- Details
- Category: Exchange
- Published: Sunday, 19 August 2018 09:35
- Hits: 2788
ปิดฉากยิ่งใหญ่ HYBRID SUMMIT 2018 ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางบล็อกเชนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังจากการประสบความสำเร็จในการจัดงานครั้งแรกที่มาเก๊า HYBRID SUMMIT 2018 เลือกกรุงเทพมหานครเป็นจุดหมายของการจัดงาน ครั้งที่ 2 ซึ่งผ่านพ้นไปเมื่อเร็วๆนี้ ณ เซ็นทาราแกรนด์และศูนย์การประชุมบางกอกคอนเวนต์ชัน เป็นการรวมพลบุคลากรชั้นแนวหน้าของวงการบล็อกเชนจากทุกภูมิภาคทั่วโลก มีผู้ร่วมงานมากกว่ากว่า 2,000 คน จาก 30 กว่าประเทศ
Hybrid Summit 2018 เป็นเวทีในการนำเสนอข้อมูลคุณภาพ และความรู้จากผู้นำในอุตสาหกรรมบล็อกเชน สกุลเงินดิจิทัล ไปจนถึงประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมสามารถต่อยอดสร้างเครือข่ายในคอมมูนิตี้ของตนเองได้ ทั้งยังสามารถชักชวนผู้ที่ชื่นชอบ และสนใจคริปโตเคอร์เรนซี่มาเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้และร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันด้วย
“ในงานนี้เป็นการรวมตัวของคนสำคัญๆ ที่บุกเบิกการประยุกต์ใช้บล็อกเชน เพื่อนำเสนอนวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งยังได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ร่วมลงทุน ตัวแทนสถาบันต่างๆ ตลอดจนธุรกิจที่สนใจนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจ
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเป็นพื้นที่ให้วิทยากรและนักการศึกษาระดับนานาชาติหลายท่านได้พบปะ และแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ในการประชุมสุดยอด Hybrid Summit 2018 ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางของเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) ที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังได้ทำงานร่วมกับชุมชนคริปโตฯมากมาย และช่วยให้พวกเขาเข้าถึงผู้รู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ที่จะพร้อมจะแบ่งปันความรู้ สร้างความเข้าใจในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และระบบบล็อกเชน”
จากความสำเร็จของงานในปีแรกที่มาเก๊า สู่ความสำเร็จอีกครั้งที่กรุงเทพฯ เราหวังให้เมืองไทยกลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมบล็อกเชนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหลังจากงานนี้สิ้นสุดลง เราก็พบว่าเป็นไปได้ไม่ยากเลย เพราะบรรดาคนในแวดวงธุรกิจต่างๆ ล้วนให้ความสนใจศึกษาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง พร้อมหาวิธีประยุกต์ใช้เข้ากับธุรกิจ ตลอดจนมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไฟแรงที่เข้าสู่โลกของบล็อกเชนอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว” อะพอลโล โอโน ผู้ก่อตั้งบริษัทไฮบริดบล็อก ในฐานะผู้จัดงาน HYBRID SUMMIT 2018 กล่าว
ด้านผู้ประกอบการไทย นายศิวนัส ยามดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล ที่เลือกเผยโฉมเอทีเอ็มเงินดิจิทัลตู้แรกของเมืองไทย ในงานนี้ กล่าวว่า “การเลือกเปิดตัวคริปโตเอทีเอ็ม ในงานนี้ เนื่องจากเราเห็นว่าเป็นงานที่รวมคนในวงการบล็อกเชนจากทั่วโลกมาร่วมกัน การนำเสนอในครั้งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะบอกว่าประเทศเรามีบุคลากรที่มีศักยภาพ พร้อมต้อนรับธุรกิจและลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนจากทุกภูมิภาค ทางคอยน์ แอสเซท ภูมิใจที่การมาร่วมงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยยกระดับวงการบล็อกเชนของไทย”
สำหรับ ‘Crypto ATM’ สามารถเเลกเปลี่ยนซื้อขายเงินสกุล BitCoin (BTC), Ether (ETH), LiteCoin (LTC) เเละ Bitcoin Cash (BCH) โดยต่อไปจะเพิ่มสกุลเงินที่ใช้เเลกเปลี่ยนขึ้นเรื่อยๆ ตามความนิยมของผู้ใช้งาน ตู้ Crypto ATM ของคอยน์ แอสเซท นั้น ยังสามารถทำธุรกรรม ซื้อขายเงินดิจิทัลได้ ในมูลค่าเริ่มต้นเพียง 100 บาท เท่านั้นโดยการซื้อขายสามารถทำผ่านตู้ได้ทันที ที่สำคัญ Crypto ATM นี้ยังสามารถถอนเงินดิจิทัล ออกมาในรูปเเบบเงินบาทได้ด้วย หน้าจอของตู้เป็น
ระบบจอสัมผัส (Touch Screen) ซึ่งระบบของตู้มีความแม่นยำและความเสถียรในการใช้งานสูงเมื่อทำธุรกรรมเรียบร้อยเเล้วจะได้รับสลิปเพื่อเป็นการยืนยันการทำธุรกรรมอีกด้วย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://hybridsummit2018.com https://coinasset.co.th/