การแปลงการกุศลเป็นดิจิทัล : เราทำความดีได้ดีขึ้น

     การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ไม่ว่าคุณจะพร้อมหรือไม่ แต่การพร้อมหมายความว่าคุณสามารถคว้าโอกาสได้ ปีที่ผ่านมาได้เร่งความเร็วของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างมาก แน่นอนว่าการติดต่อส่วนตัวได้เคลื่อนไหวทางออนไลน์แล้ว และการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสก็ค่อยๆ เข้ามาแทนที่เงินสด แต่การระบาดใหญ่ไม่ได้ช่วยผลักดันโลกให้เร็วและไกลเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด สิ่งนี้สร้างความท้าทายเฉพาะสำหรับภาคส่วนที่ไม่แสวงหากำไร และด้วยสิ่งเหล่านี้ ความเป็นไปได้ที่น่าตื่นเต้นบางอย่าง

ที่เกี่ยวข้อง: ใจบุญสุนทาน: ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ขาดหายไปของการยอมรับบล็อคเชน

นำข้อความกลับบ้าน

        กิจกรรมเพื่อการกุศลและการระดมทุนตามท้องถนนซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลัก 2 ช่องทาง ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม การล็อกดาวน์ได้ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่นความท้าทาย 2.6ซึ่งหน่วยงานด้านกีฬาและการระดมทุนได้ขอให้ประชาชนสร้างความท้าทายส่วนตัวของตนเองเพื่อเติมช่องว่างที่เหลือจากการแข่งขันลอนดอนมาราธอน ความฉลาดของความพยายามในการระดมทุนส่วนบุคคลนั้นก็คือ มันเป็นเรื่องส่วนตัว

       พิจารณาว่ากัปตันทอม มัวร์หาเงินได้มากกว่า 32 ล้านยูโร (44 ล้านดอลลาร์) ได้อย่างไรด้วยการเดินไปรอบๆ สวนของเขา! สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความพยายามของแต่ละคนสามารถขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่งกว่าที่ทำโดยทีมมาราธอนได้อย่างไร: เมื่อผู้สนับสนุนสามารถมองเห็นแรงจูงใจเบื้องหลังความท้าทายแต่ละอย่าง พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจ มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการเล่าเรื่องและความถูกต้อง เพื่อให้โดดเด่นท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ ที่แย่งชิงความสนใจของสาธารณชน และเพื่อฟื้นฟูเส้นทางสู่ความรู้สึกเชิงบวกของการให้ สิ่งสำคัญคือการตอกย้ำ 'ทำไม' - รักษาความเป็นส่วนตัว ให้สัมพันธ์กัน

      แต่ในขณะที่ช่วงเวลาสำคัญๆ เช่นนี้ดึงดูดจินตนาการและดึงดูดการบริจาคจำนวนมาก องค์กรการกุศลจำเป็นต้องบริจาคซ้ำๆ และการระดมทุนแบบเพื่อน-ทู-เพียร์เพื่อสุขภาพทางการเงินของพวกเขา จำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรจะเปลี่ยนผู้บริจาคเพียงครั้งเดียวให้กลายเป็นผู้สนับสนุนที่มีส่วนร่วมซึ่งมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันข้อความของพวกเขา

ที่เกี่ยวข้อง: อนาคตของการทำบุญอยู่ในเทคโนโลยีบล็อกเชน

       การระดมทุนออนไลน์สามารถมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในงานนี้ ต้องขอบคุณพลังของการเล่าเรื่อง จากการวิจัยพบว่า 57% ของผู้ที่ดูวิดีโอการระดมทุนไปบริจาคเงิน แต่คิดว่าจะทำอะไรได้อีกมาก เว็บไซต์การกุศลหรือนักกิจกรรมสามารถกลายเป็นสถานที่สำหรับผู้ช่วยเหลือและผู้ได้รับความช่วยเหลือในการแบ่งปันประสบการณ์ แรงจูงใจ และผลกระทบของการกระทำของพวกเขา การดำเนินการออนไลน์แต่ละรายการสามารถแปลงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้นได้อย่างไร เครื่องมือโซเชียลออนไลน์จะสร้างชุมชนได้อย่างไร และเราจะระดมกลุ่มประชากรที่ไม่ไว้วางใจกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นอีกต่อไปเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้องเมื่อบริจาคแล้วหรือยอมรับว่าควรกำหนดวาระโดยผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดเท่านั้น?

