นำระบบนิเวศการชำระเงินเข้ารหัสลับไปทั่วโลก: Ray Youssef

“ฉันเกือบถูกตำรวจฆ่าตาย ซึ่งเห็นฉันเดินเตร่ไปทั่วเมืองโดยคิดว่าฉันเป็นคนปล้นสะดม” Ray Youssef พูดถึงการพูดคุยอย่างใกล้ชิดและการยอมรับ crypto

แม้ว่าเขาจะประสบความล้มเหลวทางธุรกิจมาแล้ว 11 ครั้ง แต่วันนี้ Ray Youssef กำลังสร้างโรงเรียนที่ได้รับทุนสนับสนุน Bitcoin ทั่วแอฟริกาในฐานะผู้อำนวยการบริหารของมูลนิธิ Built With Bitcoin Foundation และกำลังช่วยเหลือผู้คนนับล้านในการซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลในฐานะ CEO ของ Paxful อย่างไรก็ตาม Youssef ยังยอมรับในการปล้นร้านฮาร์ดแวร์ในนามของโรงเรียนคอนแวนต์หลังพายุเฮอริเคนแคทรีนาและบอกว่าเขาเกือบถูกยิงในฐานะเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ต้องสงสัยในช่วงการปฏิวัติอียิปต์

เขาเพิ่งกลับมาจากเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเขาใช้เวลาอยู่ที่ Bitcoin Beachซึ่งเขาบอกว่าแม้แต่เด็กๆ ก็ใช้ Bitcoin ( BTC ) บริการชำระเงินด้วย Crypto มีความสำคัญเนื่องจาก 70%ของผู้คนในเอลซัลวาดอร์ไม่มีบัญชีธนาคาร สำหรับ Youssef เครือข่ายการเงินแบบ peer-to-peer สะกดความหวังสำหรับประเทศกำลังพัฒนา

ถนนทุกสายมุ่งสู่ Bitcoin

เมื่อ Youssef ได้ยินเกี่ยวกับ Bitcoin เป็นครั้งแรกในปี 2011 เขา “เลิกใช้มันเป็นเงินเนิร์ดอย่างรวดเร็ว” เขามีเรื่องเร่งด่วนอยู่ในใจมากกว่า ในปีนั้นเขาทิ้งความสะดวกสบายของนิวยอร์กเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติในประเทศอียิปต์ของเขา ที่นั่น เขาไปที่แกนหลักของการประท้วงที่จัตุรัส Tahrir ในตัวเมืองไคโร และ “เกือบเสียชีวิตในคืนแรกของการต่อสู้ที่บ้าคลั่งจริงๆ” ในระหว่างนั้นเขาถูกจับโดยทหารในฐานะเจ้าหน้าที่ CIA ต้องสงสัย “ฉันสามารถเขียนหนังสือในคืนนั้นคนเดียวได้” เขาสรุปด้วยเสียงหัวเราะที่เผยความลึกลับ

เขาไม่ใช่ผู้นำการเข้ารหัสลับคนแรกที่เข้าร่วมการปฏิวัติ เช่น Griff Green ซึ่งเคยปกป้องคูหาเลือกตั้งใน Cataloniaหรือ Amir Taaki ผู้ซึ่งไปต่อสู้กับ Kurdish YPG อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขากลับบ้านที่สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มรวบรวมประสบการณ์ของเขาเกี่ยวกับการปฏิวัติและตั้งคำถามหลายๆ อย่างเกี่ยวกับสังคม

หนึ่งในรูกระต่ายที่เขาลงมาคือรูของเงิน “ฉันเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับเงิน: มันอยู่ที่ไหน? มันมาจากไหน?" เขาพูดว่า. ในไม่ช้า เขา “เริ่มมองเห็นประวัติศาสตร์ผ่านเลนส์ที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” นั่นคือตอนที่เขากลับมาที่ Bitcoin ซึ่งเขารู้สึกว่าสามารถหาคำตอบได้

