากขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถของหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนของเรา สามารถส่งคำสั่งซื้อขายจำนวนมากพร้อมๆ กัน เพื่อได้โอกาสในการทำผลตอบแทนสูงสุด”นายพลเดช กล่าว
สำหรับ บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด (https://Cryptovation.co) บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในสินทรัพย์บล็อกเชน และบริการด้านซอฟแวร์ พร้อมทั้งจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีด้านการเงินในทุกๆ วันสุดท้ายของเดือน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้จดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย ฮ่องกง และ สิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเครื่องมือเพื่อการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิตอล
เกี่ยวกับ บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด
บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด (https://Cryptovation.co) ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเครื่องมือ เพื่อการบริหารจัดการทรัพย์สินดิจิตอล โดยร่วมมือกับ Asia Wealth Group (http://www.AsiaWealthGroup.com) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอังกฤษที่ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง เพื่อจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการทรัพย์สินดิจิตอลให้บริการลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีบล็อคเชน และวานิชธนกิจ เพื่อการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (Initial Coin Offering) ให้แก่ธุรกิจอื่นๆ และร่วมกับ AVA Advisor (http://AVA.fund) Robo-Advisory บริการที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่เป็นสมองกล เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุน
บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด
นายพลเดช อนันชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตเวชั่น จำกัด (https://Cryptovation.co) ผู้ให้บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในสินทรัพย์บล็อกเชน และบริการด้านซอฟแวร์ พร้อมทั้งจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีด้านการเงินในทุก ๆ วันสุดท้ายของเดือน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้จดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย ฮ่องกง และ สิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจวิจัยและ พัฒนา เครื่องมือเพื่อการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิตอล
ทั้งนี้ โครงการคริปโตเวชั่นเอ็กซ์ (https://CryptovationX.io) เกิดจากความร่วมมือของ Cryptovation.co กับพันธมิตรหลากหลายนำโดย AVA.Advisory บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มช่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ช่วยทำนายราคาของหลักทรัพย์ต่าง ๆ โดยกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันเพื่อ “ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้บริการหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนแบบครบวงจร (One-stop-solution Robo-Advisory Platform) ภายใต้อุดมการณ์ Wealth for All” พัฒนาให้เครื่องมือช่วยลงทุนที่ซับซ้อนมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยใช้กลยุทธ์พัฒนาส่วนติดต่อกับผู้ใช้ให้มีความเป็นมนุษย์ที่มีบุคลิกเฉพาะตามความสามารถ และสามารถพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งพัฒนาโดยทีมงานที่มีประสบการณ์หลากหลายจากทุกแขนง ทั้งด้านการลงทุนในตลาดทุน ตลาดเงิน และตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ด้านการวิเคราะห์เชิงปริมาณทางเศรษฐศาสตร์ ด้านเทคโนโลยี ด้านบล็อกเชน ด้านการเงิน การธนาคาร ด้านการตลาด ตลอดจนด้านการออกแบบต่าง ๆ เป็นต้น
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) เพื่อเตรียมที่จะระดมทุนในการพัฒนาแพลตฟอร์มให้คำปรึกษาโดยระบบหุ่นยนต์ (Robot) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในตลาดเหรียญดิจิทัล (AI) โดย Robo-Advisory หุ่นยนต์จะช่วยชี้แนะการลงทุนทั้ง 3 ตัว ได้แก่ Arbi, Specto และ Broca