      ความโปร่งใสและความรับผิดชอบมีความต้องการเพิ่มขึ้นในทุกด้านของชีวิต ด้วยเหตุผลทางสังคม: คนหนุ่มสาวต้องการรู้ว่าพวกเขาสร้างความแตกต่าง แสดงประวัติการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการดูแลที่รับผิดชอบ แล้วพวกเขาจะกระจายคำให้คุณ อธิบายว่าทรัพยากรใดที่จำเป็น และจะนำไปใช้อย่างไร กลุ่มที่ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และเครื่องมือสากลที่เข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายจะได้รับความไว้วางใจและความจงรักภักดีจากคนรุ่นต่อไปที่กำลังมาถึงในขณะนี้

การชำระเงินแบบฝังเปิดประตูใหม่

       มาพูดถึงเรื่องการจ่ายเงินถั่วและโบลต์กัน กระบวนการจริงของการบริจาคออนไลน์อาจเป็นอุปสรรคสำคัญ ผู้บริจาคมักจะต้องกรอกแบบฟอร์มโดยละเอียด โดยระบุชื่อและช่องทางการติดต่อหลายวิธี แม้กระทั่งก่อนที่จะลงรายละเอียดการชำระเงิน ช่วงเวลาแห่งความเอื้ออาทรและความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะมีส่วนร่วมอาจเป็นเรื่องที่ไม่ราบรื่นเนื่องจากมีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ จากผู้ที่คิดว่ารายละเอียดส่วนบุคคลของพวกเขาถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล

      เทคโนโลยีบล็อคเชนสามารถทำให้ขั้นตอนนี้ง่ายขึ้นอย่างมาก หากเว็บไซต์การกุศลใช้เลเยอร์ไมโครเพย์เมนต์ที่อนุญาตให้ผู้บริจาคบริจาคเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ด้วยการคลิกปุ่ม - ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม ไม่มีข้อมูลส่วนตัวให้ยกเลิก คุณจะไม่คาดหวังว่าสิ่งนี้จะปลดล็อกความปรารถนาดี นี่คือความเป็นไปได้ที่แท้จริง เมื่อเทคโนโลยีได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ทำให้การบริจาคออนไลน์ง่ายขึ้น แต่ยังเป็นการปูทางสำหรับการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย

     จำความท้าทายถังน้ำแข็ง? การบริจาคจากปรากฏการณ์ทางโซเชียลมีเดียนั้นสูงถึง 115 ล้านดอลลาร์ ทำให้ ALS Association ซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ สามารถระดมทุนได้เกือบสองเท่าสำหรับการวิจัยโรคนี้ ระหว่างการล็อกดาวน์ ความท้าทายของ TikTok และ Instagram แพร่กระจายราวกับไฟป่า แม้ว่าจะมีส่วนน้อยที่เชื่อมโยงกับสาเหตุ ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณสามารถสร้างความท้าทายของโซเชียลมีเดียที่ควบคุมพลังงานนั้น เชื่อมโยงกับการกระทำที่มีความหมาย และฝังกลไกการบริจาคโดยตรงในโพสต์ที่สร้างขึ้น หากผู้ชมถูกขอให้บริจาคเงินสักสองสามเพนนีเพื่อดูวิดีโอ และเพิ่มอีกสองสามเพนนีเพื่ออัปโหลดวิดีโอของพวกเขาเอง แคมเปญแบบปากต่อปากสามารถบรรลุผลได้มากกว่าแค่การสร้างความตระหนักรู้

       เกมเรื่องไม่สำคัญ Freerice ได้ระดมทุนประมาณ 1.4 ล้านดอลลาร์ (ผ่านการโฆษณา) สำหรับโครงการ United Nations World Food Program - มันได้ผลเพราะผู้เล่นส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความเสพติดของเกมที่เรียบง่าย แต่ยังมาจากความรู้สึกที่ดีด้วย ทำให้การบริจาคเป็นเรื่องง่ายผ่านระบบไมโครเพย์เมนต์แบบกระจายอำนาจที่ฝังตัวอยู่ สามารถนำไปใช้เพื่อรวมเงินบริจาคจำนวนเล็กน้อยเพื่อเป็นทุนสนับสนุนความพยายามในเชิงบวก โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เราอาจจินตนาการถึงตลาดข้อมูลฟรีที่ขับเคลื่อนเงินทุนไปสู่สาเหตุที่มีค่าที่สุด

ที่เกี่ยวข้อง: คุณสามารถบริจาคภาษี crypto ของคุณเพื่อการกุศลแทนได้

คุณสามารถเสนออะไรได้บ้าง

        ผู้ระดมทุนต้องใช้ความคิดทางการตลาดที่เฉียบแหลมเพื่อขยายฐานรายได้ การขอบริจาคในหลาย ๆ แพลตฟอร์มเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ใช้หลักการเบคเซล: ให้อะไรเพื่อให้ได้มา?