ดูเหมือนว่าคริปโตจะดึงดูดนักปฏิวัติ บางทีอาจสนับสนุนแนวคิดของการปฏิวัติทางเทคโนโลยีหรือการเงินที่เกิดจากบล็อคเชน เมื่อเขามาถึง Bitcoin Center NYC สำหรับการพบปะครั้งแรกในปี 2013 เขาสงสัยเกี่ยวกับ Bitcoiners คนอื่นๆ ว่า “พวกเขาเป็นอย่างไร? พวกเขาอยู่บนเส้นทางเดียวกับฉันหรือเปล่า”

เมื่อบรรยายถึงเหตุการณ์ เขาฟังดูไม่เหมือนผู้แสวงบุญที่เล่าเรื่องศาลเจ้าที่อยู่ห่างไกลที่พวกเขาหวังว่าจะได้พบผู้แสวงหาความจริงคนอื่นๆ คนแรกที่เขาพบคือ Artur Schaback ซึ่งเป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่กำลังจะเป็นของเขา เขาเป็นคนร่างสูงเพียงคนเดียวในการประชุม “เราจึงเข้ากันได้ และเราผูกพันกันจริงๆ กับความเชื่อที่ว่า Bitcoin สามารถช่วยเจ้าตัวเล็กได้” ในไม่ช้า พวกเขาเริ่มทำงานกับโซลูชันการขายปลีก Bitcoin แต่มันไม่ง่ายเลย

“เงินของเราหมดแล้ว เราต้องเลือกระหว่างการเริ่มต้นหรือที่อยู่อาศัย”

นักผจญภัยทั้งสอง “จบลงด้วยการไร้บ้านและนั่งเล่นกระดานโต้คลื่น” Youssef รู้สึกว่าเขาถึงจุดต่ำสุดแล้ว และเขาต้องการขอความช่วยเหลือ — เขากลัวที่แม่ของเขาจะรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา เขาอดอาหารเป็นเวลาหนึ่งเดือนและอธิษฐาน “ผมต้องอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างแท้จริงและอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าจริงๆ ผมถูกหักหลัง พ่ายแพ้ และผมได้คืนที่พิเศษมาก — มันคือคืนแห่งอำนาจเดือนรอมฎอน” เขาเล่าอย่างเคร่งขรึม สิ่งที่เขาประสบในตอนนั้น สำหรับ Youssef มันคือจุดเปลี่ยน

ในขั้นต้น Youssef ย้ายไปอเมริกากับครอบครัวของเขาจากอียิปต์เมื่ออายุได้ 2 ขวบ และเมื่ออายุได้ 8 ขวบ เขาก็ได้ทำงานแปลก ๆ ไปแล้ว เขาศึกษาประวัติศาสตร์ที่ Baruch College ในนิวยอร์กตั้งแต่ปีพ. ศ. 2539 แต่ความหลงใหลที่แท้จริงของเขาอยู่ที่คอมพิวเตอร์ เขามีพีซีเครื่องแรกเมื่ออายุ 19 ปี และ "สอนตัวเองให้เขียนโค้ดทันทีและเริ่มทำสตาร์ทอัพ" เขาทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์อาวุโสที่ YadaYada บริษัทสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ เป็นเวลาสองปีก่อนที่จะเริ่มดำเนินการบนเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ ประการแรกเกี่ยวข้องกับคูปองที่แจกจ่ายผ่านข้อความ แต่แนวคิดนี้ล้มเหลวในการดึง

ในไม่ช้า ผู้ประกอบการหนุ่มรายนี้ก็ได้ลิ้มรสความสำเร็จครั้งแรกของเขา ในขณะที่เขาเปลี่ยนไปใช้เสียงเรียกเข้าที่ดาวน์โหลดได้ บริษัทใหม่ของเขาที่ชื่อว่า MatrixM “มีรายได้ 0 ถึง 1 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงหกเดือน”

“ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือผู้ใช้ที่ต้องการเสียงเรียกเข้าคือคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร - วัยรุ่น”

แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ทศวรรษหน้าก็ไม่ได้ช่วยให้ขี่ได้อย่างสบาย Youssef อธิบายส่วนที่ปั่นป่วนนี้ในชีวิตของเขาได้ดีที่สุดบน LinkedIn ซึ่งเขาเขียนชื่อของเขาว่า "ผู้ประกอบการ" ที่ "การเริ่มต้นที่ล้มเหลว 11 ครั้งและบทเรียนมากมายที่ได้เรียนรู้" ความจริงที่ว่าเขาไม่ยอมแพ้ในช่วงเวลานั้นพูดได้เต็มปาก แม้ว่าความสำเร็จครั้งแรกของเขาอาจเกิดจากโชคช่วย แต่ก็ช่วยให้เขาเชื่อมั่นในตัวเองได้อย่างแน่นอนแม้จะล้มเหลวมาหลายปี ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ประกอบการที่มีความสามารถหลังจากประสบความสำเร็จครั้งแรกหรือไม่ เขาก็ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อที่จะกลายเป็นหนึ่งหลังจากความล้มเหลวครั้งที่ 11

ในงานของเขาที่ MatrixM Youssef ค้นพบว่าโครงสร้างพื้นฐานแบบ peer-to-peer ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นนั้นเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงเสียงเรียกเข้าและผู้ชมในวงกว้าง ผู้ใช้สามารถอัปโหลดเสียงเรียกเข้าและดาวน์โหลดได้ วันนี้ Youssef อธิบายว่าแพลตฟอร์มแบบ peer-to-peer เช่น Uber และ Airbnb ได้ "กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา" เช่นเดียวกันจะเกิดขึ้นกับการเงินแบบ peer-to-peer “มนุษยชาติรอสิ่งนี้มานานแล้ว” เขากล่าว ในขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วสามารถได้รับประโยชน์ Youssef กล่าวว่าความต้องการในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่นทั่วแอฟริกาส่วนใหญ่มีมากขึ้น

เขาอธิบายปัญหาที่ผู้คนต้องเผชิญในการทำธุรกรรมเงินว่า “เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แม้ว่าพวกเขาจะมีบัญชีธนาคารและได้รับบัตรธนาคาร แต่ก็สามารถใช้จ่ายสูงสุด 100 ดอลลาร์ต่อเดือนด้วยบัตรวีซ่าของคุณ” ซึ่งหมายความว่าการส่งเงินเข้าและออกจากแอฟริกาอาจกลายเป็นฝันร้ายได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากพ่อค้าไม่สามารถซื้อสินค้าจากประเทศจีนได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น “พวกเขาต้องผ่านสามหรือสี่ฮ็อป เปลี่ยนเงินของพวกเขาเป็น USD ในตลาดมืด และหาวิธีที่จะนำมันมาสู่บัญชีธนาคารที่สามารถโอนเงินได้จริง ๆ เพราะบัญชีส่วนตัวของพวกเขาไม่สามารถทำได้” เขาอธิบายใน น้ำเสียงขุ่นเคือง

Paxful

ต่อมาในปี 2015 เขาได้รับการบอกเล่าถึงวิธีการทำกำไรจากการขายบัตรของขวัญเป็น BTC Youssef รู้สึกสงสัยแต่ตัดสินใจลองใช้มันด้วยความสิ้นหวัง “ฉันคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง แต่ก็ได้ผล เราจึงขยายขนาดมันขึ้น” เขาเล่าราวกับว่ายังแปลกใจอยู่ ด้วยระบบการทำงานของพวกเขา Youssef และ Schaback ตัดสินใจสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลสำหรับบัตรของขวัญ โดยมองว่าเป็น "วิธีที่ดีที่สุดในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร" ในโลกของสกุลเงินดิจิทัล หลังจาก 72 ชั่วโมงของการเขียนโค้ด Paxful ได้แพร่ภาพสด