จุดเด่นของเหรียญ CryptovationX ICO (CXO) คือ นักลงทุนที่ถือเหรียญสามารถใช้บริการหุ่นยนต์ที่ปรึกษาการลงทุนทั้ง 3 ตัวของ CrytovationX ได้ โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวถูกพัฒนา โดยทีมที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับรางวัลในการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ปรึกษาด้านการลงทุนโดยเฉพาะ โดยหุ่นยนต์ทั้ง 3 ตัว มีรายละเอียดดังนี้
“อาร์บี้ (Arbi)” ช่วยสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับการทำอาร์บิทราจ ช่วยส่งสัญญาณการทำอาร์บิทราจ ทำการซื้อขายแบบอาร์บิทราจให้แบบอัตโนมัติ
“สเปคโต้ (Specto)” ช่วยให้สัญญาณการเก็งกำไร และเทรดเก็งกำไรให้อัตโนมัติ “โบรก้า (Broca)” มีความสามารถที่จะช่วยสมัคร Exchange (ให้ข้อมูลกับ Broca ครั้งเดียว Broca สามารถสมัครต่อให้ได้อีกอย่างน้อย10 Exchange) นอกจากนี้ จะยังสามารถช่วยคัดเลือก ICO และกำลังประมวลผล Cloud Mining มาเสนอขายได้อีกด้วย
AVA Advisory (AVA.fund)
AVA Advisory ก่อตั้งจาก Market Anyware Company Limited โดยนายนิรันดร์ ประวิทธ์ธนา เมื่อปี 2556 ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทฯที่พัฒนาapplicationครบวงจรสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามหุ้นหรือหลักทรัพย์เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนโดยไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาภายใต้ชื่อที่รู้จักกันว่า “Market Anyware”
ในปี 2559 นายนิรันดร์ ประวิทธ์ธนา (CEO) ได้ร่วมมือกับ นายรวิทัต ภู่หลำ (CTO) และนายชัยวุฒิ โกวิทจินดาชัย (กรรมการบริษัท) ทำการวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) โดยคุณนิรันดร์มีแนวคิดที่จะพัฒนาและเปลี่ยนจาก “MarketAnyware” ที่เป็นเครื่องมือสู่ “Platform” ที่สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ หรือที่เรียกในปัจุบันว่า “AVA” นั่นเอง
ทั้งนี้ AVA เปรียบเสมือนหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนามาเพื่อทำหน้าที่ช่วยให้ความรู้แก่นักลงทุน โดยระบบ AI ของ AVA สามารถจำแนกได้ 2 รูปแบบ ได้แก่
1.Expert System นั่นคือการให้ AVA เรียนรู้จากองค์ความรู้ของนักลงทุนมากความสามารถทั่วโลก
2.Machine Learning System คือการให้ AVA เรียนรู้จากข้อมูลในอดีตทั้งหมด และสร้างเป็นองค์ประกอบความรู้ใหม่ อาจจะเป็นการลงทุนสไตล์ VI ที่ไม่เหมือนใคร หรือเป็นการลงทุนเชิง Technique โดยใช้ indicator ใหม่ที่ไม่เคยมีใครให้คำนิยามมาก่อน ซึ่งกระบวนการนี้เองที่เรียกว่า “Knowledge Discovery”
นอกจากนี้ AVA ยังมีความสามารถที่เรียกว่า Deep Learning ในการทำ Knowledge Discovery ซึ่งจะทำให้ได้แนวคิดที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพราะกระบวนการนี้จะคอยค้นหาองค์ความรู้ใหม่ภายใต้องค์ประกอบใหม่ตลอดเวลา
ปัจจุบัน (2018) AVA Advisory มีผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่
1.AVA Advisor มีหน้าที่คอยช่วยเหลือนักลงทุนไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบใช้เทคนิคประกอบ (Techncal) การเทรดแบบเก็งกำไรระยะสั้น (Day Trade) หรือการเทรดแบบลงทุนระยะยาว (Value Investor) จึงเหมาะสำหรับ Active Investor ที่อยากลงทุนด้วยตัวเองแต่ยังคงต้องการคำแนะนำจากผู้ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ซึ่งได้มีการเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อเมษายน 2559 ที่ผ่านมา
2.AVA Fund เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลกำไรจากการลงทุนแต่ไม่สามารถลงทุนด้วยตัวเองได้โดยนักลงทุนจำเป็นต้องนำเงินไปฝากที่ AVA จากนั้นระบบ AI จะทำการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่น่าสนใจในกองทุนนั้นมานำเสนอซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านระบบและเทคโนโลยีที่รองรับ แต่จะสามารถเปิดให้บริการได้ต่อเมื่อเป็นไปตามการอนุญาตของหน่วยงานที่กำกับดูแลเท่านั้น
ข้อมูล ณ วันที่ 14 มีนาคม 2561
Skynet System