       องค์กรไม่แสวงหากำไรใด ๆ มีแนวโน้มที่จะมีความรู้เฉพาะทาง หากสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นเพื่อสร้างหลักสูตรออนไลน์หรือ e-book หรือเสนอการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ นั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีค่า โดยทั่วไปแล้วผู้บริจาคออนไลน์ให้น้อยลง ดังนั้นผู้ระดมทุนจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อฝึกฝนพวกเขาและจัดหาช่องทางต่างๆ สำหรับการบริจาค เหตุการณ์แบบออนไลน์หรือแบบผสมเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่างานระดมทุนแบบเดิมๆ (ซึ่งเสี่ยงต่อสภาพอากาศและปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้อื่นๆ) และเข้าถึงได้มากกว่า การชำระเงินแบบฝังช่วยให้สามารถนำเสนอมูลค่าพิเศษนี้ได้อย่างไม่สะดุด โดยไม่กระทบต่อการปกป้องข้อมูลหรือลงทุนเหนือศีรษะใดๆ ในสัญญาประมวลผลการชำระเงิน

ตั้งเป้าคนรุ่นต่อไป

       โปรดจำไว้ว่า เหนือสิ่งอื่นใด ผู้บริจาคที่อายุน้อยกว่ามักจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาและข้อเสนอออนไลน์ และผู้บริจาคที่อายุน้อยกว่าสามารถให้การสนับสนุนได้ตลอดชีวิต ดังนั้น ผู้ระดมทุนจึงต้องให้ความสนใจกับพฤติกรรมออนไลน์ของคนหนุ่มสาว เราทราบดีว่า Generation Z นั้นใช้งานออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนอุปกรณ์มือถือ และถูกปิดโดยเว็บไซต์ที่ล้าสมัย โซเชียลมีเดียเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเขา ดังนั้นการสร้างชุมชนออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ และไม่ค่อยได้ใช้เงินสด

      เมื่อการจ่ายเงินสดกลายเป็นสิ่งที่หายาก การบริจาคการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยได้ผ่านพ้นทางของไดโนเสาร์ไปแล้ว น่าจะเป็นมากกว่าช่องว่างทางการเงิน การทิ้งเหรียญสองสามเหรียญลงในโถการกุศลหรือในจาน 'ใช้เพนนี ทิ้งเพนนี' ที่คุ้นเคยในบางภูมิภาคของสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน micropayments สามารถเสนอวิธีที่จะดึงผลประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่มาจากการหมุนเวียนของเงินจำนวนเล็กน้อยโดยไม่ระบุชื่อได้หรือไม่? และสามารถช่วยดึงดูดคนหนุ่มสาวในระดับที่เหมาะกับพวกเขา โดยเปิดประตูสู่ระดับการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคตหรือไม่

       การก้าวกระโดดของเครือข่ายระยะไกลในปี 2020 สามารถผสมผสานกับเทคโนโลยีการชำระเงินที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อนำความเป็นไปได้ที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับองค์กรการกุศล ตอนนี้เราเห็นแล้วว่า การมีส่วนร่วมทางออนไลน์นั้นยังมีประสิทธิภาพอย่างมหาศาลในตัวเอง การชำระเงินทางดิจิทัลใหม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการเพิ่มเงินสดที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน ตอนนี้ สิ้นสุดแล้วที่ผู้ระดมทุนจะใช้บทเรียนที่ได้เรียนรู้และสร้างแบบจำลองใหม่สำหรับอนาคต

ความคิดเห็น ความคิด และความคิดเห็นที่แสดงในที่นี้เป็นของผู้เขียนเพียงผู้เดียว และไม่จำเป็นต้องสะท้อนหรือแสดงถึงมุมมองและความคิดเห็นของ Cointelegraph

******************************************

กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web