Youssef เล่าถึงช่วงเวลาที่เขารับสายบริการลูกค้าจาก “ผู้หญิงที่สิ้นหวัง” ที่ต้องการซื้อ BTC มูลค่า 2.50 ดอลลาร์ เพื่อชำระค่าโฆษณาออนไลน์ จนถึง 13 ดอลลาร์สุดท้ายของเธอและไม่มีบัญชีธนาคาร เธอไม่รู้ว่าจะซื้อ Bitcoin อย่างไร เนื่องจากไม่มีบริการใดที่มุ่งสู่คนอย่างเธอ ขณะที่ลูกๆ ของเธอร้องไห้อยู่เบื้องหลัง Youssef ได้แนะนำให้เธอไปที่ร้านขายยาใกล้ๆ และซื้อบัตรของขวัญ Walmart มูลค่า 10 เหรียญ

“'ตกลง ฉันจะแนะนำคุณตลอดกระบวนการเปลี่ยนบัตรของขวัญ Walmart เป็น Bitcoin แล้วส่ง Bitcoin ไปยังที่อยู่นั้นจริงๆ' สองชั่วโมง — หนักหนาสาหัส”

ประสบการณ์ดังกล่าวมีรูปแบบที่เป็นรูปเป็นร่าง เนื่องจากแสดงให้เห็นการต่อสู้ที่แท้จริงของผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบธนาคารแบบเดิมที่พยายามใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตที่ทันสมัย “นั่นเป็นสาเหตุที่ Paxful อยู่เหนือ — เราเต็มใจทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ เราเต็มใจที่จะไปในที่ที่คนอื่นไม่เต็มใจไป เช่น ไนจีเรีย” Youssef อธิบาย โดยอ้างถึงข้อเท็จจริงที่ว่าธุรกรรมเล็กๆ นั้นทำกำไรได้เพียงเล็กน้อย เขาบอกว่าเขารู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งกับแอฟริกาเพราะรากเหง้าของเขา “ตลอดเวลานี้ ความฝันของผมคือการช่วยแอฟริกา” เขายืนยัน

วันนี้ Paxful อนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลผ่านวิธีการหลายร้อยวิธี มีผลกำไรและมีผู้ใช้มากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก “ผู้คนเกือบ 500 คนในสำนักงาน 9 แห่งทั่วโลก” เขาเชื่อว่าอีกไม่นาน แพลตฟอร์มดังกล่าวจะกลายเป็นกระแสหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในไนจีเรียซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทและเป็นบ้านนอกเวลาของ Youssef “พวกเขาคือคนที่จะดึงส่วนที่เหลือของแอฟริกาไปข้างหน้า ไนจีเรียเป็นสิงโตแห่งแอฟริกา” ยูเซฟกล่าวอย่างภาคภูมิใจ ราวกับว่าตัวเขาเองเป็นชาวไนจีเรีย ในไม่ช้า Youssef เชื่อว่ามันจะเป็น Silicon Valley ของแอฟริกา

สร้างด้วย Bitcoin

มูลนิธิ Built with Bitcoin ซึ่ง Youssef ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการบริหาร มีเป้าหมายที่จะสร้างโรงเรียน 100 แห่งทั่วโลกเพื่อสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของเขาหลังจากพายุเฮอริเคนแคทรีนาในรัฐหลุยเซียนาในเดือนสิงหาคม 2548 Youssef เห็นความหายนะในข่าวและ ตัดสินใจว่า “ฉันจะลงไปเอง”

บนพื้น เขาพบว่าการทำบุญต่างๆ ช่วยได้เพียงเล็กน้อย “ในที่สุด ฉันก็สามารถหาแม่ชีโดมินิกันห้าคนนี้ได้ในย่านเฟรนช์ควอเตอร์ พวกเขามีโรงเรียนและต้องการให้ฉันช่วยสร้างและเปิดโรงเรียนใหม่” Youssef เดินไปรอบ ๆ เมืองเพื่อไล่หาวัสดุก่อสร้างและเสบียง ซึ่งบางครั้งทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง มีอยู่ช่วงหนึ่ง เขาได้ผูกมิตรกับคนขับรถบรรทุก และ “ฉันกับเขาลงเอยด้วยการปล้นโลว์ [ร้านฮาร์ดแวร์] เพื่อเอาเสบียงไปโรงเรียน”