นายพิพัฒน์ รุ่งเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สกายเน็ต ซิสเต็มส์ จำกัด และเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท สกายเน็ต ซิสเต็มส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “AS” จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปัจจุบันสกายเน็ต ซิสเต็มส์ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้าน Financial Technology พัฒนาระบบกลางเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์ม (Platform) และโปรแกรม หรือ ภาษา ซึ่งเป็นที่นิยมในการใช้ออกแบบระบบการซื้อขายหลักทรัพย์หรืออนุพันธ์ต่าง ๆ เพื่อส่งคำสั่งของการซื้อขายและคำสั่งอื่น ๆ ไปยังบริษัทหลักทรัพย์หรือโบรกเกอร์ (Broker) ได้ตามต้องการ
ทั้งนี้ Skynet System เป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ได้พัฒนา Social Trading & Ranking System for Thailand Stock Market Exchange & Crypto Currency Exchange โดยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อระบบเพื่อรองรับการส่งคำสั่งซื้อ-ขายหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิตอลไปยังตลาดหลักทรัพย์ได้ทั่วโลก
รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล ทั้งยังสามารถรองรับ AI และ Algorithm ได้ทุกภาษา ไม่ว่าจะเป็น High-Level Programming หรือ Low-Level Programming อีกทั้งระบบ Ranking System ที่ใช้เก็บสถิติระดับ Big Data เพื่อแสดงอันดับนักลงทุนทั่วไป รวมไปถึงระบบ AI ต่าง ๆ ที่ต้องการเปิดเผยข้อมูลสถิติให้ บุคคลทั่วไปได้เห็นเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับกองทุนทั่วไปได้
ผลงานที่ผ่านมา
Social Gaming Platform
Largest Community of E-Sport Games
• Thailand’s largest platform for DOTA and LAN games battle arena
• 4 Millions User IDs
• Over 200,000 User IDs login/day
• Over 50,000 CCU/day
• Over 140,000 UIPs connect to Cybergames network system/day
Expand to 5 countries in SEA (SG, MY, VN, ID, PH) under single portal of www.playcybergames.com
Capitalise Crypto
ควบคุมการ trade crypto ของคุณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
Capitalise Crypto นำเครื่องมือสุดยอดระดับโลกที่ช่วยบริหารการลงทุน เข้ามาในโลก Crypto. ด้วยระบบเทคโนโลยี ของเราที่ได้รางวัล บวกกับ ทีม professional trader ทำให้การวางแผนการลงทุนง่าย และการใช้งานที่เข้าถึงได้ทุกคน
The CAT Platform
ตลาด cryto ไม่มีวันปิดทำให้คุณอาจจะพลาดโอกาสไปได้ แต่ด้วย Capitalise Crypto's Automated Trading Platform (the CAT Platform) คุณไม่ต้องมานั่งเครียด หรือ รอโอกาสในการลงทุน ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อีกต่อไป
Capitalise ใช้ระบบ automated trading technology ที่ปกติแล้วใช้โดย professional trader แต่ตอนนี้มันจะมาอยู่ในมือคุณ ทำให้คุณไม่พลาด หลายๆ โอกาสอีกต่อไป
Natural Language Interface
คุณสามารถสร้าง ระบบการเทรดอัตโนมัติ ให้เหมาะกับลักษณะของคุณเองได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่ง่าย หรือ ยาก ระบบเทคโนโลยีของเรา จะทำให้ทุกประบวนการ นั้นง่าย และมีประสิทธิภาพที่สูง
ตอนนี้คุณก็ไม่ต้องจ้าง programmer หรือเสียเงินมหาสารให้กับ software ที่แพงอีกต่อไป
The CAT Social Arena
ใน The CAT Social Arena, trader ทุกคนทั้งแต่ระดับ เริ่มต้น หรือ professional จะมารวมกัน และได้ผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการเข้าถึง network ของนักลงทุน crypto. คนที่มีประสบการณ์สามารถแชร์กลยุทธ์จ้าง trader และได้เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งจากกำไรของสองส่วนนี้
ในเวลาเดียวกัน คนที่เพิ่งเริ่ม ก็สามารถเรียนรู้จาก the best & professional และจะไม่ต้องทำผิดพลาด จากการไม่มีประสบการณ์อีก
Blocktesting & Optimization
หลังจากที่คุณสร้าง กลยุทธ์ บน platform คุณสามารถทดสอบ กลยุทธ์ของคุณกับ historial data (ข้อมูลตลาดย้อนหลัง) ได้ เพื่อที่คุณจะสามารถดู performance ของกลยุทธ์ของคุณ และจะได้พัฒนาให้ดีขึ้น
The CAT Platform จะใช้กลยุทธ์ของคุณทดสอบทุกโอกาส และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นบนตลาด โดยอัตโนมัติ และช่วยปรับกลยุทธ์ของคุณให้ได้กำไรสูงสุด
Capitalise Crypto Team ประกอบไปด้วย seasoned programmers และ fin-tech professionals ผู้ก่อตั้งบริษัทได้จับมือ เพื่อเป็นพันธมิตรกับ broker และ financial institution ชั้นนำ ทั่วโลกที่มีประสบการณ์ใน traditional market มาอย่างยาวนาน และตอนนี้พวกเขาจะนำ expertise หรือความเชี่ยวชาญจากตลาด traditional market มาสู่โลกของ crypto trading