“ในช่วงเวลานี้ ฉันมีการผจญภัยมากมาย ครั้งหนึ่งฉันเกือบถูกตำรวจฆ่า และเห็นฉันเดินเตร่ไปทั่วเมืองโดยคิดว่าฉันเป็นคนขโมยของ”

Youssef เชื่อว่าการเปิดโรงเรียนเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้เมืองเปิดใหม่หลังเกิดภัยพิบัติ เนื่องจากตำรวจและหน่วยดับเพลิง “คงไม่กลับมาหากพวกเขาไม่สามารถส่งลูกๆ กลับไปโรงเรียนได้” เขาตระหนักว่าโรงเรียนเป็นเสาหลักของการพัฒนาชุมชนและอารยธรรม “นั่นคือสิ่งที่ผมมีความคิดสำหรับ Built with Bitcoin — โรงเรียนร้อยแห่งในอีกห้าปีข้างหน้า และเราได้สร้างสามแห่งแล้ว” เขากล่าว จนถึงตอนนี้ องค์กรได้เสร็จสิ้นสามโรงเรียน นอกจากโรงเรียนแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการทำฟาร์มแบบยั่งยืนและการจัดหาบ่อน้ำเพื่อรับประกันการเข้าถึงน้ำสะอาดของชุมชน

ตามเว็บไซต์ 92% ของเงินทุนเข้าสู่โครงการโดยตรง โครงการหนึ่งของโรงเรียนเมื่อเร็วๆ นี้ในรวันดาดำเนินการร่วมกับองค์กรการกุศลชื่อ Zam Zam Water ในขณะที่การสร้างโรงเรียนและบ่อน้ำหล่อเลี้ยงชุมชนให้เติบโตอย่างแน่นอน ความคิดที่ว่าการเพิ่มจำนวนของ cryptocurrencies สามารถช่วยสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติที่เชื่อมโยงถึงกันนั้นเป็นแนวคิดที่ใหม่กว่ามาก “ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนมองโลกในแง่ดี Bitcoin” Youssef กล่าว

เอล Bitcoin

เมื่อประธานาธิบดี Nayib Bukele ของเอลซัลวาดอร์เพิ่งประกาศว่า Bitcoin เป็นสกุลเงินที่เป็นทางการของประเทศ สื่อต่างประเทศก็ไม่เชื่อ Youssef เป็นหนึ่งใน CEO ที่บินไปต่างประเทศในช่วงหลายสัปดาห์หลังจากการประกาศ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาหวังที่จะเปิดตลาดหลักใหม่สำหรับ Paxful

ในมุมมองของเขา กฎหมาย Bitcoin ใหม่ ซึ่งเห็นว่าประชาชนทุกคนได้รับairdrop มูลค่า $30 ใน BTCเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไป . ถึงกระนั้น เขาตั้งข้อสังเกตว่า “ขุนนางเก่าของเอลซัลวาดอร์ออกมา” เพื่อทำให้ดูหมิ่นเขาในฐานะผู้ล่าอาณานิคมหลังจากที่เขา “ถ่ายรูปที่สนามบินกับตำรวจกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ทำงานให้ฉัน”

Youssef มั่นใจว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เนื่องจากการใช้ Bitcoin และ cryptocurrencies ระดับรากหญ้าจะ “แพร่กระจายไปยังคอสตาริกา กัวเตมาลา ปานามา ฮอนดูรัสเช่นกัน และในที่สุดเม็กซิโกและอเมริกากลางทั้งหมด – เราเห็นอย่างชัดเจน”